อัปเดตเทรนการทำ แพคเกจจิ้ง ที่โดนใจกลุ่มลูกค้า Gen Z

ธุรกิจคือการลงทุนเป็นนิยามที่ทุกคนรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเริ่มต้นลงทุนแบบไหนอย่างไร สิ่งที่ต้องคิดจึงไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องตัวสินค้าแต่หากมีปัจจัยแวดล้อมอีกมากมายที่เราต้องคิดถึง

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าองค์ประกอบของทุกธุรกิจสำคัญตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย กำหนดกลุ่มลูกค้า วางแผนการบริหารงาน ที่ถือว่าทั้ง 3 ส่วนนี้หากกำหนดได้ถูกต้องจะเป็นแนวทางเริ่มต้นไปสู่การพัฒนาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเรื่องของ “ แพคเกจจิ้ง ” ที่ถือว่าเป็นด่านแรกที่พบเห็นระหว่างสินค้ากับคนซื้อ ว่ากันว่า แพคเกจจิ้งก็เปรียบเสมือนเสื้อผ้าของสินค้า เพราะถ้าออกแบบมาให้สวย ดูดี ก็ช่วยให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ ได้ไม่ยาก

ซึ่งมันสอดคล้องกับผลการสำรวจของ Bizongo ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อผู้บริโภค ที่บอกว่า 63% ของผู้บริโภคมีพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าจากแพคเกจจิ้งที่น่าดึงดูด โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z จะพบว่าเป็นกลุ่มคนที่คิดเร็วทำเร็ว และนิยมซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสินค้าที่กลุ่มนี้จะซื้อ นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงใจแล้ว จะต้องสวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และมีสตอรี่เรื่องราวที่น่าจดจำ ดังนั้นการจะออกแบบแพคเกจจิ้ง ให้โดนใจกลุ่มลูกค้า Gen Z จะขาดสิ่งต่อนี้ไปไม่ได้

1.ดีไซน์ที่ไม่ต้องเยอะ เรียบๆ แต่ดูดี

หากคิดจะออกแบบแพคเกจจิ้งให้กระชากใจกลุ่มลูกค้า Gen Z จะต้องมาแนว “มินิมอลดีไซน์” เรียบง่ายแต่ดูดี และสื่อสารชัดเจน
มินิมอลดีไซน์ ไม่ได้เพิ่งเกิดมาพร้อมกับกลุ่ม Gen Z เพราะแท้จริงแล้วมันเป็นกระแสของกลุ่มศิลปินในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ที่เริ่มเบื่อหน่ายแนวทางศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างอารมณ์ที่รุนแรง จึงพากันหันมาทำศิลปะแบบมินิมอลลิสต์ที่เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด ตัดทอนสิ่งอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น และแสดงออกถึงการมีอยู่ตามความที่เป็นจริงแบบตรงไปตรงมา

คำถามคือเพราะอะไรสไตล์มินิมอล ถึงเป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้า Gen Z ได้ คำตอบก็คือกลุ่มนี้ไม่ชอบความยุ่งยาก วุ่นวาย หรือขึ้นตอนที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น ซึ่งตรงกับหลักการมินิมอลอย่างพอดิบพอดี ดังนั้นมินิมอลดีไซน์จึงถูกนำมาใช้กับงานออกแบบอื่นๆ รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งสินค้าด้วย

2.มีเรื่องราวสัมพันธ์กับสินค้า

นอกจากความต้องการ คุณภาพ หรือราคา การสร้างจุดขายหรือการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านแพคเกจจิ้งให้ทัชใจก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเช่นกัน อย่างการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งของญี่ปุ่น จะเน้นเอาองค์ประกอบรอบตัวที่เห็นได้ทั่วไปอย่าง แสง สี รูปทรงต่างๆ มาประยุกต์ใช้สร้างความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวของแบรนด์เพื่อสื่อถึงความเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัย

หรือทางฝั่งยุโรปก็มีการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์หลอดไฟฟ้าของบริษัท CS Electric light ในประเทศเบลารุสโดย Angelina Pischikova ให้บนกล่องเป็นรูปวาดหิ่งห้อย โดยเจาะส่วนหนึ่งบนกล่องให้เป็นรูไว้ เมื่อบรรจุหลอดไฟลงไปก็จะกลายเป็นก้นของหิ้งหอยพอดี เหตุผลที่ใช้ภาพวาดหิ่งห้อยนักออกแบบบอกว่า หิ่งห้อยเปรียบเสมือนแหล่งกำเนิดของแสงเย็นนั่นเอง

3.มีลูกเล่นที่น่าสนใจ

อย่างที่บอกว่า Gen Z เขารับสื่อในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังรวดเร็ว กระชับ ฉับไว ดังนั้นหากต้องการจะหยุดความสนใจของพวกเขาให้อยู่ที่แบรนด์ของเรา การออกแบบแพคเกจจิ้งจะต้องมีลูกเล่นเป็นกิมมิคเข้ามาช่วยเพิ่มความน่าสนใจ สร้างความแตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ ทำให้น่าซื้อยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ขวดนมรสกล้วย (Banana Milk Packaging ) โดย Dongwook Yoon ผลงานออกแบบแพคเกจจิ้ง ประจำปี พ.ศ. 2559 จากเว็บไซต์ Packaging of the World ที่ออกแบบกราฟิกส่วนพลาสติกภายนอก โดยใช้รูปแบบกราฟิกของเปลือกกล้วยหอม โดยก่อนที่เราจะดื่ม จะต้องแกะพลาสติกออก ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกได้อารมณ์เหมือนการปอกเปลือกกล้วย โดยวัตถุของการออกแบบแพคเกจจิ้งนี้อาจจะสื่อถึงความสดใหม่ และสร้างความรู้สึกเหมือนได้กินกล้วยจริงๆ

หรือถ้าเป็นสินค้าเกี่ยวกับการทำอาหาร อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการออกแบบแพคเกจจิ้งด้วยแถบ “คิวอาร์โค้ด” ให้ผู้บริโภคสามารถสแกนดูว่าผลิตภัณฑ์นี้ทำมาจากอะไร มีประโยชน์อย่างไร หรือสามารถนำไปประกอบอาหารอะไรได้บ้าง ก็สร้างความแปลกใหม่น่าสนใจไม่แพ้กัน

4.ทำจากวัสดุรีไซเคิล

จากรายงานของเจเนอเรชั่นซี เอเชียแปซิฟิก ที่ทำการศึกษาถึงแรงกระตุ้นและพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นเยาว์ พบว่า 43% ของคนกลุ่ม Gen Z ประเทศไทยกังวลเกี่ยวกับมลพิษและสิ่งแวดล้อม เพราะเห็นข่าวและคำวิจารณ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่ม Gen Z เป็นเจนที่มีความตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

เช่น “Preserve” แบรนด์แปรงสีฟันรีไซเคิล ที่ด้ามจับผลิตจากพลาสติกผ่านการใช้แล้วแบบต่างๆ โดยการเลือกวัตถุดิบมาผลิตแปรงสีฟันของ Preserve จะต้องผ่านการใช้แล้วเท่านั้น

นั่นหมายความว่าการผลิตสินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการออกแบบแพคเกจจิ้งของแบรนด์ต่างๆ จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากๆ ยิ่งถ้าบอกว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์ใดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือแพคเกจจิ้งของสินค้าใดทำมาจากวัสดุรีไซเคิล ยิ่งจะตรงใจชาว Gen Z รวมถึงชาวเจนอื่นๆ ด้วย

5.สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่

ถ้าแพคเกจจิ้งเป็นมากกว่าภาชนะบรรจุหรือสิ่งห่อหุ้มสินค้าคงจะดี ด้วยลักษณะนิสัยของชาว Gen Z เป็นกลุ่มคนที่เสพติดความมัลติฟังก์ชัน มีความ All in one อยู่ในตัวเองสูง ดังนั้นถ้าการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือการออกแบบแพคเกจจิ้งให้เราสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้ หรือมีคุณสมบัติมากกว่าหนึ่งอย่างยิ่งโดนใจกลุ่มลูกค้า Gen Z

เช่น “Puma’ s Clever Little Bag” จากเดิมเป็นกล่องกระดาษปกติ เวลาซื้อก็ต้องใส่ลงในถุงอีกชั้น เขาก็ออกแบบแพคเกจจิ้งใหม่ให้เป็นถุงผ้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้ และยังลดการใช้กระดาษจากกล่องรองเท้าปกติได้มากถึง 65%

ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ ถ้าอยากออกแบบผลิตภัณฑ์หรือออกแบบแพคเกจจิ้งให้โดนใจกลุ่มลูกค้า Gen Z ก็สามารถทำได้เพียงแค่เข้าไปที่ https://fastwork.co/packaging เราจะพบกับเหล่านักออกแบบที่รับออกแบบผลิตภัณฑ์และแพคเกจจิ้งมาให้เลือกมากมาย อย่ารอช้าถูกใจผลงานคนใดก็คลิกเลย