เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว ลงทุนเท่าไหร่!

ในยุคนี้การมีรายได้เพิ่มเป็นเรื่องสำคัญมาก หลายคนมองไปที่การขายอาหารและเครื่องดื่ม และส่วนใหญ่มองการตลาดแบบที่อยากเข้าถึงลูกค้า โดยเฉพาะบางคนที่มี “รถกระบะ” ของตัวเอง การนำมาดัดแปลง เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว เพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถขายของได้ถือว่าเป็นไอเดียต่อยอดที่น่าสนใจ

แต่ www.ThaiSMEsCenter.com ก็เชื่อว่าหลายคนเช่นกันที่กังวลใจและไม่รู้ว่าถ้าคิดลงทุนดังกล่าวต้องใช้งบประมาณมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญลงทุนทำไปแล้วจะมีโอกาสคืนทุนเมื่อไหร่ เราลองไปดูข้อมูลที่เรานำมาฝากเพื่อประกอบการตัดสินใจ

รถกระบะดัดแปลง ขายอะไรได้บ้าง?

เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว

ภาพจาก https://bit.ly/3vHCYEq

ก่อนอื่นต้องมาดูก่อนว่า รถกระบะส่วนใหญ่นั้นนำไปดัดแปลงขายอะไรได้บ้างเริ่มจาก

  1. รถพุ่มพวงขายกับข้าว เป็นรูปแบบการขายที่เราเห็นทั่วไป เน้นการจำหน่ายกับข้าวหรือวัตถุดิบต่างๆ ในการทำอาหาร สามารถเข้าไปถึงแหล่งชุมชนได้แบบเดลิเวอรี่ ราคาเป็นมิตร เน้นขายของสดใหม่ทุกวัน
  2. รถกระบะขายผลไม้ สินค้าก็ตามชื่อคือเน้นการขายผลไม้ ส่วนใหญ่ที่เห็นคือ เงาะ ทุเรียน มังคุด แก้วมังกร เป็นต้น
  3. รถกระบะขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าจะเน้นเครื่องอุปโภคเป็นหลักมีสินค้าเยอะมาก ทั้งรองเท้า , เสื้อผ้า , อาหารกระป๋อง , อุปกรณ์ทำความสะอาด ฯลฯ
  4. รถกระบะขายต้นไม้ เน้นการขายต้นไม้และอุปกรณ์สำหรับการปลูกทั้งดินและปุ๋ย มักเห็นตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ
  5. รถกระบะขายเครื่องดื่ม เป็นการดัดแปลงขายเครื่องดื่มเช่นชา กาแฟ บางทีก็มีเครป น้ำแข็งไส และน้ำอัดลม ต่างๆ

งบลงทุนเบื้องต้นในการดัดแปลง เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว

เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว

การจะลงทุนเท่าไหร่นั้น ขอบอกก่อนว่าขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เรากำหนด และขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการขายสินค้าอะไร ยกตัวอย่างถ้าจะขายอาหาร อย่างเครื่องดื่มก็ต้องมีการดัดแปลงมากหน่อย เพื่อให้มีจุดวางแก๊สหรือเตาไฟฟ้า และมีที่วางวัตถุดิบสำหรับการขาย แต่หากเป็นการดัดแปลงขายกับข้าว , ต้นไม้ , ผลไม้ , สินค้าเบ็ดเตล็ด อาจไม่ต้องต่อเติมพื้นที่ภายในมาก งบในการลงทุนสำหรับการดัดแปลงก็อาจถูกลง

เปลี่ยนรถกระบะให้ขายกับข้าว

งบในการลงทุนเบื้องต้นแบบที่ไม่รวมราคารถกระบะอยู่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท เป็นรูปแบบโดยทั่วไปที่ไม่ได้ดีไซน์มากนักแต่หากต้องการความสวยงามมากขึ้น ก็อาจต้องจ่ายมากขึ้นเช่นกัน ราคาโดยประมาณนี้รวมถึงการเพิ่มสมรรถนะให้กับรถโดยเฉพาะช่วงล่างที่อาจต้องเพิ่ม แหนบรถยนต์ให้มากขึ้นเพื่อรับน้ำหนักมากขึ้น อย่างไรก็ดีคนส่วนใหญ่อาจไม่ใช้รถกระบะแต่จะเน้นใช้รถบรรทุกเล็กในการขายที่จะเรียกว่า Food Truck ซึ่งมีแบรนด์ที่รู้จักกันดีเช่น SUZUKI, TATA , Changan (ฉางอาน) , WULING และ KIA

14

รถแต่ละรุ่นก็จะมีราคาในการผ่อนเฉพาะตัวรถที่แตกต่างกันไปเช่น SUZUKI ประมาณ 5,230 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับเงินดาวน์) , TATA ประมาณ 5,200 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับเงินดาวน์) และ Changan ประมาณ 5,000 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับเงินดาวน์) แต่หากจะเลือกใช้รถ Food Truck ไม่ว่ารุ่นใดยี่ห้อใดก็ตาม อาจต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้นในการดัดแปลงซึ่งแพงกว่าการนำรถกระบะมาใช้ ราคาเฉลี่ยในการดัดแปลงให้ขายสินค้าขายอาหารได้อยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบของเราเป็นสำคัญด้วย

โอกาสคืนทุน? ขึ้นอยู่กับทำเลการขายและกลยุทธ์การตลาด

18

ภาพจาก https://bit.ly/3HIGUXT

หากดัดแปลงรถกระบะให้ขายของได้ อาจลงทุนน้อยกว่าการใช้ Food Truck ยกตัวอย่างรถพุ่มพวงขายกับข้าว ต้นทุนสำคัญคือ ของสด เช่น หมู ไก่ ปลา ผัก ฯลฯ ที่อาจต้องลงทุนซื้อวันต่อวัน ต่างจากพวกของแห้งที่อาจลงทุนซื้อครั้งเดียวแต่ขายได้หลายวัน ต้นทุนอีกอย่างที่สำคัญคือค่าน้ำมัน ที่ขึ้นอยู่กับระยะทางในการวิ่ง

ซึ่งส่วนใหญ่จะมีจุดขายของตัวเองที่ชัดเจนว่าตอนนี้จะวิ่งไปขายที่ไหน เวลาไหนที่คนจะออกมาซื้อของ ถ้าวางแผนเรื่องเส้นทางได้ดี ก็จะประหยัดต้นทุนได้ โดยรวมแล้วรายจ่ายต่อเดือนขั้นต่ำประมาณ 10,000 บาท ซึ่งรายได้จากสินค้าที่ขายกำไรเฉลี่ย 5-10 บาท ในแต่ละเดือนหากประเมินกำไรที่ชัดเจนอาจทำได้ยาก แต่สิ่งทีได้แน่นอนคือการมีเงินใช้แบบหมุนเวียน ในเรื่องกำไรก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการขาย การวางแผนในการขาย เป็นสำคัญ

17

ภาพจาก https://bit.ly/3sBXMv8

บางคนมีไอเดียในการขายที่ดีก็มีโอกาสคืนทุนไว ยกตัวอย่าง ในนครราชสีมาที่มีการดัดแปลงรถบัสให้กลายเป็น “บัสซูเปอร์มาเก็ต” ขายอาหารสด ผัก ผลไม้ ซึ่งใช้เงินทุนรวมประมาณ 600,000 บาท ซึ่งรายได้ถือว่าค่อนข้างดีและทำต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปีและมีลูกค้าสนใจมาก

หรือ อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือการดัดแปลงรถบัสเก่า (มือสอง) มาขายก๋วยเตี๋ยวไก่ ลงทุนรวมไปกว่า 200,000 บาท แต่ลูกค้าสนใจและขายดีมาก ยอดขายเฉลี่ยวันละประมาณ 150 ชาม ขายชามละ 20 บาท รายได้ต่อวันประมาณ 3,000 บาท หักลบต้นทุนต่างๆ ก็ถือว่ามีกำไรที่ดี รวมถึงบางคนอาจมีการดัดแปลงรถกระบะทำเป็นร้านตัดผมลงทุนติดตั้งหลังคา ระบบไฟฟ้า ระบบแสงสว่าง ลงทุน รวมประมาณ 50,000 บาท แต่มีข้อดีคือไม่ต้องเช่าที่ดิน ไม่ต้องติดแอร์ และสามารถขับไปจอดให้บริการตัดผมได้ทุกที่

16

ภาพจาก https://bit.ly/3HEqMab

และถ้าถามว่าลงทุนเปลี่ยนรถกระบะเพื่อค้าขาย หรือลงทุน Food Truck มีความน่าสนใจแค่ไหน คำตอบคือน่าสนใจมาก แต่สำคัญคือไอเดียที่จะนำมาใช้ บวกกับความขยันและตั้งใจทำจริง ในยุคนี้การเข้าถึงลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญและหากผนวกใช้การตลาดออนไลน์เข้ามาร่วมด้วยเชื่อว่าจะสร้างสีสันและทำให้ธุรกิจน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3tmCDV1 , https://bit.ly/3HAfWBN , https://bit.ly/3MfF1Ws , https://bit.ly/3tjEWrT , https://bit.ly/3vout17 , https://bit.ly/3HvUCNU , https://bit.ly/3HuGOmU, https://bit.ly/3pnm8GX

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3IUgwfd

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด