แนวทางการควบคุมอารมณ์ในตลาดหุ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
จากสถานการณ์ ตลาดหุ้น ที่ผันผวนไปมานั้น ทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย จนถึงตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญทุก ๆ คนมักจะบอกคุณว่า : คุณไม่ควรปล่อยให้อารมณ์ของคุณมาเป็นตัวตัดสินใจในการลงทุน
“มันมีความแตกต่างระหว่างความตื่นเต้นกับความตื่นตระหนกหลังจากวันที่มีการฟื้นตัวกลับมา ซึ่งเห็นได้จากดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2009 โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดมีการปรับตัวลดลงมากกว่า 10 % โดยการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2008 จะต้องขอบคุณความกลัวของผู้คนที่มีต่อไวรัสโคโรน่า”
หายใจลึก ๆ เข้าไว้
ภาพจาก pixabay.com
ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม แต่การหายใจลึก ๆ เพียงไม่กี่ครั้งช่วยได้เยอะมาก กล่าวโดย Klontz สมาชิก CNBC การฝึกฝนหายใจลึก ๆ นั้นช่วยลดความดันในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจและระดับฮอร์โมนความเครียด สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Deepak Chopra
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ภาพจาก pixabay.com
การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินนั้น ไม่เพียงแค่จะช่วยให้คุณทำการประเมินความคิดของคุณได้อย่างแม่นยำเท่านั้น เช่นกันคุณจะต้องให้เวลากับตัวเองให้มากพอ หากคุณไม่คิดที่จะปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ อย่างน้อยคุณก็ควรที่จะพูดกับใครบางคนก่อนที่คุณจะทำการตัดสินใจ
“เป้าหมายก็คือ จะต้องจัดความสมดุลระหว่างแรงกระตุ้นกับพฤติกรรมของคุณ”
“หากคุณพยายามใช้เวลากับเรื่องนี้ให้มาก ๆ จะทำให้สมองของคุณเย็นลง ให้สมองประมวลอย่างมีเหตุผลมากขึ้นและทำให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น”
ระลึกถึงอดีต
ภาพจาก bit.ly/2R02a41
เมื่อหุ้นปรับตัวลดลง จะต้องจำไว้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น
“ตลาดหุ้นฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมายหลายครั้งด้วยกัน” กล่าวโดย Goldberg โดยเขาเน้นย้ำในเหตุการณ์ 9/11 ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างหนักในช่วงปี 1987
“แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งเป็นอย่างไรบ้าง? ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับมาและทำจุดสูงสุดใหม่ได้”
อายุเป็นเรื่องสำคัญ
ภาพจาก pixabay.com
หากตลาดหุ้นปรับตัวลดลง กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากทำให้พวกเขาซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลงและสามารถถือหุ้นยาวได้ จะต้องแน่ใจว่า คุณยังคงตัดสินใจด้วยหลักเหตุและผล
หากคุณใกล้ที่จะเกษียณอายุแล้ว อาจเป็นเรื่องแย่ เนื่องจากคุณจะต้องเริ่มถอนเงินจากบัญชีเกษียณอายุ
Klontz แนะ แม้ว่าตลาดหุ้นปรับตัวลดลง นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนของคุณไปทั้งหมด จะต้องมาดูในส่วนเปอร์เซ็นต์ของหุ้น พันธบัตรและเงินสดในพอร์ตการลงทุน หากคุณมีสินทรัพย์อยู่ที่ 50 % ทำให้พอร์ตของคุณมีความผันผวน และคุณอาจเริ่มตื่นตระหนกส่วนหนึ่ง เขากล่าว
แบ่งเวลาเรื่องสุขภาพกับการเงิน
ภาพจาก pixabay.com
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ทำให้คุณตื่นตระหนกกับภาวะการเงินที่เป็นอยู่ Klontz กล่าว
“ตอนนี้คุณไม่ต้องไปกังวลเรื่องการเกษียณอายุอะไรแล้ว คุณกังวลเรื่องลูกหลานของคุณกับตัวคุณเองจะดีกว่า” เขากล่าว
“โดยคุณจะต้องใจเย็นและแยกตัวออกมาจากความตื่นตระหนกเพื่อดูแลสุขภาพของคุณจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น”
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/2xeeHKi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ที่มา : cnbc.com
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3bMTZjF