เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย 5 ช่องทางจำหน่าย กับ 1 ช่องทางแฟรนไชส์

ช่องทางจำหน่ายเป็นวิธีการที่บริษัทนำเสนอสินค้าและบริการไปยังลูกค้า บางธุรกิจเลือกใช้ช่องทางการขายตรงให้กับลูกค้า ในขณะที่บางธุรกิจอาจใช้ผู้ค้าปลีกหรือผู้ค้าส่งเพื่อเป็นตัวกลาง

บริษัทอาจใช้ตัวแทนหรือนายหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการขายสินค้า หรือเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังผู้จัดจำหน่าย ขณะเดียวกันยังมีอีกบางธุรกิจที่เลือกช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าด้วยระบบแฟรนไชส์ ซึ่งแต่ละช่องทางจำหน่ายมี ข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบครับ

1.ตัวแทนจำหน่าย

ข้อดี-ข้อเสีย

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดี – มีความคล่องตัวสูง ใช้ทักษะความรู้ความสามารถในการขายของตัวแทนจำหน่าย สามารถควบคุมตัวแทนจำหน่ายได้ง่าย กำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละตัวแทนจำหน่ายได้ชัดเจน และสามารถรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคในท้องถิ่นได้ดี

ข้อเสีย – ค่าคอมมิชชั่นสูง ตัวแทนจำหน่ายเลือกสินค้าที่มีชื่อเสียง หรือ ทำการตลาดได้ง่ายเท่านั้น อีกทั้งตัวแทนจำหน่ายมีอำนาจต่อรองสูง อาจทำให้เจ้าของธุรกิจต้องมีค่าใช้จ่ายสูง

2.ฝากคนอื่นขาย

63

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดี – มีความสะดวกสบายไม่ต้องรับภาระในการขาย ผู้รับฝากขายตัดสินใจได้ง่าย ผู้รับฝากขายสามารถกำหนดกลยุทธ์ส่วนตัวสำหรับการขายให้ได้เร็วขึ้นได้ ทำให้ผู้ฝากขายไม่ต้องกังวลในเรื่องช่องทางการจำหน่าย

ข้อเสีย – มีค่าใช้จ่ายเพิ่มต้องลงทุนให้ผู้รับฝากขาย รับภาระสินค้าเก็บคืน ไม่สามารถกำหนดเงื่อนไขที่ตายตัวให้กับร้านค้าได้ รวมถึงอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากร้านค้าที่เอาสินค้าไปฝากขาย

3.ขายส่งพ่อค้าคนกลาง

62

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดี – มีคนกลางจำนวนมาก กระจายสินค้าได้ทั่วถึง สามารถเลือกประเภทของคนกลางที่มีประสิทธิ์ภาพในการขายได้ รับซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก สามารถกำหนดกำลังการผลิตสินค้าได้ง่าย เพราะมีผู้ซื้อที่แน่นอน

ข้อเสีย – ไม่สามารถต่อรองเรื่องราคาได้ สินค้าเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อค้า อาจไม่ได้รับความสะดวกจากการให้บริการของพ่อค้าคนกลาง มีปัญหาเรื่องการเจรจาต่อรองของพ่อค้าคนกลางในกรณีที่พ่อค้าคนกลางมีอำนาจสูงกว่า

4.อีคอมเมิร์ซ

61

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดี – รวดเร็ว ทันสมัย ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสั่งซื้อ สามารถเลือกใช้บริการจากเว็บมาสเตอร์ที่มีความชำนาญได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านสถานที่และค่าใช้จ่ายโสหุ้ย และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ข้อเสีย – จับต้องสินค้าไม่ได้ ลูกค้าไม่มั่นใจว่าจะได้รับสินค้า เทคโนโลยีไม่พร้อมและขาดผู้ชำนาญด้านนี้ ขาดการให้ความรู้ไปสู่ชุมชน หรือผู้ประกอบการอย่างทั่วถึง และยุ่งยากในการติดต่อกับธนาคาร

5.ขายตรง

60

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดี – กระจายสินค้าได้ในวงกว้าง เข้าถึงลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนคืนสินค้าได้ ลูกค้าได้สัมผัสสินค้า พนักงานสามารถสาธิตให้เห็นประโยชน์ของสินค้าช่วยขายง่าย พนักงานได้รับค่าตอบแทนตามความสามารถในการเสนอขายสินค้า

ข้อเสีย – สินค้าราคาแพง เสียค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานขายมาก เสียค่าโสหุ้ยในการดำเนินธุรกิจสูง สินค้าส่วนใหญ่กำหนดผลตอบแทนพนักงานขายที่เกินความเป็นจริง และสินค้าส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตพื้นฐาน

6.แฟรนไชส์

5

ข้อดี – ขยายธุรกิจได้รวดเร็ว ใช้เงินลงทุนต่ำในการขยายสาขา ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องคนทำงานมาก ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการลงทุนด้วยตนเอง มีอำนาจในการซื้อสินค้าทำให้ต้นทุนถูกลง

ข้อเสีย – มีภาระมากขึ้นต้องรับผิดชอบต่อแฟรนไชส์ซี เกิดความขัดแย้งได้ง่าย เพราะบางครั้งแฟรนไชส์ซีอาจมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงต้องมีภาระค่าใช้จ่ายสูงในการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างทีมงาน จัดทำคู่มือ ระบบการอบรมและการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เพราะถ้าแบรนด์ไม่ดังไม่เป็นที่รู้จัก ก็จะไม่มีใครมาซื้อแฟรนไชส์

นั่นคือ ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าหรือช่องทางการดำเนินธุรกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

SMEs Tips

  1. ตัวแทนจำหน่าย
  2. ฝากคนอื่นขาย
  3. ขายส่งพ่อค้าคนกลาง
  4. อีคอมเมิร์ซ
  5. ขายตรง
  6. แฟรนไชส์

อ้างอิงจาก https://bit.ly/30m1wpt

อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช