เทรนด์อาหารยุคใหม่ ที่ SMEs ต้องรู้ก่อนรุกอาเซียน
ธุรกิจอาหารอาเซียน เป็นอีกหนึ่งภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของประชากรรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับศักยภาพด้านวัตถุดิบที่หลากหลาย
อีกทั้งยังเกิดการรวมตัวของกลุ่มสมาชิกในรูปแบบของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เมื่อช่วงปลายปี 2558 แม้จะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่ธุรกิจอาหารก็เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโต และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนมากที่สุด
ปัจจุบันตัวเลขการส่งออกอาหารไทย ที่รายงานโดยคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีมากถึง 122,000 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ CLMV มีมูลค่าการส่งออกมากถึงครึ่งหนึ่ง โดยแนวโน้มอาหารที่กำลังมาแรงในอาเซียน โดยส่วนใหญ่เป็นเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ภาพจาก goo.gl/kolP3B
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะขอนำเสนอเทรนดธุรกิจอาหารในอาเซียน ที่กำลังมาแรงสุดๆ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการอาหาร และเจ้าของธุรกิจร้านอาหารของไทย ได้เตรียมตัวให้พร้อม หากต้องการที่จะขยายธุรกิจ ขายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีจำนวนประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน มาดูกันเลยว่า เทรนด์อาหารที่มาแรง มีอะไรบ้าง
เทรนด์ที่ 1 คือ อาหารจากธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตน้อย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การเพาะปลูก
เทรนด์ที่ 2 คือ โปรตีนทางเลือก ที่ไม่ได้มาจากสัตว์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เลี่ยงการทานเนื้อสัตว์และผู้ทานมังสวิรัติ และเชื่อว่า ไขมันเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายสุขภาพ
ภาพจาก goo.gl/79Ih1P
เทรนด์ที่ 3 คือ เทรนด์ Table for one เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบัน มีแนวโน้มการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวมากขึ้น บางครั้งจึงรับประทานอาหารเพียงคนเดียว ส่งผลให้แนวโน้มอาหารที่บรรจุแพ็กเกจสำหรับ 1 ท่าน 1 มื้อ และร้านอาหารต่างๆ ก็มีแนวโน้มที่จะทำพื้นที่สำหรับลูกค้าเพียงคนเดียวมากขึ้น
เทรนด์ที่ 4 คือ ต้องมีสีสัน สวยงาม และต้องแชะแล้วแชร์ได้ รวมถึงต้องมีการสร้างแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม มีจุดเด่นและออกแบบอาหารให้มีความน่าสนใจและสวยงาม สำหรับเผยแพร่ลง Social media โดยแพ็กเกจจิ้ง ควรระบุว่า มีส่วนผสมที่บำรุงสุขภาพเรื่องด้านใดได้บ้าง เช่น วิตามิน เกลือแร่ เป็นต้น
เทรนด์ที่ 5 คือ การออกแบบอาหารให้เหมาะกับ DNA ผู้บริโภค เพราะมีความเชื่อว่าอาหารมีความเชื่อมโยงกับพันธุกรรมโดยตรง เช่น การทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก หรือ เพื่อให้เหมาะกับการออกกำลังกายของแต่ละคน เพราะผู้บริโภคปัจจุบัน ต้องการโชว์รูปร่างและผลลัพธ์การออกกำลังกายที่ดี
ภาพจาก goo.gl/VkoJEz
เทรนด์ที่ 6 คือ แหล่งผลิตน่าเชื่อถือ พฤติกรรมการซื้อสินค้าในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผู้ซื้อมักต้องการทราบข้อมูล ที่มาของแหล่งผลิต ที่ระบุได้และมีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบคุณภาพและความสะอาดได้
และสิ่งสำคัญ คือ ต้องมีช่องทางสั่งซื้ออาหารออนไลน์ การซื้อสินค้าออนไลน์ แอพพลิเคชั่น และบริการจัดส่ง กำลังเปลี่ยนโฉมช่องทางเข้าถึงของผู้บริโภคไปยังการซื้อขายในอนาคต
อุตสาหกรรมอาหารไทย ที่พร้อมทำตลาดอาเซียน
อย่างไรก็ตาม นอกจากเทรนด์อาหารที่กำลังมาแรงในอาเซียนแล้ว ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารก็จะต้องรู้ว่า หากต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดอาเซียน จำเป็นต้องรู้ว่า มีอุตสาหกรรมอาหารใดบ้าง ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอาเซียน และผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน มาดูว่าอุตสาหกรรมอาหารไทย ที่พร้อมรุกตลาดอาเซียน มีอะไรบ้าง
ภาพจาก goo.gl/Iz3znt
กลุ่มแรก เป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันและส่งออกมากขึ้น คือ กลุ่มประเภทอาหารแปรรูปต่างๆ ทั้งผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์ เครื่องปรุงรส และแป้ง เพราะประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือด้านการผลิตนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยีและวัตถุดิบด้วย
ภาพจาก goo.gl/0zbRkr
กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม คือ กลุ่มเครื่องดื่ม ข้าว ธัญพืช เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบระดับคุณภาพดี แต่มีราคาสูง ทำให้การแข่งขันอยู่ในระดับปานกลาง
ภาพจาก goo.gl/n20yvZ
กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มสินค้าที่การแข่งขันยังเสียเปรียบ คือ กลุ่มอาหารประเภท นม อาหารสัตว์ สัตว์น้ำ น้ำมันพืช โกโก้ ช็อกโกแลต เครื่องเทศ ชา กาแฟ จากการที่วัตถุดิบไม่เพียงพอ และต้นทุนสูง รวมถึงสินค้าไม่ตรงตามต้องการของตลาด
ทั้งหมดถือเป็นเทรนด์อาหารที่กำลังมาแรง และกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคอาเซียน จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการอาหารของไทย จะต้องปรับปรุง พัฒนาระบบการผลิต พัฒนาสินค้า พัฒนาแพ็กเกจจิ้ง รวมถึงการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มีมากขึ้น สินค้าที่ผลิตขึ้นต้องมีคุณภาพมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ