“โอชายะ” ก้าวสู่ผู้นำ “ร้านชานม” ระดับประเทศ พร้อมลุยเปิดตลาด “กัมพูชา” ยอดขายดีมาก

ตัวเลขการดื่มชานมไข่มุกของคนไทยไม่เคยแผ่ว! ธุรกิจนี้จึงมีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจมาก ถ้าไปดูตัวเลขจะพบว่า มูลค่าการตลาดมากกว่า 100,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2568 จะมากยิ่งขึ้นด้วยมูลค่าประมาณ 3.43 แสนล้านบาท

เฉลี่ยคนไทยจะดื่มชานมไข่มุกประมาณ 5-6 แก้ว/เดือนหรือบางคนก็ดื่มมากกว่านั้นแม้ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรงแต่ก็ดูจะไม่ส่งผลต่อธุรกิจนัก เนื่องด้วยแต่ละแบรนด์ก็หันมาเน้น “วัตถุดิบเพื่อสุขภาพ” มากขึ้น

โดย “โอชายะ” ถือเป็นอีกแบรนด์แฟรนไชส์ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 17 ปี และมีการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนวันนี้ได้ก้าวสู่การเป็น “ธุรกิจร้านชานมระดับประเทศ” ที่ได้ขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย

“โอชายะ” ต้องการให้คนไทยได้ดื่ม “ชานม” คุณภาพ

โอชายะ

แฟรนไชส์โอชายะก่อตั้งในปี 2007 โดยคุณ Stanley Yu ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน ที่เขามาทำงานในเมืองไทยและรู้สึกผูกพันกับคนไทย และมีแนวคิดต้องการให้คนไทยได้ดื่มชานมแบบไต้หวันแท้ๆ เริ่มต้นด้วยการตั้งโรงงานชา รับทำ OEM

ชานำเข้าจากไต้หวันและใช้เวลากว่าครึ่งปีเพื่อทดลองหาสูตรการชงชาไข่มุกที่เหมาะกับคนไทย จนโอชายะเปิดสาขาแรกที่เหม่งจ๋ายในปี 2007 บนพื้นที่ 9 ตร.ม. เน้นชาไต้หวันต้มสดชงสดเพื่อสุขภาพ ด้วยราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานและนักเรียนนักศึกษา และทำให้แบรนด์โอชายะเติบโตมาเป็นลำดับ

โอชายะ

ในปี 2011 โอชายะ เริ่มขยายสาขาทั่วประเทศมากขึ้น สาขารวม 94 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากนั้นสาขาของโอชายะก็มีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกปีจนถึงปี 2015 ที่มีสาขามากถึง 350 แห่ง และได้พัฒนาเครื่องดื่มในกลุ่ม Non-Tea ดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้ดูทันสมัยมากขึ้น

แม้ในช่วงปี 2020 ที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID โอชายะเองก็ปรับกลยุทธ์นำเสนอแฟรนไชส์ในราคาพิเศษให้คนลงทุนง่ายขึ้น และมีการ Rebrand เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่แต่ยังรักษามาตรฐานคุณภาพในเรื่องรสชาติไว้เช่นเดิม

ตลาดชานม “แข่งกันที่คุณภาพ”

โอชายะ

โอชายะชูคอนเซปต์ “ชาเพื่อสุขภาพ” และมองว่าสิ่งที่ทำให้โอชายะเป็นแบรนด์ชานมที่อยู่ในใจลูกค้าเสมอมาเป็นผลมาจากหลายปัจจัยได้แก่

  1. เป็นเครื่องดื่มชานมไข่มุกที่มีรสชาติหอมอร่อย เพราะเน้นใบชาแดงนำเข้าจากไต้หวันมาอบโดยโรงงานไทย และต้มสด ชงสดที่หน้าร้านแก้วต่อแก้ว มีการควบคุมอุณหภูมิความร้อนของน้ำชาให้คงที่ ตัวไข่มุกไม่ใส่สารกันบูด
  2. ตั้งราคาจำหน่ายต่อแก้วไม่สูงจนเกินไป ในราคาเริ่มต้นแก้วละ 30 บาทไม่ใส่ไข่มุก และรวมไข่มุกเริ่มต้น35 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คนทั่วไปซื้อหามาทานได้ เพื่อเน้นปริมาณการขายจำนวนมากต่อวัน
  3. เน้นขยายสาขาไปยังกลุ่มลูกค้า ในแหล่งชุมชน ในห้างสรรพสินค้า เจาะกลุ่มย่านนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน และมีการพัฒนาเมนูให้เข้ากับยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง
  4. มีแคมเปญโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าตามเทศกาลต่างๆ เช่นส่วนลดราคา ซื้อ2 แถม1 และอื่นๆ เป็นต้น

โดยโอชายะมองว่าเครื่องดื่มชานมไข่มุกนั้นเป็นสินค้าสินค้า Emotiona ลูกค้าจะดื่มเพื่อคลายเครียด ดื่มเพื่อให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นสินค้าจึงต้องมีจุดเด่นทั้งในเรื่องรสชาติ ราคา และบริการ จะเพิ่มโอกาสสร้างกำไรในระยะยาวได้

เจาะตลาด “กัมพูชา” ยอดขายดีมาก

โอชายะ

ในเมืองไทยโอชายะคือแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีสาขากว่า 350 แห่ง และเพื่อต่อยอดให้เป็นแบรนด์ที่ก้าวสู่ความเป็นสากลมากขึ้น โอชายะ เริ่มลุยเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดคือ “โอชายะ สาขาปอยเปต” ประเทศกัมพูชา พิกัดของสาขาแห่งนี้อยู่ที่ ตลาดนัดต้นสน (Night Market) บริเวณสี่แยก Star Gold เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

รูปแบบร้านเป็นโอชายะสไตล์คาเฟ่ ที่เน้นบรรยากาศให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมากเช่น กาแฟลาเต้ , ชานมกาแฟ , เลมอนไต้หวันจัสมินที , น้ำเลมอนไต้หวัน , ชาเขียวมะลิ เป็นต้น ด้วยชื่อเสียงของโอชายะที่ติดอันดับผู้นำธุรกิจชานม ยิ่งทำให้แบรนด์โอชายะในกัมพูชา ได้รับความสนใจจากลูกค้าในพื้นที่และสร้างปรากฏการณ์ยอดขายดีมาก ตอกย้ำความเป็นสุดยอดแบรนด์ร้านชานมไข่มุกที่ไม่ใช่แค่ทำให้ลูกค้าพอใจ แต่ยังสร้างรายได้ดีให้กับผู้สนใจลงทุนอีกด้วย

อยากลงทุนกับ “โอชายะ” ใช้เงินทุนเท่าไหร่?

เงินลงทุนเริ่มต้น 60,000 บาทราคาดังกล่าวขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ร้านค้า โดยมี 3 ขนาด คือ

  • ขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 6-9 ตารางเมตร
  • ขนาดกลางขนาด 10-15 ตารางเมตร
  • ขนาดใหญ่ 16 ตารางเมตร ขึ้นไป และตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า

ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจได้นั้นจะมีการสำรวจและวิเคราะห์พื้นที่ (ลงพื้นที่และวิเคราะห์ปริมาณลูกค้า)วิเคราะห์ความเป็นไปได้ และความคุ้มทุนในการลงทุนของแฟรนไชส์ ประเมินและวางแผนก่อนดำเนินธุรกิจ เพราะโอชายะให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ต้องสร้างรายได้ดี เป็นธุรกิจที่มีคุณภาพทั้งต่อผู้ลงทุนและลูกค้า อันเป็นมาตรฐานของโอชายะที่ยึดถือมาโดยตลอด

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับก่อนเปิดร้านคือการฝึกอบรมบุคลากร การวางระบบบริหารจัดการ การส่งเสริมด้านการตลาด รวมถึงการให้คำปรึกษาโดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโอชายะเป็นธุรกิจที่พร้อมเดินหน้ากับผู้ลงทุนทุกคน และจะเติบโตไปด้วยกัน

ในโลกโซเชี่ยลเองเคยมีคนตั้งคำถามว่าลงทุนกับโอชายะแล้วรายได้ดีแค่ไหน ก็มีผู้เข้ามาให้ความเห็นได้อย่างน่าสนใจว่าถ้าคิดกำไรเฉลี่ยที่ 50% จากยอดขาย ถ้าขายได้วันละ 200 – 300 แก้ว ตัดต้นทุนรายจ่ายทุกอย่างทั้งค่าน้ำค่าไฟ ค่าบริหารจัดการ ค่าเช่าพื้นที่ เฉลี่ยแล้วยังมีกำไรสุทธิต่อเดือนประมาณ 50,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับยอดขายและต้นทุนในแต่ละพื้นที่)

ถ้าประเมินจากตัวเลขนี้ก็ถือว่ามากพอที่จะสร้างรายได้ที่ดี และเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่การันตีว่าสร้างรายได้ดีจริง คุ้มค่าการลงทุนได้แน่นอน

โอชายะ
สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก
https://bit.ly/3zVt2GL
โทร. 063-5355301 , 081-9228843 , 065-2199152 , 099-1540509 , 02-7265836 ต่อ 168

 

ดาวเด่นแฟรนไชส์ : Star Franchise

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด