เปิดวิธี นำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven สำหรับเจ้าของ SMEs ที่ต้องการเติบโตก้าวกระโดด! นับหมื่นสาขา
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของประชาชนคนไทยไปแล้ว นับหมื่นสาขา ด้วยจำนวนสาขากว่า 13,000 แห่งทั่วประเทศ มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น จึงทำให้ผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก มีความฝันอยาก นำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย
แต่รู้หรือไม่ว่าการที่จะนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่มีนับหมื่นสาขาทั่วประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการ SME ที่มีความใฝ่ฝันอยากนำสินค้าของตัวเองเข้าไปวางขายในร้าน 7-Eleven จะต้องรู้ครับ
รูปแบบการนำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven
- ทีมงานของ 7-Eleven ออกไปตระเวนหาสินค้าทั่วประเทศ เน้นตรงตามความต้องการของลูกค้า
- เจ้าของธุรกิจ SME เป็นผู้นำเสนอสินค้าไปยัง 7-Eleven
1.เตรียมสินค้าและลงทะเบียนนำเสนอข้อมูลรายละเอียดสินค้า
ภาพจาก www.facebook.com/cpall7
สำหรับผู้ประกอบการ SME เมื่อเตรียมสินค้าพร้อมที่จะนำเสนอกับทาง 7-Eleven แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การลงทะเบียนเพื่อนำข้อมูลต่างๆ ของสินค้าไปกรอกให้ครบถ้วนในเว็บไซต์ https://www.sme-sustainable.com/cpall/
การตรวจสอบเบื้องต้นของทางบริษัท จะดูจากความน่าสนใจของสินค้าเป็นหลัก สินค้าที่นำเสนอตรงกับความต้องการของตลาดหรือสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือไม่ ถ้าเป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและเป็นเทรนด์ของตลาดในขณะนั้น ยิ่งมีโอกาสที่สินค้าจะขายดีหรือได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
ที่สำคัญสินค้าจะต้องผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานของสินค้า มีเครื่องหมายรับรองของทางราชการ เช่น เลขสารบบอาหาร หรือ (เลข อย.), GMP, เครื่องหมายรับรองมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ มอก. รวมถึงสินค้าจะต้องไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ของบริษัท จากนั้นจึงจะมีการสรุปว่าสินค้าที่นำเสนอผ่านการพิจารณาความเห็นชอบในรอบแรกหรือไม่
2.เจ้าหน้าที่นัดผู้ประกอบการนำเสนอข้อมูลสินค้าแก่เจ้าหน้าที่บริษัท
ภาพจาก www.facebook.com/cpall7
หากผ่านการพิจารณาดังกล่าวแล้ว ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ จะดำเนินการนัดหมายผู้ประกอบการ SME มานำเสนอรายละเอียดของสินค้า ตลอดจนแผนการตลาดสนับสนุนสินค้าที่จะนำเสนอขายใน 7-Eleven
3.เจ้าหน้าที่นำเสนอข้อมูลสินค้าแก่คณะกรรมการคัดเลือกสินค้า
ภาพจาก www.facebook.com/cpall7
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะจัดทำข้อมูลและนำเสนอแก่คณะกรรมการคัดเลือกสินค้าของบริษัทฯ เพื่อร่วมพิจารณาตามหลักเกณฑ์สำคัญๆ อาทิ แนวโน้มและทิศทางของการตลาด กลุ่มลูกค้า รวมถึงโอกาสเติบโตในอนาคต
4.เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิต
ภาพจาก www.facebook.com/cpall7
สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิต รวมถึงกระบวนการผลิตต่างๆ จะต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย มีความปลอดภัยและถูกหลักอาชีวอนามัย ตลอดจนคำนึงถึงสภาพแวดล้อม รวมถึงการพิจารณาศักยภาพในการผลิตและส่งมอบสินค้าให้ทันเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละวัน
5.กำหนดวันจำหน่ายสินค้า ยอดการผลิต และการกระจายสินค้า
ภาพจาก www.facebook.com/cpall7
เมื่อผู้ประกอบการ SME ผ่านมาตรฐานในเรื่องการผลิตและโรงงานแล้ว ขั้นตอนต่อไป ก็คือ การกำหนดวันจำหน่ายสินค้าใน 7-Eleven และกำหนดยอดการผลิตในล็อตแรก ซึ่งจะมีรายละเอียดและข้อกำหนดต่างๆ เช่น รูปแบบการกระจายสินค้าจะเป็นไปในลักษณะใดครอบคลุมทุกสาขา หรือต้องการเจาะจงเฉพาะพื้นที่ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมดถ้าไม่ผ่านการพิจารณา ผู้ประกอบการ SME ก็ต้องกลับไปปรับปรุง หรืออาจจะมีทีมงานของ 7-Eleven ให้คำปรึกษาแนะนำ ส่วนระยะเวลากว่าจะเข้าไปขายใน 7-Eleven ได้นั้น น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน – 1 ปี
ข้อมูลจาก https://bit.ly/3a9LlQD , https://bit.ly/3wDwAgi
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3NnHQUV
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)