แจก 3 สูตรน้ำจิ้มแจ่ว! ลูกค้าติดใจ
น้ำจิ้มแจ่ว คือ น้ำจิ้มสูตรอีสาน มีหลากหลายสูตร รสชาติเค็มเผ็ด การทำน้ำจิ้มแจ่วมีขั้นตอนที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ทว่าน้ำจิ้มแจ่วกลับเป็นตัวเสริมรสชาติอย่างดีในหลากหลายเมนู ทั้ง ทานคู่กับไก่ย่าง คอหมูย่าง หรือจะรับประทานคู่กับหมูกระทะ เนื้อย่าง
บางทีก็ทานคู่กับอาหารซีฟู้ดได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีน้ำจิ้มแจ่วแม้จะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากแต่ก็มีหลากหลายสูตรให้เลือกทำกันตามความเหมาะสม www.ThaiSMEsCenter.com ได้เลือกเอามาให้ฝึกทำเป็นน้ำจิ้มแจ่ว 3 สูตรเด็ดที่จิ้มกับอะไรรับรองอร่อยจนต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว
1.น้ำจิ้มแจ่วสูตรต้นตำหรับ
ภาพจาก https://bit.ly/30uQA3q
ส่วนผสม
- พริกป่น
- น้ำตาลปี๊บ
- ข้าวคั่ว
- น้ำมะนาว
- ผักชี หรือใบสาระแหน่
วิธีทำ
- เริ่มจากนำนำ พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำตาลปี๊บ และ น้ำปลา ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ค่อยๆเพิ่มรสชาติให้เปรี้ยวด้วยการใช้น้ำมะนาวค่อยๆเติมน้ำมะนาวทีละนิด คอยชิมจนได้รสชาติที่พอใจ
- จัดใส่ถ้วยน้ำจิ้ม โรยใบหอม หรือใบสาระแหน่ ทานกับปลานึ่ง ไก่ย่าง หรือผักลวก ได้ตามต้องการ หรือจะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ คลุกกับข้าวก็อร่อยมาก
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนน้ำจิ้มแจ่วเป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้น้ำจิ้มแจ่วเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น
2.น้ำจิ้มแจ่วสูตรงาขาว
ภาพจาก https://bit.ly/2Z3DcGV
ส่วนผสม
- พริกป่น
- น้ำตาลทราย
- น้ำมะนาว
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำปลา
- งาขาวคั่วบุบ
- ข้าวคั่ว
- ผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำ
- เริ่มจากนำส่วนผสมคือพริกป่น น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ข้าวคั่ว และผักชีฝรั่ง ผสมให้ละลายเข้ากันเป็นอย่างดี
- เพิ่มรสชาติให้อร่อยตามที่ต้องการเช่น เพิ่มความเปรี้ยวด้วยมะนาว เพิ่มความเผ็ดด้วยพริก แต่งรสให้ถูกใจ
เคล็ดลับ : น้ำจิ้มแจ่วสูตรงาขาว อาจจะไม่ได้แตกต่างจากสูตรต้นตำหรับมากนัก วิธีการทำง่ายๆ แต่จุดเด่นของสูตรนี้คือได้ความหอมจากงาขาว และเมื่อจิ้มกับอาหารจะเคี้ยวกรุบกรอบจากงาขาวได้อีกด้วย อาหารที่เหมาะจะทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรนี้ได้แก่อาหารจานทอดทั้งหลายเช่นหมูทอดกระเทียม ไก่ทอดกระเทียม หมูทอดพริกไทย ไก่ทอดพริกไทย เป็นต้น
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนน้ำจิ้มแจ่วเป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้น้ำจิ้มแจ่วเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น
3.น้ำจิ้มแจ่ว สูตรคอหมูย่าง
ภาพจาก https://bit.ly/33IYR61
ส่วนผสม
- น้ำปลา
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลปี๊บ
- พริกป่น
- ข้าวคั่ว
- หอมแดงซอย
- ต้นหอมซอย
วิธีทำ
- นำส่วนผสมสำคัญคือน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ พริกป่น ข้าวคั่ว ใส่ลงในภาชนะรวมกันคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอย่างดีส่งกลิ่นหอม
- แต่งรสชาติด้วยน้ำมะขามเปียกหากต้องการให้เปรี้ยวเพิ่มขึ้น เพิ่มพริกป่นให้มากขึ้นถ้าต้องการความเผ็ด แต่งรสจนเป็นที่พอใจ
- ก่อนจัดใส่ถ้วยน้ำจิ้มโรงด้วยหอมแดงและต้นหอมซอย ช่วยเพิ่มความอร่อยของน้ำจิ้มแจ่วให้มากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ : จุดเด่นของน้ำจิ้มแจ่วสูตรคอหมูย่างคือต้องเค็ม เปรี้ยว เผ็ด และมีความหวานเล็กๆ ซ่อนอยู่ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยคูณสองยิ่งขึ้น นอกจากการทานคู่กับคอหมูย่างที่เข้ากันได้ดี เมนูทอดๆ อย่างอื่นก็ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรนี้ได้ไม่ว่าจะหมูทอด ไก่ทอด ปลาทอด ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยสุดยอดยิ่งขึ้น
ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนน้ำจิ้มแจ่วเป็นการซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ แล้วนำมาทำน้ำจิ้มที่แทบจะไม่มีต้นทุนต่อถ้วย ส่วนใหญ่จะใช้น้ำจิ้มแจ่วเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหารและดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน ตรงนี้อาจทำให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น
*** ทั้งนี้ราคาต้นทุน-กำไร เป็นการคาดคะเนเบื้องต้นในความเป็นจริงผู้ลงทุนจะซื้อวัตถุดิบแบบรวม ๆ และนำมาเฉลี่ยทำเป็นเมนู ต้นทุนแท้จริงจะขึ้นอยู่กับความยากง่าย ปริมาณ และจำนวนวัตถุดิบ จึงไม่อาจจำเพาะเจาะจงราคาได้ชัดเจน รวมถึงต้องคำนวณเรื่องค่าเช่าพื้นที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่แท้จริงด้วย***
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3kHaT7y