เด็กขายข้าวแกง! สู่เจ้าแม่ธุรกิจอาหารเสริมยอดขาย 1,000 ล้านบาท
ชีวิตที่ไม่มีต้นทุน เริ่มต้นจากเด็กที่พ่อแม่แยกทาง ต้องหาค่าเล่าเรียนเอง เป็นเด็กเลี้ยงวัว ช่วยแม่ขายข้าวแกง แต่วันนี้คุณแป้ง ขวัญชนก ทวนวิจิตร เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในปีที่ผ่านมาสร้างความฮือฮาเมื่อบริษัท วิงค์ไวท์ พานาเซีย จำกัด คว้าซุปตาร์ตัวแม่อย่างใหม่ ดาวิกามาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าใหม่อย่าง W COLLAGEN
ใครหลายคนอาจมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าสนใจ แต่ www.ThaiSMEsCenter.com กลับมองว่าน่าสนใจมาก โดยเฉพาะวิธีการสู้ชีวิตที่กว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เด็กต่างจังหวัด! พ่อแม่แยกทาง! ทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินเรียน
ชีวิตเริ่มต้นของคุณแป้งไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ครอบครัวมีอาชีพทำนา ในลพบุรี หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน ฐานะทางบ้านก็ไม่สู้จะดีนัก อาศัยอยู่กับแม่ น้องชาย และยาย โดยแม่ยึดอาชีพค้าขายในตลาด รายได้ก็ไม่มาก คุณแป้งจึงต้องทำอาชีพหลายอย่างเพื่อหาเงินมาช่วยครอบครัวรวมถึงการไปรับจ้างเลี้ยงวัวและกลับมาช่วยแม่ขายข้าวแกง จนกระทั่งยายล้มป่วย ต้องหยุดขายข้าวแกง ครอบครัวที่รายได้น้อยอยู่แล้ว ก็แทบจะไม่มีรายได้อะไรเลย
แถมยังต้องใช้เงินเยอะในการส่งน้องและตัวเองเรียน พอดีทางรัฐบาลมีโครงการกู้เงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตัดสินใจกู้เงินมา ได้เดือนละ 2,000 บาท คิดต่อยอดจากเงินก้อนนี้ แบ่งเงิน 1,600 บาท มาซื้อสบู่ขายใช้วิธีขายให้กับเพื่อนในมหาวิทยาลัย แม้รายได้จะไม่มากยอดขายประมาณ 100 ก้อนต่อเดือน แต่ก็พอให้มีเงินหมุนเวียนใช้ได้บ้าง เป็นจุดเริ่มของอาชีพสินค้าความงามในเบื้องต้น
จุดพลิกชีวิต! ขายสินค้าออนไลน์! นำเงินเก็บ สร้างแบรนด์ Wink White
แม้การขายสบู่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ปัญหาคือตอนปิดภาคเรียนไม่สามารถขายสินค้าได้ แต่รายจ่ายของครอบครัวยังมีเหมือนเดิม ทำให้ต้องมองหาวิธีการขาย และตัดสินใจนำสบู่มาขายในอินสตาแกรม ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมากยอดขายต่อเดือนประมาณ 100 ก้อน แต่ถึงกระนั้นรายได้ก็ยังไม่พอรายจ่าย เลยคิดวิธีการขายให้ได้เยอะขึ้น ตัดสินใจเลือกใช้วิธี “ตัวแทนจำหน่าย” แม้ตอนนั้นจะยังไม่มีแบรนด์ของตัวเองก็ตาม
หลังจากมีตัวแทนจำหน่ายช่วยขายก็เริ่มมีรายได้มากขึ้น และทำในลักษณะนี้อยู่ประมาณ 3 ปี มีเงินเก็บจากการขายสินค้าประมาณ 700,000 บาท หลังจากเรียนจบ เพื่อนก็ไปทำงานประจำกัน แต่คุณแป้งคิดว่าถ้าไปทำงานประจำ รายได้ก็คงจะไม่พอกับค่าใช้จ่ายของครอบครัว จึงตัดสินใจนำเงินที่มีอยู่ทั้งหมด ไปสั่งทำอาหารเสริม ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ชื่อว่า Wink White ที่กลายมาเป็นแบรนด์อาหารเสริมและสกินแคร์ที่ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 20,000 คน
Wink White ธุรกิจอาหารเสริมและสกินแคร์ ยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท
หลังจากธุรกิจเริ่มมีการเติบโตเป็นลำดับ บริษัท วิงค์ไวท์พานาเซีย จำกัด เริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งแรกในปี 2013 โดยเน้นผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า ประเภทอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคของตลาดในขณะนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด
รายได้ของบริษัทในปี 2561 มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท และมีการเติบโตของธุรกิจมากขึ้น ซึ่งในปี 2564 แบรนด์ Wink White คือสุดยอดแบรนด์ที่ได้การยอมรับทั้งในและต่างประเทศ มียอดขายมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทตีตลาดไปแล้วกว่า 10 ประเทศ ทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงการตีตลาดเพื่อนบ้านเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา รวมยอดขายไปแล้ว 10 ล้านชิ้น ตัวแทนกว่า 20,000 คน ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ฮิตติดลมบน และตอนนี้ในโลกออนไลน์คนที่สนใจสินค้าความงามและอาหารเสริมต่างรู้จัก Wink White เป็นอย่างดี
คีย์เวิร์ดความสำเร็จ ปั้นแบรนด์ “Wink White” ให้เติบโต
ต้องยอมรับว่าประสบการณ์ในตลาดความงามมีผลอย่างมากที่ดันให้ธุรกิจนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือมุมมองและการบริหารงานที่ถือว่ามีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งมีคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจได้แก่
1.เห็นโอกาสต้องคว้าไว้
ในช่วงที่เริ่มต้นธุรกิจมาจากคนที่ไม่มีเงินทุนใดๆ เลย แต่มองเห็นว่าช่องทางการขายออนไลน์จะเพิ่มยอดขายได้ก็ไม่รอช้า ซึ่งก็ได้ผลดี แต่ได้ต่อยอดให้ดียิ่งกว่าด้วยระบบตัวแทนจำหน่ายที่ทำให้มียอดขายมากขึ้น จนกระทั่งมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งที่กล้าตัดสินใจออกมาสร้างแบรนด์ของตัวเองแทนที่จะเลือกทำงานประจำ ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเองได้อย่างแท้จริง
2.ก้าวให้ทันปรับเปลี่ยนสินค้าตามเทรนด์
การแข่งขันในตลาดออนไลน์นั้นสูงมาก การจะเป็นแบรนด์ที่คนฮิตต้องพัฒนาสินค้าให้ตามเทรนด์และเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดย Wink White ให้ความสำคัญในเรื่องนี้และมีทีมงานคอยติดตามข่าวสาร และพัฒนาสินค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง
3.จัดคอร์สอบรมให้ตัวแทนจำหน่าย
ระบบตัวแทนจำหน่ายคือหัวใจของความสำเร็จ ซึ่ง Wink White มีการจัดคอร์สอบรมเพิ่มความรู้ให้ตัวแทนจำหน่ายที่ส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทอย่างมาก ซึ่งการจัดคอร์สอบรมนี้ทำให้ตัวแทนจำหน่ายได้มองเห็นภาพรวมสินค้าของบริษัท แนวทางของบริษัท และได้มองเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่ทำให้สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น
4.กลยุทธ์ราคามัดใจผู้บริโภค
ในส่วนของแผนการตลาด Wink White ใช้กลยุทธ์ ราคา มัดใจผู้บริโภค และ มัดใจตัวแทนจำหน่ายด้วยการจัดโปรโมทชั่น เช่น ซื้อ กี่กล่อง จะได้ทอง หรือ แจกแพคเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวแทนชื่นชอบ ซึ่งของ Wink White ขยายระยะเวลาการสั่งซื้อ เพราะตัวแทนบางคนอาจจะงบน้อย ค่อยสะสม ไม่ต้องซื้อครั้งเดียว เป็นต้น
5.เน้นการโฆษณาออนไลน์เป็นหลัก
ภาพจาก www.facebook.com/winkwhiteofficial
แผนการลงงบโฆษณา ก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ โดยในแต่ละปี วางงบโฆษณาไว้ปีละ 100 ล้านบาท ผ่านสื่อหลัก คือ ทางออนไลน์ เพราะเห็นผลชัดเจน ยิ่งในปัจจุบันตลาดออนไลน์คือช่องทางหลักที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ในยุคที่โควิดแพร่ระบาดยิ่งทำให้ช่องทางออนไลน์เติบโตมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้วิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจยุคนี้สำคัญมาก สิ่งที่ควรใส่ใจไม่ใช่แค่รายได้หรือกำไร แต่ต้องมองรอบด้าน ให้ความสำคัญกับผู้ร่วมงาน พนักงาน เพราะคือหัวใจสำคัญในธุรกิจ หลายบริษัทไม่ได้มองเรื่องนี้ ทำให้ธุรกิจไม่เติบโตเท่าที่ควร
พร้อมกันนี้คุณแป้งยังมองอีกว่า Wink White เป็นธุรกิจที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่ง ถ้าหากจะล้มก็ยังจะลุกได้เร็วและกลับมาดีได้ยิ่งกว่าเดิม สิ่งสำคัญคืออย่ากดดันตัวเอง ต้องให้กำลังใจตัวเรา ทีมงาน และดูแลพนักงานทุกคนให้มีความสุขเพื่อให้ทุกคนอยากทำงานและเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3NvUrX2 , https://bit.ly/3oeBXiC , https://bit.ly/3K461GA , https://bit.ly/3NIOlD1
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Kc0IoM
