โรคกระดูกเข่าเสื่อมรักษาได้ไหม แล้วต้องรู้อะไรบ้าง ?

โรคกระดูกเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและผู้ที่มีน้ำหนักเกิน แม้โรคกระดูกเข่าเสื่อมจะเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถชะลอการเสื่อมและบรรเทาอาการได้ด้วยการดูแลที่เหมาะสม

โรคกระดูกเข่าเสื่อม

โรคกระดูกเข่าเสื่อมคืออะไร ?

โรคกระดูกเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนที่อยู่บริเวณข้อต่อเข่า โดยกระดูกอ่อนทำหน้าที่เป็นหมอนรองกระดูก ช่วยลดการเสียดสีเมื่อขยับข้อต่อ เมื่อกระดูกอ่อนเริ่มเสื่อมสภาพ จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและอักเสบที่ข้อต่อ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความยากลำบากในการเดินและเคลื่อนไหว

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

  1. อายุที่เพิ่มขึ้น: ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปมีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น เพราะกระดูกอ่อนเสื่อมตามธรรมชาติ
  2. น้ำหนักตัวเกิน: น้ำหนักตัวที่มากทำให้เข่าต้องรับภาระหนัก ส่งผลให้กระดูกอ่อนสึกหรอเร็วขึ้น
  3. การบาดเจ็บที่เข่า: ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บที่เข่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดโรคนี้ในอนาคต
  4. กรรมพันธุ์: หากสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนี้ ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  5. การใช้งานเข่าซ้ำๆ: การเคลื่อนไหวที่ต้องใช้เข่ามาก เช่น การวิ่ง การยืนยาวนาน อาจเร่งให้กระดูกอ่อนเสื่อมเร็วขึ้น

อาการที่ควรระวัง

  • อาการปวดเข่า โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นบันได
  • ข้อเข่าฝืดหรือแข็ง ทำให้ขยับยาก
  •  เสียงกระดูกขัดกันขณะเคลื่อนไหว
  • อาการบวมและอักเสบบริเวณข้อต่อ

โรคกระดูกเข่าเสื่อมรักษาได้ไหม ? แล้วมีวิธีอะไรบ้าง ?

การรักษาโรคกระดูกเข่าเสื่อมเสื่อมมีหลายวิธี ตั้งแต่การรักษาแบบไม่ผ่าตัดจนถึงการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและสภาพร่างกายของผู้ป่วย

1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

  • การใช้ยา: ยาลดอาการปวดและยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ช่วยลดอาการปวดและบวม เช่น ไอบูโพรเฟนหรือพาราเซตามอล
  • กายภาพบำบัด: โรคกระดูกเข่าเสื่อมสามารถรักษาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่า เพิ่มความยืดหยุ่นและลดแรงกระแทกที่ข้อต่อ
  • การปรับพฤติกรรม: ลดการใช้งานเข่าหนัก ๆ หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนาน ๆ และควรลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักตัวเกิน
  • การใช้เข็มขัดพยุงเข่า: ช่วยลดแรงกดที่ข้อต่อและลดอาการปวด

2. การรักษาโดยการฉีดยา

  • การฉีดสารหล่อลื่นข้อเข่า (Hyaluronic Acid): ช่วยเพิ่มความหล่อลื่น ลดการเสียดสีและบรรเทาอาการปวด
  • การฉีดยาสเตียรอยด์: ถึงแม้โรคกระดูกเข่าเสื่อมจะรักษาได้ด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดการอักเสบและอาการปวดในระยะสั้น แต่ไม่ควรใช้บ่อยเพราะอาจทำให้กระดูกอ่อนเสื่อมเร็วขึ้น
  • การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma): ใช้เลือดของผู้ป่วยเองที่มีเกล็ดเลือดสูงเพื่อช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อน

3. การผ่าตัด

  • การผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscopy): ปัจจบุันโรคกระดูกเข่าเสื่อมสามารถรักษาได้โดยใช้เครื่องมือขนาดเล็กเพื่อลดการอักเสบและทำความสะอาดข้อต่อ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า (Knee Replacement Surgery): เป็นการเปลี่ยนข้อเข่าด้วยข้อเทียม สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

การป้องกันและดูแลตัวเอง

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายที่ไม่เน้นแรงกระแทก เช่น ว่ายน้ำ โยคะ หรือการปั่นจักรยาน ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า

  • การควบคุมน้ำหนัก: ลดน้ำหนักตัวเพื่อไม่ให้เข่าต้องรับภาระหนักเกินไป
  • การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม เต้าหู้ และผักใบเขียว ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ

โรคกระดูกเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ แม้ว่าการเสื่อมของกระดูกอ่อนจะไม่สามารถย้อนกลับได้ แต่การรักษาและการปรับพฤติกรรมสามารถช่วยบรรเทาอาการและชะลอการเสื่อมสภาพได้อย่างมาก หากคุณมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคกระดูกเข่าเสื่อม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต