เลือกแบบไหน! แฟรนไชส์ทำเอง หรือ จ้างคนทำแทน
เทียบให้เห็นกันชัดๆ ระหว่างซื้อแฟรนไชส์มาเปิดแล้วดูแลบริหารจัดการร้านเอง กับ จ้างคนอื่นดูแลแทน มาดูว่าทั้งสองรูปแบบมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันยังไง คนที่กำลังจะซื้อแฟรนไชส์ลองมาดูข้อมูลและนำไปเปรียบเทียบกันครับ
บริหารร้านเอง
ข้อดี
- ประหยัดค่าใช้จ่าย มีต้นทุนการบริหารจัดการร้านต่ำ ไม่ต้องเสียเวลารับสมัครพนักงาน ไม่มีค่าจ้างหนักงาน ผู้จัดการร้าน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ สำหรับพนักงาน
- ควบคุมทุกอย่างในร้านได้อย่างเต็มที่ สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง
- ดูแลร้านเองย่อมทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เพราะต้องดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่รับลูกค้า การผลิต การเสิร์ฟ ดูแลระบบครัว การจัดสต็อกวัตถุดิบ จัดทำบัญชีและการเงิน
- สามารถควบคุมต้นทุน และคุณภาพอาหาร คุณภาพสินค้า การบริการ และอื่นๆ ให้เป็นมาตรฐานได้ เช่น เมื่อเห็นพนักงานทำผิดพลาดก็สามารถแก้ไขและสอนงานได้ทันที
- ทำให้รู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในร้านอย่างละเอียด ช่วยให้นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วางแผนเพื่อแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำได้
- ได้พบปะพูดคุยกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด หากเกิดปัญหาอะไรกับลูกค้า สามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ทันที
ข้อเสีย
- เหนื่อยมาก เพราะต้องทำเองทุกอย่าง มีเวลาส่วนตัวน้อย ต้องดูแลและยุ่งอยู่ร้านตลอดทั้งวัน แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน
- ต้องลงมือวางแผน ดูแลและควบคุมทำเองในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต การขาย บริการลูกค้า ทำให้ขาดอิสระ ไม่มีเวลาคิดและวางแผน ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ยาก
- ต้องคิดและแก้ปัญหาคนเดียว รวมถึงต้องใช้ทักษะความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการสูง
- เวลาว่างน้อย หาเวลาไปทำธุระอย่างอื่นได้ยาก หากจะปิดร้านไปทำธุระก็ต้องยอมสูญเสียรายได้ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในร้านรออยู่อีก
- มีโอกาสเปิดสาขาแฟรนไชส์ที่ 2 ที่ 3 ได้ยากขึ้น เพราะแค่สาขาเดียวก็ต้องบริหารจัดการเองตลอดทั้งวัน
จ้างคนทำแทน
ข้อดี
- มีเวลาส่วนตัวมาก ไม่ต้องดูแลและยุ่งอยู่กับร้านตลอดทั้งวัน ใช้เวลาทำธุระอย่างอื่นได้อีกด้วย อาจจะเข้ามาร้านช่วงก่อนปิดร้านก็ได้
- มีความเป็นอิสระมากขึ้น วันไหนจะเข้าร้านก็ได้ ไม่เข้าก็ได้ เพราะคุณจ้างพนักงานดูแลร้านแทนอยู่แล้ว เพียงแค่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ถ้าระบบแฟรนไชส์ดีเป็นมาตรฐาน ยิ่งง่ายต่อการบริหารจัดการ สามารถตรวจสอบร้านได้ง่ายจากข้างนอก
- มีเวลาในการคิดวางแผนทางธุรกิจ ทำให้มีโอกาสเปิดสาขาใหม่เพิ่ม รายได้จะได้มากขึ้น เพราะมีทีมงานช่วยเหลือ
ข้อเสีย
- มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะค่าจ้างพนักงาน ค่าฝึกอบรม และสวัสดิการต่างๆ
- มีโอกาสโดนลูกน้องทุจริตได้ง่าย ทำให้ธุรกิจขาดทุน เจ๊งได้ง่าย หรือบางครั้งพนักงานอาจบริการลูกค้าไม่ดี ทำให้เสียลูกค้า ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน ขาดงานบ่อย ส่งผลต่อการขายและบริการในร้าน
- ไม่สามารถควบคุมดูแลการผลิตได้ทุกขั้นตอน พอเปลี่ยนคนทำ อาจทำให้รสชาติเปลี่ยน มาตรฐานไม่สม่ำเสมอ
สรุปก็คือ แฟรนไชส์ทำเอง กับ จ้างคนอื่นดูแลแทน จะเลือกแบบไหน? คุณต้องดูก่อนว่าธุรกิจแฟรนไชส์ที่ซื้อมาเปิดนั้น เป็นโมเดลแบบไหน ถ้าเป็น Product Franchise ส่วนใหญ่เป็นซุ้ม เคาน์เตอร์ คีออส ถ้าคุณมีเงินทุนน้อย อยากมีรายได้มาก ควรลงมือทำเองเลย ยอมเหนื่อยมากหน่อย รายได้ไม่ต้องแบ่งลูกน้อง
แต่ถ้าซื้อแฟรนไชส์ Business Format Franchise แฟรนไชส์ที่มีระบบการสนับสนุนเป็นอย่างดี ใช้เงินลงทุนสูง เช่น 7-Eleven, คาเฟ่ อเมซอน, เชสเตอร์ เป็นต้น คุณไม่มีวิธีอื่นเลย คือ ต้องจ้างผู้จัดการร้าน พนักงานคอยช่วย ทำเองคนเดียวไม่ได้ แต่คุณจะบริหารจัดการได้ง่าย เพราะแฟรนไชส์แบบนี้จะมีระบบที่ดีเยี่ยม แค่ให้พนักงานปฏิบัติตามเท่านั้น
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)