เปิดโผ 4 ธุรกิจสุดบูม ในปี 2560
ธุรกิจสุดบูม ในปี 2560 เป็นธรรมดาเมื่อเข้าสู่ ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ต้องมีเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขและสถิติด้านเศรษฐกิจ ออกมาจากหลายสำนักเพื่อให้นักลงทุนได้เอาไปเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และวางแผนการตลาดสำหรับการเดินหน้าธุรกิจในปีต่อๆไป
แม้ในปีนี้ประเทศไทยจะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากส่งผลให้3เดือนสุดท้ายของปีตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่ขยับไปมากนักแต่โดยภาพรวมจากการผลักดันของรัฐบาลที่ทำมาตลอดทั้งปีก็พอมองเห็นทิศทางของปีหน้าที่น่าจะกลับมาสดใสได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ในส่วนของ www.ThaiSMEsCenter.com เองในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงของธุรกิจแฟรนไชส์และSMEsมายาวนานก็พอมองเห็นทิศทางการตลาดที่มีการขยายตัวบ้างแม้จะไม่หวือหวาแต่ก็น่าสนใจก็ต้องมาดูในระดับนโยบายของภาครัฐว่าจะมีมาตรการส่งเสริมอะไรที่ทำให้การลงทุนดูเข้มแข็งได้ดีกว่าเดิมในปีต่อๆไป
ภาพจาก goo.gl/qq4R2c
ทั้งนี้ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังโดยเฉลี่ยแล้วคาดว่าจะชะลอตัวกว่าครึ่งปีแรกแต่ยังรักษาระดับเติบโตของGDP ได้เกินกว่า 3 % ทั้งนี้โดยภาพรวมเมื่อประเมินทั้งปีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัวได้ 3.3%
ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่พอจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันได้บ้าง ทีนี้เราลองมาดูความคิดเห็นของนักลงทุนจากต่างชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ในสังคมไทยและทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่นักลงทุนจากต่างชาติคาดการณ์ไว้ต่อจากนี้
1.การลงทุนในธุรกิจสถานบันเทิงยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ภาพจาก goo.gl/23PQag
เราทุกคนทราบดีว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยวจากต่างชาติมีผลอย่างมากกับธุรกิจสถานบันเทิง แต่ในยามที่ประเทศไทยเจอกับสถานการณ์ความโศกเศร้า ทางธุรกิจบันเทิงต่างก็พร้อมใจที่จะงดดำเนินกิจการอย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน
ซึ่งหลายคนมองว่าถ้าเทียบจากปีก่อนนี่คือเวลาที่ธุรกิจบันเทิงตั้งเป้าสร้างรายได้จากแคมเปญต่างๆมากมายแต่ทั้งนี้ใช่ว่าเรื่องนี้จะทำให้เศรษฐกิจเราเสียหายมากมายต่างชาติส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และเชื่อมั่นในการกลับมาและยังพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่องอีกด้วย
2.ธุรกิจสื่อโทรทัศน์และทีวีดิจิตอลยังเติบโตได้อีกมาก
ภาพจาก goo.gl/OMM75P
เหตุผลไม่ต่างกันกับข้อแรกแต่มีปลีกย่อยที่แตกต่างกว่าเพราะทีวีดิจิตอลเมืองไทยเพิ่งเป็นธุรกิจแขนงใหม่ที่แตกไลน์กันออกมากลายเป็นช่องฟรีทีวีต่างๆมากมาย หลายสถานีกำลังเร่งสร้างเรตติ้ง และหลายสถานีก็กำลังเดินไปในทิศทางที่สวยงามหากแต่สถานการณ์เช่นนี้ก็ใช่ว่าจะทำให้ธุรกิจทีวีดิจิตอลต้องหยุดชะงักในเรื่องการลงทุนจากต่างชาติ
คาดว่าหลังช่วงเวลาหนึ่งก็จะเริ่มมีการกลับเข้ามาในสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้อีกครั้งถึงแม้การกลับมาจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปแต่นั้นก็เป็นไปเพราะสถานการณ์ที่ไม่อยากมีใครให้เกิดขึ้นซึ่งผู้ลงทุนจำนวนมากก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของฐานคนดูที่ยังแข็งแกร่งและมีจำนวนหลายสิบล้านคนในประเทศไทย
3.สื่อออนไลน์ยังพร้อมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง
ภาพจาก goo.gl/TNWQ9j
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาสื่อออนไลน์แทบทั้งระบบต่างพร้อมใจกันงด แชร์ งดโพสต์ เรื่องการขายสินค้าหรือว่านานาสาระในธุรกิจตัวเองรวมถึงเจ้าใหญ่อย่างเฟสบุ๊คที่ระงับการปล่อยแคมเปญชั่วคราวเช่นกัน
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนไทยอยากให้เกิดซึ่งนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากก็เข้าใจได้ดีและเชื่อมั่นในพลังการซื้อของคนไทยที่จะกลับมาสร้างสีสันได้อีกครั้งในเวลาอันใกล้นี้
4.การลงทุนของแบรนด์จากแบรนด์ญี่ปุ่นยังยืนอยู่ข้างคนไทยเสมอ
ภาพจาก hijapanshop.weebly.com
นาย Hiroyuki Okamoto co-founder และ CEO ของบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดโซเชียลมีเดีย Withfluence เชื่อมั่นว่าแบรนด์สินค้าจากญี่ปุ่นจะก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปพร้อมกับคนไทยได้เป็นอย่างดีและหลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไป
แบรนด์จากญี่ปุ่นทั้งหลายจะสามารถตีตื้นและเอาคืนส่วนแบ่งจากแบรนด์ของเกาหลีและอเมริกาที่เข้มแข็งได้เป็นอย่างดีสิ่งที่แบรนด์จากญี่ปุ่นทำตอนนี้คือให้การเคารพความรู้สึกของคนไทยโดยการไม่เปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมกับการเลื่อนแคมเปญต่างๆออกไป
นั้นเท่ากับสร้างความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกับคนไทยที่ทำให้รู้สึกได้ว่าสินค้าและบริการจากญี่ปุ่นเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มีคุณภาพของสินค้าแต่มีคุณภาพจากการกระทำที่อยู่เคียงข้างคนไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกด้วย
จุดชี้วัดว่าแบรนด์ไหนจะอยู่รอดปลอดภัยในสังคมไทยได้ต่อจากนี้คือการที่คนไทยต่างมองดูว่าแบรนด์ไหนที่แสดงออกในแง่ลบกับความรู้สึกคนไทย แน่นอนว่านิสัยคนไทยเมื่อรู้สึกติดลบในใจกับสิ่งใดก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปหาสินค้าใหม่ ในช่วงเวลานี้เรียกว่าเป็นเกมส์แห่งการซื้อใจ
หลังจากเวลาที่ยากลำบากเศรษฐกิจของประเทศไทยก็พร้อมจะกลับมาสู่เส้นทางที่สดใสและพร้อมจะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน