เรียนรู้จากข้อผิดพลาด! แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งชื่อ Gu LuBu ได้โพสต์เตือนภัยลงในกลุ่ม “ชมรมร้านซักผ้า สะดวกซัก 24 ชม.” โดยปักหมุดว่า “เตือนภัยนักลงทุน เดี๋ยวโดนบริษัทมิจฉาชีพนี้โกง” และ “ขออนุญาตผู้ดูแลกลุ่ม ได้แชร์ข้อมูลครับ” รวมถึงได้ชี้ไปที่ บริษัท วอดคอย์ หรือ บริษัท โมบายทูแมนชีน ถ้าคิดจะไปลงทุนระวังให้ดี

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

ภาพจาก https://bit.ly/3nZfd5o

เนื้อหาใจความระบุว่า ผมลงทุนไปกับบริษัทนี้ ก็ประมาณ 6 เดือนกว่าๆ จำนวนเงิน 6 แสนบาท แล้วทางบริษัททำสัญญาว่าจะมาติดตั้งให้ในเวลา 45 วัน ผ่านไป 6 เดือนจะ 7 เดือนแล้วปัจจุบันยังไม่มาติดตั้ง ทำให้ผมเสียหายในค่ามัดจำและค่าเช่าที่ไป 6 เดือน และเสียเวลาอย่างมาก

ปัจจุบันนี้ผมได้ทำการยกเลิกสัญญาแล้ว เรียกร้องขอเงินคืน ทางบริษัทแจ้งมาว่าได้นำเงินของผมที่ลงทุนไปไปใช้จ่ายแล้วไม่สามารถคืนให้ได้จึงขอเลื่อนคืน ผมก็ให้โอกาส เลื่อนมา 3 ครั้งแล้วไม่มีการโอนคืนทางผมเลย

โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทุกประการ ไม่ได้มาดิสเครดิตบริษัทแน่นอน ดูตามหลักฐานได้ครับ ฝากถึงคนที่โดนเหมือนผมด้วย ไม่ต้องรอแล้วครับ มันฉ้อโกงประชาชน แจ้งความจับเจ้าของบริษัทในฐานฉ้อโกงประชาชนได้เลยครับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้ค้นหาข้อมูลแฟรนไชส์ WashCoin ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท โมบาย ทู แมชชีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด พบว่า WashCoin เป็นแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่ได้รับความนิยมลงทุนและใช้บริการจากลูกค้าอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

ภาพจาก https://bit.ly/3nZfd5o

เนื่องจากเป็นร้านสะดวกซักออนไลน์ผ่าน Application Smartphone ด้วยเทคโนโลยี IoT แห่งแรกของเมืองไทย ทำให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้ทุกที่ โดยไม่จำกัดอยู่แค่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงเพียงเท่านั้น ขณะที่ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินด้วย QR Code และรอการแจ้งเตือนเมื่อผ้าซักเสร็จแล้วด้วยการดาวน์โหลด App WashCoin เพื่อใช้งาน

สำหรับจุดเด่นของ WashCoin อยู่ที่บริการซักด้วยนวัตกรรมเครื่องซักผ้าด้วยเทคโนโลยีซักสะอาด ถนอมใยผ้า ด้วยระบบน้ำอุ่น ที่ละลายผงซักฟอกได้ดีกว่า แถมยังช่วยฆ่าเชื่อแบคทีเรียและเชื้อโรคบางชนิดได้อีกด้วย

นอกจากนี้ WashCoin ทำงานภายใต้ระบบควบคุมผ่านระบบ Cloud ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกโปรแกรมซักผ้าได้เองอย่างอิสระ โดยระบบจะคิดราคาตามเวลาการใช้งานจริง อย่างไรก็ตาม ค่ามาตรฐานที่แนะนำให้ลูกค้าใช้ คือ โปรแกรม 60 นาที ในการใช้งาน จะได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

ภาพจาก www.facebook.com/WashCoin/

จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บริษัท โมบาย ทู แมชชีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 1 ก.พ. 2560 ทุนจดทะเบียน 5,000,000.00 บาท กรรมการผู้มีอำนาจ คือ นายมงคล เกริกพิพัฒน์สกุล วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายแฟรนไชส์ระบบเครื่องซักผ้า

สำหรับงบกำไร-ขาดทุน บริษัท โมบาย ทู แมชชีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด พบว่า

  • ปี 2560 รายได้ 2,375,808.88 บาท ขาดทุน 1,807,200.08 บาท
  • ปี 2561 รายได้ 17,066,548.22 บา กำไร 3,425,159.90 บาท
  • ปี 2562 รายได้ 28,487,143.68 บาท ขาดทุน 2,349,756.57 บาท

บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

ภาพจาก www.facebook.com/WashCoin/

หากถามว่า เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากข้อผิดพลาด! ที่เกิดขึ้นกับแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin ซึ่งถือเป็นแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักแถวหน้าของเมืองไทย

1.ผู้ที่จะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ควรศึกษาหาข้อมูลแบรนด์หรือบริษัทแฟรนไชส์ เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของบริษัท เช่น ผลการดำเนินธุรกิจ การสนับสนุนแฟรนไชส์ ประสบการณ์เจ้าของแฟรนไชส์

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin

ภาพจาก www.facebook.com/WashCoin/

2.การสื่อสารกับลูกค้าและนักลงทุน เมื่อเกิดปัญหาลักษณะเดียวกัน ผู้บริหารบริษัท แอดมินเพจเฟซบุ๊คของบริษัท หรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบติดต่อลูกค้าหรือนักลงทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัท อย่าผัดวันประกันพรุ่ง

3.บริษัทหรือเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้าหรือนักลงทุน โดยเฉพาะเรื่องความล่าช้าในการจ่ายเงินค่าแฟรนไชส์ 6 แสนกว่าบาทคืนให้ผู้ลงทุน และไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้ลงทุน เอาเงินไปหมุนใช้ โดยไม่มีสินค้าให้ผู้ลงทุน เหมือนเป็นการหลอกลวง หลอกลงทุน เหมือนเช่นกรณีแฟรนไชส์ร้านค้าราคาเดียวในอดีต จ่ายเงินไปแล้วไม่ได้ของ กรณีเช่นนี้อาจจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์แฟรนไชส์และบริษัท ทำให้ลูกค้าและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นได้

1

ภาพจาก www.facebook.com/WashCoin/

นั่นคือ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด! ที่เกิดขึ้นกับแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก WashCoin ครับ

ข้อมูลจาก https://bit.ly/3nZfd5o , https://bit.ly/3k60Pau

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3ESobIo

อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช