แฟรนไชส์ สตาร์แมท จินตคณิต นักเรียนเก่ง! คนลงทุนมีกำไร! เดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศ

เดือนมกราคม ถือเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้น ใครที่มีแผนลงทุนทำธุรกิจใดๆ ก็ควรจะรีบตั้งต้นลงทุนตั้งแต่เดือนนี้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่น่าสนใจโดยเฉพาะในแวดวง “การศึกษา” ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ด้วยความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครองยุคใหม่ ที่ต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ความสามารถมากกว่าการเรียนตามหลักสูตรในโรงเรียนจึงเป็นโอกาสทองของโรงเรียนกวดวิชาต่างๆ ที่จะงัดจุดดีจุดเด่นมาเป็นตัวเลือกให้คนเลือกเรียนและเลือกลงทุนมากขึ้น

หนึ่งในแฟรนไชส์การศึกษาที่ www.ThaiSMEsCenter.com มองเห็นทิศทางการเติบโตชัดเจนคือ สตาร์แมท จินตคณิต ที่ก่อตั้งมานานกว่า 9 ปีและมีผลงานของผู้เรียนที่สามารถนำเอาวิชาความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและที่สำคัญ “งบประมาณในการลงทุนไม่สูง” ใครที่กำลังมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจการศึกษา “สตาร์แมท” คือคำตอบที่ถูกใจใช่เลย

กว่าจะมาเป็น “สตาร์แมท” ธุรกิจการศึกษาชั้นนำระดับประเทศ

ธุรกิจการศึกษาก็ไม่ต่างจากการลงทุนแบบอื่นๆ สำคัญคือต้องเริ่มจาก “ความชอบ” ซึ่งคุณกชกร หอมหวล หรือครูปุ๋ม ก็มีจุดเริ่มต้นเพียงแค่อยากจะสอนคณิตศาสตร์ให้กับลูกได้เก่งขึ้น นำไปสู่การหาข้อมูลว่าจะมีหลักสูตรเนื้อหาแบบไหนอย่างไรที่จะนำมาพัฒนาเด็กเล็กให้ต่อยอดขึ้นไปได้

ซึ่งจากการเสาะแสวงหาแนวทางการสอนมาสรุปลงตัวที่ “หลักสูตรจินตคณิต” โดยครูปุ๋มมองว่าคณิตศาสตร์ไม่ใช่แค่วิชาท่องจำ และไม่ได้มีแค่วิธีบวก ลบ คูณ หาร แต่ควรให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้จินตนาการ ควบคู่การคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ซึ่งหลักสูตร “จินตคณิต” ของสตาร์แมท จะเสริมในเรื่องของเชาวน์คณิต และการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา โดยอาศัยหลักการจินตภาพในการตีความ ทำให้เด็กสนุกและผู้ปกครองหมดกังวลเรื่องที่ลูกสับสนวิธีคิดปกติกับวิธีคิดจินตคณิต

หลักสูตรจินตคณิตของ “สตาร์แมท” เจ๋งจริง! เรียนแล้วใช้งานได้แน่

  1. หลักสูตรของ “สตาร์แมท” แบ่งเป็น 3 หลักสูตรคือ
  2. หลักสูตรจินตคณิต งบในการลงทุน 130,000 บาท
  3. หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths + หลักสูตรทดลองวิทยาศาสตร์ งบในการลงทุน 230,000 บาท
  4. หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths + หลักสูตรทดลองวิทยาศาสตร์ + หลักสูตรภาษาไทย งบลงทุน 250,000 บาท

โดยแต่ละหลักสูตรมีจุดเด่นที่ต่างกัน เริ่มต้นจาก Junior Maths ที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้ลูกมีทักษะด้านคณิตศาสตร์แต่ยังไม่พร้อมจะไปถึงคอร์ส จินตคณิต การเรียน Junior Maths จึงเป็นการปูพื้นฐานในการก้าวไปเรียน “จินตคณิต” ได้ง่ายขึ้น ในส่วนของ หลักสูตร “จินตคณิต” มีการแบ่งออกเป็นอีก 11 เลเวลเริ่มจาก

  • เลเวล 1-4 การนับนิ้วมือบวก- ลบ ที่สามารถใช้นิ้วมือนับเลขบวกลบได้ถึงหลักหมื่น
  • เลเวล 5-8 การบวก-ลบ ด้วยการใช้ทักษะของลูกคิด
  • เลเวล 9 การบวกลบด้วยจินตนาการ
  • เลเวล 10 การคูณด้วยลูกคิด
  • เลเวล 11 การหารด้วยลูกคิด

โดยจุดเด่นของหลักสูตรเหล่านี้คือใช้เวลาเรียนสั้น 2-3 ปีก็จบหลักสูตร แตกต่างจากหลักสูตรของสถาบันอื่นที่ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรรวม ผู้เรียนต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนมากขึ้น ซึ่งการแบ่งซอยหลักสูตรให้เลือกเรียนตามความเหมาะสมนี้ก็ให้สอดคล้องกับผู้เรียนในยุคใหม่ที่พ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานมีความรู้ในหลากหลายวิชา

ซึ่งการเรียนจินตคณิตของสตาร์แมทก็ทำให้ผู้เรียนประหยัดเวลาได้มากขึ้นและเลือกเรียนวิชาอื่นที่ต้องการได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้สตาร์แมทยังมีหลักสูตรสอนภาษาไทยสำหรับเด็กอายุ 4-10 ปี เป็นหลักสูตรเฉพาะพัฒนามาจากการเรียนการสอนในห้องเรียนจริง เห็นผล 100 % ด้วย

การันตีคุณภาพด้วยรางวัลสำคัญในการแข่งขันต่างๆ

หนึ่งในมาตรฐานที่ชัดเจนของสตาร์แมทคือการที่ผู้เรียนได้เข้าร่วมแข่งขันในเวทีสำคัญต่างๆ และสามารถคว้ารางวัลได้ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในระดับประเทศที่สตาร์แมทก็ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าแข่งขันและนักเรียนก็ได้รับรางวัลกลับมาจำนวนมาก รวมถึงมีผลงานการแข่งขันในต่างประเทศ

อย่างล่าสุดคือการแข่งขันคณิตศาสตร์ที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน นักเรียนของสตาร์แมท คว้ารางวัลอันดับ 3 จากการแข่งขันนี้ เป็นการการันตีในเรื่องคุณภาพมาตรฐานของหลักสูตรว่าไม่เป็นสองรองใครแม้ปัจจุบันหลักสูตรจินตคณิตจะมีหลายแบรนด์ให้ความสำคัญแต่ของ “สตาร์แมท” เน้นย้ำ ถึงคำว่าคุณภาพ และผู้เรียนนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริง การันตีจากรางวัลการแข่งขันในระดับต่างๆ

ขั้นตอนการลงทุนง่ายสำหรับคนสนใจธุรกิจการศึกษา “สตาร์แมท”

1. เริ่มต้นจากการสำรวจตัวเอง

ธุรกิจนี้สำคัญคือใจรักเพราะเป็นงานด้านการศึกษาที่ต้องเน้นคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ คนที่จะลงทุนในธุรกิจการศึกษาได้ต้องมีใจที่อยากเป็นครู เป็นผู้ให้

2. มีทำเลที่เหมาะสม

ทำเลที่เหมาะสมไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่ขอให้อยู่ในย่านชุมชน ใกล้โรงเรียน หรือเป็นโซนการศึกษา โดยสตาร์แมทไม่แนะนำผู้ลงทุนให้เปิดธุรกิจนี้ในพื้นที่แบบเดี่ยวๆ

3. เลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม

ผู้ลงทุนบางรายมีธุรกิจการศึกษาตัวเองอยู่แล้วแต่ต้องการเพิ่มเติมหลักสูตรก็สามารถเลือกหลักสูตรที่ต้องการได้ หรือบางคนต้องการเริ่มต้นใหม่ก็แนะนำให้เลือกหลักสูตรจินตคณิต หรือ หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths + หลักสูตรทดลองวิทยาศาสตร์ + หลักสูตรภาษาไทย ที่ถือว่าครบวงจรและคุ้มค่าที่สุด

4. แฟรนไชส์พร้อมดูแลและสนับสนุนเต็มที่

เมื่อตัดสินใจเลือกลงทุนได้ ทางแฟรนไชส์มีทีมงานคุณภาพในการดูแลผู้ลงทุนทุกขั้นตอนตั้งแต่การตกแต่งสถานที่ การขออนุญาตเปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชา การแนะนำเรื่องการเสียภาษี และขั้นตอนต่างๆ ที่ผู้ลงทุนต้องรู้ รวมถึงการสนับสนุนในการอบรด้านบุคลากร การให้คำแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการต่างๆ และการอัพเดทหลักสูตรเนื้อหาใหม่ๆ ให้อย่างต่อเนื่อง

ปี 2563 ตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศ 10 แห่ง

ปัจจุบันสตาร์แมทมีสาขาทั้งหมด 3 แห่ง แต่ด้วยการเติบโตและความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมาก ในปี 2563 สตาร์แมทตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศให้ครบ 10 แห่งโดย 4 จังหวัดที่ตั้งใจและเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ คือ นครสวรรค์ ชลบุรี นนทบุรี และนครราชสีมา

ซึ่งหากผู้สนใจลงทุนและมีพื้นที่ทำเลใน 4 จังหวัดดังกล่าวสามารถติดต่อมาที่ “สตาร์แมท” จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในเบื้องต้นทันที ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ก็มีความต้องการขยายสาขาไปเช่นเดียวกันเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตทางธุรกิจที่มากขึ้น

โครงการ “สตาร์แมท แมทนี้เพื่อน้อง”

และนอกจากจะเป็นแฟรนไชส์การศึกษาที่มีอัตราการเติบโตชัดเจนและวางแผนขยายสาขาทั่วประเทศ สตาร์แมทยังให้ความสำคัญแก่สังคมก่อให้เกิดโครงการ “สตาร์แมท แมทนี้เพื่อน้อง” โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้โรงเรียนทั่วประเทศได้ส่งจดหมายเข้ามาเพื่อ “ขอหลักสูตรการเรียนการสอนของสตาร์แมท” ทั้งคณิตศาสตร์และภาษาไทย โดยทางสตาร์แมทจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาตามความเหมาะสม และมีทีมงานเดินทางไปมอบหลักสูตรให้โรงเรียนที่ผ่านการพิจารณาและสอนบุคลากรให้เข้าใจในหลักสูตรที่สอนอย่างเต็มที่

โดยโครงการนี้ตั้งเป้าเพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงหลักสูตรการเรียนการสอนที่ดีแก่นักเรียนที่อยู่ห่างไกลหรือด้อยโอกาสทางการศึกษาได้มีโอกาสได้เรียนรู้กับหลักสูตรคุณภาพที่พร้อจะพัฒนาผู้เรียนได้มากขึ้นในอนาคตด้วย

สนใจลงทุน “สตาร์แมท” ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเงินทุน สามารถปรึกษาได้

หลายคนมองว่าธุรกิจการศึกษาเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ แต่หลายคนเช่นกัน ไม่มั่นใจที่จะลงทุนด้วยไม่มีประสบการณ์ หรือบางคนไม่มีเงินทุนมากพอ ทั้งนี้ “สตาร์แมท” พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่ทุกคนที่สนใจ หากไม่มีประสบการณ์ ทางแฟรนไชส์ก็มีการเทรนด์ การสอน การอบรม การแนะนำทุกขั้นตอนของการลงทุนและพร้อมเป็นพี่เลี้ยงทางธุรกิจให้อย่างดี แบบไม่มีคำว่าทอดทิ้ง ให้ผู้ลงทุนเดินหน้าในแวดวงธุรกิจการศึกษาได้อย่างดี

ในส่วนของเงินทุนนั้น ผู้สนใจที่มีปัญหานี้ สตาร์แมทก็ยินดีร่วมหาทางออก ซึ่งมีวิธีแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่นการแบ่งค่าแฟรนไชส์ออกเป็นงวดๆ ให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนง่ายขึ้น ซึ่งก็ต้องเป็นการพิจารณาในแต่ละกรณีไป

โดย “สตาร์แมท” ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์การศึกษาที่มีคุณภาพในด้านเนื้อหาการสอน และระบบการส่งเสริมการลงทุนที่มั่นใจได้ว่าผู้ลงทุนทุกคนจะเดินหน้าและประสบความสำเร็จกับแฟรนไชส์นี้ได้เป็นอย่างดีและถือเป็นแฟรนไชส์ที่สามารถสร้างเป็นธุรกิจหลักให้ตัวเองและครอบครัวได้อีกด้วย


ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ สตาร์แมท
โทร.094-5464745
E-Mail : starmaths2018@gmail.com
Website : www.star-maths.com
Facebook : bit.ly/2F3IWoi
Instagram : starmaths.center

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3YtnY8i


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต