เปิดร้านชานมไข่มุก Ochaya โอชายะ ใช้เงินเท่าไหร่!
การลงทุนเปิดร้านชานมไข่มุกเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เป็นสุดยอดการลงทุนที่มีการเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2023 จะมีมูลค่าสูงกว่า 3,214 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 102,242 ล้านบาท
แม้ในปัจจุบันกระแสการแพร่ระบาดของ COVID จะทำให้การลงทุนต่างๆ ชะลอตัวแต่ก็ยังมีการเปิดสาขาใหม่ของร้านชานมแบรนด์ต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในสินค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง
www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าถ้าให้ทุกคนเลือกลงทุนแฟรนไชส์ได้ 1 อย่างคนส่วนใหญ่ก็จะตอบว่าอยากเปิดร้านชานมไข่มุก ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนในยุคนี้โจทย์ใหญ่ที่คนต้องนึกถึงอย่างแรกคือ “งบการลงทุน” และ “ความคุ้มค่า”
ซึ่งแฟรนไชส์โอชายะ ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เพราะก่อตั้งมานานกว่า 15 ปี ตอนนี้สาขาทั่วประเทศกว่า 350 แห่ง จุดเด่นของโอชายะคือเมนูที่หลากหลาย รสชาติแบบพรี่เมี่ยมในราคาเบาๆ มีเมนูน่าสนใจมากมายทั่งชานม ชาผลไม้ ชาสมุนไพร ชานมไข่มุก เป็นต้น
และที่สุดยอดยิ่งกว่าเพราะตอนนี้โอชายะ ผุดไอเดียใหม่ล่าสุด “โอชายะ สตาร์ทอัพ” เพื่อต้อนรับนักลงทุนที่สนใจให้เลือกลงทุนได้ในราคาเบาๆ แต่จัดหนักจัดเต็มด้วยความคุ้มค่า เรียกว่าเป็นแฟรนไชส์ที่พร้อมสร้างอาชีพให้กับคนไทยได้ในยุคนี้
โอชายะ สตาร์ทอัพ แฟรนไชส์ที่พร้อมสร้างอาชีพในยุคCOVID
โอชายะถือเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจชานมไข่มุกและน้ำผลไม้ เป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักทั่วประเทศ มีจุดเด่นคือรสชาติแบบพรีเมี่ยมในราคาเบาๆ และมีการพัฒนาสินค้าใหม่ รูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย การส่งเสริมด้านการตลาดให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ โอชายะจึงมีการเติบโตและขยายสาขามากขึ้น และทุกสาขาของโอชายะกลายเป็นธุรกิจสร้างรายได้ให้ผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดCOVID ที่กินเวลาต่อเนื่องมากว่า 2 ปี ได้สร้างปัญหาให้กับคนไทยอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้โอชายะ จึงได้ผุดไอเดีย “โอชายะ สตาร์ทอัพ” ที่เชื่อว่าเป็นแคมเปญการลงทุนที่เหมาะสมกับคนในยุคนี้ สามารถทำให้คนไทยลืมตาอ้าปาก สร้างธุรกิจที่ดีเป็นของตัวเองได้ไม่ยาก เพราะใช้เงินลงทุนน้อยมาก แต่ความคุ้มค่าจัดหนักจัดเต็ม และถือเป็นสุดยอดแคมเปญครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปีของโอชายะอีกด้วย
ลดค่าแฟรนไชส์กว่า 50,000 บาท ลงทุนเพียง 100,000 บาทเท่านั้น
คำถามที่หลายคนสนใจคือ “คำว่าลงทุนน้อย” ในที่นี้ต้องลงทุนเท่าไหร่ ใช้เงินแค่ไหนถึงจะได้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์โอชายะ สตาร์ทอัพ คำตอบนี้ชัดเจนเพราะโอชายะสตาร์ทอัพ ต้องการให้คนรุ่นใหม่ไฟแรง ได้เริ่มมีธุรกิจของตัวเองในงบที่ไม่สูง
โดยค่าแฟรนไชส์ปกติคือ 149,000 บาท แต่หากลงทุนในรูปแบบ โอชายะสตาร์ทอัพ ลดทันที 50,000 บาท และจองสิทธิ์เพียง 50,000 บาท เท่ากับว่าใช้เงินลงทุนเบื้องต้นเพียง 100,000 บาท ก็เป็นเจ้าของแฟรนไชส์โอชายะ สตาร์ทอัพได้ในทันที โดยให้สิทธิ์เฉพาะผู้จองภายในเดือนกันยายน 2564 หรือเฉพาะ 100 ท่านแรก เท่านั้น
สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุน โอชายะ สตาร์ทอัพ
แน่นอนว่าการลดราคามีเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้มากขึ้น แต่สิ่งที่จัดให้ยังอัดแน่นด้วยคุณภาพไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด โดยในแพคเกจผู้ลงทุนสิ่งที่จะได้รับประกอบด้วย
- อุปกรณ์หลักสำหรับเปิดร้านรวมกว่า 32 รายการ
- งานออกแบบให้ฟรี
- จัดอบรม สอนเทคนิคการบริหารจัดการ 3 ท่านต่อ 1 สิทธิ์แฟรนไชส์
- สอนการทำชานมไข่มุกได้แบบมืออาชีพ
- มีทำเลให้เลือกตามความต้องการ
- มีทีมงานวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งร้านค้าให้
- มีการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
- มีทีมงานสนับสนุนการขายตั้งแต่เปิดร้าน
- มีทีมงานตรวจสอบคุณภาพที่หน้าสาขาอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นได้ว่า งบที่ลงทุนกับสิ่งที่ได้รับถือว่าคุ้มค่า และสามารถเปิดร้านสร้างรายได้ในทันที สำหรับคนที่ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ถ้าเลือกลงทุนกับ “โอชายะ สตาร์ทอัพ” จะทำให้ประหยัดงบลงทุนได้อย่างมาก
ลงทุนน้อย แต่โอกาสคืนทุนไว กำไรเร็ว
เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ไม่แพ้งบการลงทุนคือ โอกาสในการคืนทุนของ โอชายะ สตาร์ทอัพ ตอนนี้เรารู้แล้วว่า โอชายะ สตาร์ทอัพใช้งบลงทุนน้อยมาก ทีนี้ลองมาดูข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับโอกาสคืนทุนซึ่งก่อนที่ผู้ลงทุนจะเปิดร้าน ทางแฟรนไชส์จะมีการวิเคราะห์ทำเล (หรือผู้ลงทุนสามารถเลือกทำเลที่จัดหาไว้ให้)
โดยทำเลที่ขายดีควรจะอยู่ใกล้บริเวณ สำนักงาน ธนาคาร บริษัท ห้างร้านต่างๆ มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนเอกชน ถ้าอยู่ในห้าง ควรพิจารณา ค่าเช่า อัตรา % ที่จัดเก็บต่างๆที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลต่อกำไร และระยะเวลาคืนทุน หากคิดต้นทุนค่าวัตถุดิบ ต้องเฉลี่ย 35% จากราคาขาย เพื่อให้ส่วนต่างที่เหลือเป็นกำไรแก่ผู้ลงทุนได้มากขึ้น
ภาพจาก แฟรนไชส์ โอชายะ สตาร์ทอัพ
ทั้งนี้กลยุทธ์การขาย เทคนิคการทำตลาด ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยส่วนใหญ่สาขากว่า 350 แห่งของโอชายะ ล้วนมีกำไรดีและบางสาขาขยายกิจการตัวเองเพิ่มอีก 1-2 แห่ง สะท้อนให้เห็นว่าโอชาชะ สตาร์ทอัพ เหมาะสมกับกับการลงทุนในยุคนี้เป็นอย่างมาก
โดยเป้าหมายของโอชายะ สตาร์ทอัพ มุ่งสร้างอาชีพให้กับคนไทยในยามวิกฤติ เพื่อให้ลืมตาอ้าปาก และมีธุรกิจที่ดีของตัวเองในราคาเบาๆ ที่จับต้องได้ และยังมีโอกาสพัฒนาให้เป็นธุรกิจที่ดีมากยิ่งขึ้น และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าเราตัดสินใจเลือกลงทุนตั้งแต่ช่วงนี้ หากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID คลี่คลาย ยอดขายชานมไข่มุกจะยิ่งดีมากขึ้น การตัดสินใจเลือกลงทุนตั้งแต่ตอนนี้ถือว่าประหยัด คุ้มค่า และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ โอชายะ สตาร์ทอัพ
โทร. 065-2199152 , 081-9228843 , 095-2974563 ,064-2672779 , 02-7265837 , 02-7265836
Website : www.ochaya.co.th
Facebook : www.facebook.com/OCHAYA.Tea
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3B9iWlR
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)