เปิดโผต้นปี 2567 รวม 10 อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ปี 2024 โดย Entrepreneur.com

ถือเป็นครั้งที่ 45 ของการจัด อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา 500 แบรนด์ ประจำปี 2024 โดยเว็บไซต์ entrepreneur.com สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกา การปรับตัวและการพัฒนาของแบรนด์แฟรนไชส์ต่างๆ

การจัดอันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดพิจารณาจากงบการลงทุนและค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ค่าสิทธิ์ต่อเนื่องรายเดือน รายปี การสนับสนุนแฟรนไชส์ การสนับสนุนด้านการตลาด การปฏิบัติงาน ตลอดจนขนาดของธุรกิจและอัตราการเติบโตสาขา รวมถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางการเงินของแบรนด์แฟรนไชส์

มาดูกันว่า 10 อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2024 มีแบรนด์แฟรนไชส์อะไรบ้าง

1. Taco Bell

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/tacobell

ทาโก้เบลล์ แฟรนไชส์ร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันแท้ๆ ก่อตั้งปี 1962 ภายใต้การบริหารของ Yum! brand inc.เริ่มขายแฟรนไชส์ในปี 1964 (60 ปี) ใช้เวลา 2 ปีขายแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 8,320 แห่งทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย

  • ค่าแฟรนไชส์ 25,000 – 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 575,600 – 3,370,100 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 5.5%
  • Marketing Fee 4.25%
  • ระยะเวลาสัญญา 25 ปี

2. Jersey Mike’s Subs

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/jerseymikes

แฟรนไชส์แซนด์วิชใต้น้ำ อาหารอเมริกัน มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อตั้งปี 1956 ภายใต้การบริหาร Jersey Mike’s Franchise Systems Inc.เปิดขายแฟรนไชส์ในปี 1987 (37 ปี) ปัจจุบันมีสาขา 2,557 แห่ง เติบโต 46.8% ใน 3 ปี

  • ค่าแฟรนไชส์ 18,500 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 214,449 – 1,352,580 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 6.5%
  • Marketing Fee 5%
  • ระยะเวลาสัญญา 10 ปี

3. Popeyes Louisiana Kitchen

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/Popeyes

ป๊อปอายส์ แฟรนไชส์ไก่ทอดชื่อดัง ครั้งหนึ่งเคยมาเปิดในประเทศไทยมาแล้ว คู่แข่งสำคัญของแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่าง KFC, Chick-Fil-A, McDonald’s ในอเมริกา ก่อตั้งปี 1972 ภายใต้การบริหาร Restaurant Brands Int’l. เปิดขายแฟรนไชส์ในปี 1976 (48 ปี) ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 4,091 แห่งทั่วโลก

  • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 383,500 – 3,695,800 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 5%
  • Marketing Fee 4%
  • ระยะเวลาสัญญา 20 ปี

4. The UPS Store

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/theupsstore

แฟรนไชส์รับส่งพัสดุ พิมพ์เอกสาร ไปรษณีย์ กำลังมาแรงในอเมริกา ก่อตั้งปี 1980 ภายใต้การบริหาร United Parcel Service เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1980 (44 ปี) ในปีเดียวกัน ปัจจุบันมีสาขา 5,570 แห่งในอเมริกา

  • ค่าแฟรนไชส์ 9,950 – 29,950 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 101,819 – 476,993 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 5%
  • Marketing Fee 3.5%
  • ระยะเวลาสัญญา 10 ปี

5. Ace Hardware

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/acehardware

แฟรนไชส์ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน ที่มีการเติบโตและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี 1924 เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1976 (48 ปี) ปัจจุบันมีสาขา 5,813 แห่งในอเมริกา เติบโต 7.9% ใน 3 ปี

  • ค่าแฟรนไชส์ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 579,350 – 1,913,080 ดอลลาร์สหรัฐ

6. Dunkin’

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก https://citly.me/IhAXx

แฟรนไชส์กาแฟ โดนัท เบเกอรี่ ชื่อดังของอเมริกา ก่อตั้งปี 1950 ภาใต้การบริหาร Inspire Brands เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1955 (69 ปี) ใช้เวลา 5 ปีขายแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีสาขา 13,372 แห่งทั่วโลก

  • ค่าแฟรนไชส์ 40,000 – 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 437,500 – 1,809,500 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 5.9
  • Marketing Fee 5%
  • ระยะเวลาสัญญา 20 ปี

7. Culver’s

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/culvers

แฟรนไชส์ร้านขายคัสตาร์ดแช่แข็งและเบอร์เกอร์สูตรพิเศษ ก่อตั้งปี 1984 ภายใต้การบริหาร Culver Franchising System LLC เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1988 (36 ปี) ปัจจุบันมีสาขา 918 แห่งในอเมริกา เติบโต 20% ใน 3 ปี

  • ค่าแฟรนไชส์ 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 2,524,000 – 7,228,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 4%
  • Marketing Fee 2.5%
  • ระยะเวลาสัญญา 15 ปี

8. Hampton by Hilton

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก facebook.com/hamptonbyhilton

แฟรนไชส์เครือข่ายการบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำของอเมริกาที่มีสาขาทั่วโลก ติดอันดับ 9 แฟรนไชส์ที่ดีที่สุด เป็นแฟรนไชส์อหสังหาริมทรัพย์หนึ่งเดียวติดอันดับ ก่อตั้งปี 1983 ภายใต้การบริหาร Hilton เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1984 (40 ปี) ใช้เวลา 1 ปีในการขายแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีสาขา 2,919 แห่งทั่วโลก เติบโตกว่า 13.1% ในช่วง 3 ปี

  • ค่าแฟรนไชส์ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบการลงทุนเริ่มต้น 12,834,733 – 24,076,967 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 6%
  • Marketing Fee 4%
  • ระยะเวลาสัญญา 22 ปี

9. Arby’s

ภาพจาก facebook.com/arbys

แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดจำหน่ายแซนด์วิช สแน็ค ก่อตั้งปี 1964 ภายใต้การบริหาร Inspire Brands เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1965 (59 ปี) ปัจจุบันมีสาขา 3,602 แห่งในอเมริกา เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปี ทำให้ก้าวขึ้นมาติด 1 ใน 10 อันดับแรกแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาปี 2024

  • ค่าแฟรนไชส์ 0-37,500 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 644,950 – 2,451,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 4%
  • Marketing Fee 4.2%
  • อายุสัญญา 20 ปี +

10. Kumon

อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ภาพจาก https://citly.me/BITMb

แฟรนไชส์การศึกษาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ปี 1954 เปิดขายแฟรนไชส์ปี 1958 (66 ปี) ปัจจุบันมีสาขา 26,244 แห่งทั่วโลก เฉพาะในประเทศไทยมีสาขากว่า 466 สาขา

  • ค่าแฟรนไชส์ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุน 68,4 28 – 146,640 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Royalty Fee 36-40.50 ดอลลาร์สหรัฐ/นักเรียน/เดือน
  • ระยะเวลาสัญญา 10 ปี

นั่นคือ 10 อันดับแฟรนไชส์ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2024 มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน อัตราการเติบโตของสาขา การฝึกอบรม รวมถึงการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีที่ดี

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ข้อมูลจาก https://www.entrepreneur.com/franchise500

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช