ก่อนไปโอนบ้าน คอนโด ที่พัก ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิต แต่การซื้อขายบ้านพร้อมอยู่เพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าของได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่จะรับรองความเป็นเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์ บทความนี้จะแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการโอนบ้านและคอนโด เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมั่นใจ ถูกต้องตามกฎหมาย

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนโอนบ้าน คอนโด ที่พัก

ขาย บ้าน

การโอนกรรมสิทธิ์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีความสำคัญหลายประการ ดังนี้

  • รับรองความเป็นเจ้าของตามกฎหมาย : การโอนกรรมสิทธิ์ทำให้คุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปกป้องสิทธิของคุณในฐานะเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์
  • ป้องกันปัญหาในอนาคต : การโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง จะช่วยป้องกันปัญหาการฟ้องร้องหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของในอนาคต
  • ทำธุรกรรมได้อย่างถูกต้อง : เมื่อคุณเป็นเจ้าของตามกฎหมาย คุณสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นได้อย่างเต็มที่ เช่น การขาย การให้เช่า หรือการจำนอง
  • ความสบายใจ : การรู้ว่าคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจตลอดเวลาที่อยู่อาศัย

ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

  1. นัดหมายที่สำนักงานที่ดิน : ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องไปพร้อมกัน
  2. ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียม : เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและคำนวณค่าธรรมเนียม
  3. จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ : เจ้าหน้าที่จะบันทึกการโอนกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์
  4. รับเอกสารสิทธิ์ : หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ คุณจะได้รับเอกสารสิทธิ์ที่มีชื่อคุณเป็นเจ้าของ

เอกสารที่ใช้ในการโอนบ้าน คอนโด ที่พัก

การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยลดความล่าช้าในกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน และหากคุณไม่แน่ใจว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดินได้เลย โดยทั่วไปเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียม มีดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา

  1. บัตรประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด
  2. ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา 1 ชุด
  3. หนังสือมอบอำนาจ (ทด.21) กรณีมอบอำนาจ
  4. หนังสือให้ความยินยอมให้ขายที่ดินหรือที่ดินพร้อมบ้าน (กรณีสมรส)
  5. สำเนาบัตรประชาชนคู่สมรส (กรณีสมรส)
  6. สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส (กรณีสมรส)
  7. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีสมรส)
  8. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีหย่า)
  9. สัญญาจะซื้อจะขาย
  10. โฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ (เช่น นส.3ก, นส.3, หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด)

กรณีนิติบุคคล

  1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
  2. หนังสือบริคณห์สนธิ และวัตถุประสงค์
  3. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น กรณีบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน จำกัด
  4. แบบรับรองรายการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนแล้ว
  5. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลไทยที่ถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชน จำกัด
  6. บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน และตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคล
  7. รายงานการประชุมนิติบุคคล
  8. โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน คอนโด ที่พัก

ค่าโอนบ้าน คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน คอนโด หรืออสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งจะต้องไปดำเนินการ ณ กรมที่ดิน โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ มีดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ เป็นค่าใช้จ่ายหลักในการโอน โดยทั่วไปคิดเป็น 2% ของราคาประเมินทรัพย์สิน
  • ค่าอากรแสตมป์ คิดในอัตรา 0.5% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน แล้วแต่ว่าจำนวนใดสูงกว่า
  • ค่าภาษีเงินได้ ผู้ขายอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากการขายทรัพย์สิน
  • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปีนับจากวันที่ได้มา คิด 3.3% ของราคาขาย
  • ค่าจดจำนอง กรณีผู้ซื้อกู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อบ้าน คอนโด จะมีค่าใช้จ่ายในการจดจำนองเพิ่มเติม 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด

สรุป เช็กบ้านให้ดีก่อนโอนกรรมสิทธิ์ทุกครั้ง

นอกจากนี้ ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ คุณควรตรวจสอบสภาพบ้านหรือคอนโดให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ การโอนกรรมสิทธิ์อาจดูเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและความเข้าใจในขั้นตอนต่างๆ คุณจะสามารถเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างราบรื่น หากมีข้อสงสัยใดๆ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามขั้นตอน

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต