ไอเดียการตลาด หมีเนย ButterBear Mascot Marketing
ตอนนี้ใครไม่รู้จัก “หมีเนย” ต้องบอกว่าเชยระเบิด เพราะตอนนี้น้องหมีตัวนี้ดังมาก ถึงขนาดมีคนตั้งคำถามตกลงว่าน้องเป็นคนหรือว่าเป็นหมีจริงกันแน่?
อันที่จริงการตลาดที่ใช้ มาสคอต (mascot) ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยมาสคอตทางธุรกิจตัวแรก เกิดขึ้นในปี 1898 คือ “Bibendum” ของยางมิชลินที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี และถ้าจะถามถึงมาสคอตอื่นที่อยู่ในความทรงจำของคนไทยก็เช่น
- โรนัล แมคโดนัลด์ (Ronald Mcdonald)
- ผู้พันแซนเดอร์ส
- มิชลินแมน
- มิกกี้เมาส์ (Mickey Mouse)
- มาริโอ (Mario)
- บาบีก้อน
การใช้มาสคอตมาทำการตลาดแบบนี้มีชื่อเรียกในภาษาการตลาดว่า ‘Character Marketing’ หรือเรียกอีกอย่างคือ ‘Cute Marketing’
ภาพจาก FB : Butterbear.th
ก็ต้องยอมรับว่า ButterBear หรือ น้องหมีเนย มาสคอตสุดน่ารักจากร้านขนม “Butterbear” ในเครือ Coffee Beans by Dao ที่มาแรงแซงทางโค้งในตอนนี้ ถือเป็นการสร้าง Customer Experience ของได้อย่างน่าทึ่ง
ซึ่งคำว่า Customer experience (ประสบการณ์ลูกค้า) คือ สิ่งที่ลูกค้ารู้สึกกับสินค้าหรือบริการ ทั้งก่อนการใช้งาน ระหว่างใช้งาน จนถึงหลังจากใช้งานเสร็จสิ้นแล้ว หากวิเคราะห์เจาะลึกลงไปจะพบว่า ButterBear สร้างImcpact ได้อย่างน่าสนใจเช่น
- ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเกิดกับแบรนด์
- ช่วยเล่าเรื่องของแบรนด์ได้อย่างดี เพราะ Butterbear มีทั้งเพลง มีคลิปวิดีโอ มีมีม ที่ทั้งน่ารัก ตลก แชร์ต่อได้ง่าย จึงกลายเป็นกระแสโด่งดังบนโซเชียลมีเดีย
- ช่วยสร้างการมีส่วนร่วม เนื่องจากButterbear มีกิจกรรมให้ลูกค้าร่วมสนุก ถ่ายรูป เช็คอิน สร้าง Engagement ดึงดูดให้ลูกค้าติดตาม กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสะสม อยากเป็นเจ้าของ
- สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น
- สร้างภาพลักษณ์เชิงบวก แถมช่วยสร้าง Brand Awareness ทำให้ลูกค้าจดจำไม่ว่าจะเป็นชื่อร้าน โลโก้ สินค้า จนไปถึงการเกิด Brand Loyalty ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพัน รัก อยากกลับมาซื้อซ้ำได้อีกด้วย
ถ้ายังเห็นภาพไม่ชัด ลองดูตัวเลขซึ่งเป็นข้อมูลจาก AI Summary ที่ได้วิเคราะห์แบรนด์ Butterbear ช่วงวันที่ 1 – 12 มิถุนายน 2567 พบว่า ความนิยมของแบรนด์ Butterbear มียอดการมีส่วนร่วมการดู ไลค์ แชร์ คอมเมนต์ (Engagement) รวมทั้งหมด 13,599,968 เอ็นเกจเมนต์
ภาพจาก FB : Butterbear.th
ช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ
- TikTok ถึง 9,971,877 เอ็นเกจเมนต์ หรือคิดเป็น 73.3%
- X (Twitter) มียอดการมีส่วนร่วม 3,554,490 (26.1%)
- Instagram ได้รับ 41,184 เอ็นเกจเมนต์ (0.3%)
- Facebook ได้รับ 25,587 เอ็นเกจเมนต์ (0.2%)
- YouTube ได้รับ 6,820 เอ็นเกจเมนต์ (0.1%)
ซึ่งจะเห็นได้ว่าแบรนด์ Butterbear ได้รับความสนใจจากช่องทาง TikTok และ X (Twitter) รวมกันกว่า 99% ในส่วนของความรู้สึกต่อแบรนด์ จากข้อมูลการวิเคราะห์ พบว่า การกล่าวถึงในเชิงบวก (Positive) อยู่ที่ 9.78% ส่วนความรู้สึกเป็นกลาง (Neutral) 90.01% และความรู้สึกในเชิงลบ (Negative) 0.21% เท่านั้น โดยปัจจัยเชิงบวก ได้แก่ ให้ความเป็นธรรมชาติ, รสชาติอร่อย ในขณะที่ปัจจัยเชิงลบ คือ บรรจุภัณฑ์ไม่โดดเด่นและราคาสูงเกินไป
ภาพจาก FB : Butterbear.th
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า Butterbea ถือเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่เกินคุ้มมาก ทำให้คนรู้จักกับแบรนด์ และทำให้ธุรกิจสามารถแตกไลน์สินค้าออกมาได้มากมาย ความสำเร็จหลังจากนี้ ไม่ใช่แค่ร้านขนม แต่น้องหมีเนย กลายเป็น Personal Branding ที่ทำให้แบรนด์แตกไลน์สินค้าออกมากได้มากมาย ทั้งแก้ว จาน สมุด สติกเกอร์ ฯลฯ
แถมกระแสนี้ยังแรงถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรีของไทย ยังออกมากล่าวว่า Butterbear เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้มาสคอตในการส่งต่อวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ เช่นเดียวกับ Miffy จากเนเธอร์แลนด์ หรือ Labubu จากฮ่องกง มาสคอตที่น่ารักและมีเอกลักษณ์นี้ ไม่เพียงแต่สร้างความสุขให้ผู้พบเห็น แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultan