เปิดร้านกาแฟอย่างไรให้ รวย! เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ จัดให้…รวยได้ทุกคน
“กาแฟ” ยังเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตที่ไม่ว่ายุคไหนๆ ก็มีลูกค้าจำนวนมาก ตอกย้ำชัดเจนด้วยมูลค่าตลาดกาแฟ ในปี 2563 แตะตัวเลขที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท เจาะลึกลงไปถึงอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่ฝั่งยุโรปที่บริโภคประมาณ 600 แก้วต่อคนต่อปี นั่นหมายถึงโอกาสของอุตสาหกรรมกาแฟไทยยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก
www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าทุกคนก็มองเห็นภาพรวมที่ว่านี้และหลายคนก็คิดอยากมีร้านกาแฟของตัวเอง แต่คำถามสำคัญคือ “จะลงทุนแบบไหนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ” หลายคนที่คิดเองทำเองบางทีไปไม่รอด เพราะแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ดี แต่หากไม่มีเคล็ดลับในการบริหารจัดการที่ดีก็เป็นความเสี่ยงที่สูงมาก โชคดีเหลือเกินที่ยุคนี้เรามีแฟรนไชส์ที่คอยช่วยเหลือให้คนสนใจเปิดร้านกาแฟสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้น
โดยเฉพาะสุดยอดแฟรนไชส์อย่าง “เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” ที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร และเป็นผู้นำเข้า-ตัวแทนจำหน่ายเครื่องชงกาแฟแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่สำคัญ “เวิลด์ไวด์คอฟฟี่” คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านกาแฟขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ คนที่อยากลงทุนเปิดร้านกาแฟเราขอแนะนำ “ปรึกษาเวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” ธุรกิจที่คิดจะลงทุนรับรองเติบโตรวดเร็ว รวยๆ กันทุกคน
7 ข้อดีเลือก “เวิลด์ไวด์คอฟฟี่” เป็นผู้ช่วยในการ “เปิดร้านกาแฟ”
บริษัท เวิลด์ไวด์คอฟฟี่ จำกัด เป็นศูนย์รวม ธุรกิจกาแฟครบวงจร เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับคนที่สนใจอยากเปิดร้านกาแฟ และยังมีจำหน่ายเครื่องบดเมล็ดกาแฟ, เครื่องปั่นสมูทตี้, เครื่องทำบิงซู หรืออุปกรณ์ในการเปิดร้านเครื่องดื่มแบบครบครัน
นอกจากนี้ บริษัทมีวัตถุดิบ เช่น เมล็ดกาแฟหลากหลายโปรไฟล์ ใบชาเขียว ใบชาไทย โกโก้ ดาร์คช็อคโกแล็ต ชาเขียวมัทฉะ ไซรัปผลไม้ รวมไปถึงการผลิตสินค้า OEM ให้กับแฟรนไชส์แบรนด์ดังและกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มหลากหลายร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งมี 7 จุดเด่นที่บอกได้ชัดเจนว่าหากปรึกษา “เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” ในการเปิดร้านกาแฟ เราจะกลายเป็นมืออาชีพในธุรกิจนี้ได้ทันที
- ใช้งบในการลงทุนน้อยก็สามารถมีกิจการเป็นของตัวเองได้ ขายง่าย กำไรเกิน 50 %/แก้ว คืนทุนเร็ว
- การลงทุนมาพร้อมอุปกรณ์บาริสต้าครบชุดพร้อมขายได้ทันที
- ไม่เก็บค่าธรรมเนียม ไม่บังคับยอด เป็นเจ้าของธุรกิจได้ด้วยตนเอง
- มาพร้อมสูตรชงเมนูเครื่องดื่ม ยอดนิยม กว่า 70 เมนู (ร้อน เย็น ปั่น) เช่น กาแฟสด ชาเขียว ชาไทย โกโก้ ชาผลไม้ น้ำผึ้งมะนาว เมนูปั่นสมูทตี้ และอิตาเลี่ยนโซดา
- มีหนังสือสูตรเครื่องดื่ม อ่านง่าย เข้าใจง่าย
- มีคอร์สเรียนชงกาแฟสด สอนจนสามารถเปิดร้านกาแฟแบบมืออาชีพ
- ส่งเสริมการตลาดออนไลน์ให้ร้านของผู้ลงทุนกลายเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น
เวิลด์ไว คอฟฟี่ แนะนำ 5 เทคนิคเปิดร้านกาแฟยุคใหม่..รวยไม่ยาก
สิ่งสำคัญที่ “เวิลด์ไวคอฟฟี่” ต้องการคือให้ผู้ลงทุนทุกคนประสบความสำเร็จในการเปิดร้านกาแฟ ดังนั้น “เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” จึงลงไปช่วยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การหาทำเล วางคอนเซปต์เปิดร้าน วางระบบบริหารจัดการ สรรหาเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับร้าน วางแผนเรื่องการตลาด สอนเทคนิคการบริการลูกค้า การพัฒนาเมนูใหม่ๆ โดยมี เทคนิคที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ลงทุนดังต่อไปนี้
1. สอนให้เป็นบาริสต้ามืออาชีพ
ร้านกาแฟยุคใหม่ต้องมีความเป็นบาริสต้า ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจได้มากขึ้น โดย “เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” มีคอร์สเรียนบาริสต้าที่สอนให้ผู้ลงทุน โดยบาริสต้าที่ดีนอกจากชงกาแฟได้เก่งต้องสามารถนำเสนอเครื่องดื่มและตอบคำถามลูกค้าได้ งานบาริสต้าก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านกาแฟยุคนี้
2. สอนเทคนิคการเลือกวัตถุดิบ
เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ใส่ใจกับเรื่องเมล็ดกาแฟอย่างมากและพร้อมสอนให้ผู้ลงทุนเข้าใจความรู้พื้นฐานต่างๆ เช่น การเลือกใช้เมล็ดกาแฟและสูตรให้เหมาะกับฐานลูกค้า มาตรฐานสากลในการสกัดกาแฟเขาทำกันอย่างไร และใช้อะไรเป็นเกณฑ์ หลังจากนั้นค่อยหาเมนู Signature ของร้านขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าที่อยากดื่มเมนูนี้ต้องมาที่ร้านของเราเท่านั้น
3. แนะนำออกแบบร้านกาแฟที่ถูกต้อง
เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ชูจุดเด่นของร้านกาแฟที่ต้องให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและเป็นร้านที่มากกว่าร้านกาแฟธรรมดา ถือเป็นจุดขายที่ร้านกาแฟยุคใหม่ควรมี และนี่คือสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากเวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ในการสอนวิธีการออกแบบร้านที่ถูกต้อง เช่นโต๊ะบาร์ต้องสูงเท่าไหร่บาริสต้าจึงจะทำงานได้สะดวก , พื้นที่หน้าบาร์ที่จะต้องเหลือไว้เท่าไหร่สำหรับการทำงานหลังจากวางเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์อื่นๆ , ถังน้ำแข็งและซิงค์น้ำควรอยู่มุมไหนเพื่อลดการเดินและหมุนตัวของบาริสต้าที่จะทำให้เสียเวลา , และมีรายละเอียดอื่นๆอีกมากมายที่ผู้ลงทุนจะได้เรียนรู้จากเวิลด์ไวด์ คอฟฟี่
4. แนะนำเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับร้าน
ในฐานะที่เวิลด์ไวด์คอฟฟี่ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟแบรนด์ระดับโลก จึงมีเครื่องชงที่หลากหลาย และหัวใจสำคัญที่จะทำร้านกาแฟมีกำไรก็เพราะ “เครื่องชงกาแฟ” ดังกล่าว หลายร้านที่เลือกเครื่องชงกาแฟไม่เหมาะสมก็ทำให้ทุนหายกำไรหดได้ โดยเวิลด์ไวด์ คอฟฟี่จะแนะนำผู้ลงทุนอย่างดีว่าร้านขนาดนี้ควรใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นไหน แบบไหน
เช่น หากเป็นร้านขนาดเล็กรองรับลูกค้าวันละไม่เกิน 100 แก้ว ควรเลือกใช้เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก 1 หัวชง เพราะลูกค้าที่เดินผ่านก็จะเห็นว่าราคาไม่น่าจะแพงจะตัดสินใจเดินเข้าร้านง่ายขึ้น แต่หากเป็นร้านกาแฟที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีที่นั่งรองรับลูกค้าได้มาก สามารถรับลูกค้าได้วันละ 150 แก้วขึ้นไป ควรเลือกใช้เครื่องชงกาแฟ 2 หัวชงเพื่อรองรับการใช้งานจำนวนมาก เป็นต้น
5. สอนเทคนิคการตั้งราคาให้เหมาะสมกับลูกค้า
หรือจะเรียกว่าเป็น “เทคนิคการบริหารจัดการภายในร้าน” โดยเวิลด์ไวด์คอฟฟี่ ไม่ใช่แค่ผู้ที่ขายเครื่องหรือวัตถุดิบให้เพียงอย่างเดียวแต่พร้อมสอนเทคนิคการตั้งราคา การบริหารจัดการร้านให้ลูกค้าพอใจ โดยให้คำปรึกษาในเรื่องความต้องการของลูกค้าที่แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน โดยเราต้องดูว่าลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราเขามีกำลังพร้อมที่จะจ่ายในราคาประมาณเท่าไหร่แล้วค่อยมาเลือกหาวัตถุดิบที่เหมาะสม เพื่อให้บริหารจัดการต้นทุนได้ง่ายขึ้น ลูกค้าพอใจ ร้านค้ามีกำไรได้พร้อมๆกัน
เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ มีแพคเกจลงทุนแบบไหนบ้าง!
“เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” มี 5 แพคเกจการลงทุนให้เลือกเปิดร้านกาแฟได้ตามต้องการ ราคาเริ่มต้นเพียง 29,999 บาท โดยมี 5 แพคเกจดังต่อไปนี้
- PACKAGE A ชุดเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟสด ราคา 29,999 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เซตเครื่องชงกาแฟCOSMO+ เครื่องบดกาแฟ PRONTO
- PACKAGE B ชุดเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟสด ราคา 39,999 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เซตเครื่องชงกาแฟ Maximus Pro + เครื่องบดกาแฟ MX 600 AB
- PACKAGE C ชุดเปิดร้านกาแฟสดขนาดกลาง ราคา 89,900 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เซตเครื่องชงกาแฟ LAROCCA รุ่น JAVA COMPACT
- PACKAGE D ชุดเปิดร้านกาแฟสดขนาดใหญ่ ราคา 99,900 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เซตเครื่องชงกาแฟ LAROCCA รุ่น JAVA 2G + เครื่องบดกาแฟ MX 600 AB
- PACKAGE E ชุดเปิดร้านกาแฟสดขนาดใหญ่ ราคา 139,900 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับ เซตเครื่องชงกาแฟรุ่น LAROCCA VENEZIA + เครื่องบดกาแฟ MX 800 AE
และทุกแพคเกจรับวัตถุดิบอุปกรณ์ในการชงครบชุด และได้หนังสือสูตรเครื่องดื่มกว่า 50 เมนู พร้อมสอนวิธีการชงทำเมนูต่างๆ อย่างละเอียด และสอนการใช้งานเครื่องชงกาแฟ , มีคอร์สเรียนบาริสต้าแบบออนไลน์ , มีทีมงานคอยให้คำปรึกษา
เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ ขยายสาขาต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ “รามอินทรา 109”
ปัจจุบันมีคนสนใจเข้าร่วมลงทุนเปิดร้านกับ “เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่” จำนวนมาก ซึ่งการดูแลของ “เวิลด์ไวด์คอฟฟี่” หลังจากลูกค้าเปิดร้าน จะเน้นการเป็นที่ปรึกษาทั้งเรื่องสูตร วัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องชง โดยจะดูแลให้คำแนะนำมีทีมงานพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ให้ผู้ลงทุนได้เหมือนมีเพื่อนสำหรับการทำธุรกิจที่ไม่เดินคนเดียว พร้อมกันนี้เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และมีคอร์สอบรมสำหรับคนสนใจอยากเปิดร้านกาแฟ ในหลักสูตรต่างๆ ที่สามารถเลือกเรียนได้ตามต้องการ
โดยล่าสุดเวิลด์ไวด์คอฟฟี่ เปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่งเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาเป็นเวิลด์ไวด์ คอฟฟี่ สาขา BKK รามอินทรา 109 และแน่นอนว่าเป็นสาขาใหม่ที่เจาะใจกลางพื้นที่ชุมชนและจะเป็นศูนย์กลางให้คนสนใจอยากเปิดร้านกาแฟในบริเวณนี้ได้มีเพื่อนคู่คิดและที่ปรึกษาเพื่อสามารถลงทุนเปิดร้านกาแฟได้อย่างมืออาชีพ
ทั้งนี้เวิลด์ไวด์คอฟฟี่ ไม่ได้เป็นเพียงแฟรนไชส์ร้านกาแฟธรรมดาแต่นี่คือ “ศูนย์กลางครบวงจรของคนอยากเปิดร้านกาแฟ” มาที่เวิลด์ไวด์ที่เดียว มีครบจบทุกความต้องการ ได้ทั้งเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับร้าน ได้เทคนิคการบริหารจัดการร้านอย่างมืออาชีพ ได้วิธีการเป็นบาริสต้าที่ถูกต้อง ได้การออกแบบร้านที่ถูกใจลูกค้า ได้เรียนรู้การเปิดร้านกาแฟในแบบที่ถูกต้องเหมาะสม ถือเป็นสุดยอดแฟรนไชส์สำหรับคนอยากเปิดร้านกาแฟได้อย่างแท้จริง
ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ เวิลด์ไวด์ คอฟฟี่
โทร. 080-8676776 , 085-8943040 , 096-1231164
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)