อยู่คู่คนไทย “ปลากระป๋องสามแม่ครัว” จากกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ลดแลกแจกแถม สร้างรายได้กว่า 4 พันล้าน

ในช่วงการระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย นอกจากมาม่าที่คนไทยนิยมซื้อกักตุนที่บ้านแล้ว ยังมีอาหารประจำบ้านอยู่คู่คนไทยมายาวนาน นั่นคือ ปลากระป๋อง ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดปลากระป๋องในเมืองไทยอยู่ที่ราวๆ 8,000-9,000 ล้านบาท 

โดยเจ้าตลาดปลากระป๋องที่ครองส่วนแบ่งมากที่สุด ก็คือ ปลากระป๋องสามแม่ครัว กินส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% ปลากระป๋องสามแม่ครัว มีจุดเริ่มต้นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบ

จุดเริ่มต้น

ปลากระป๋องสามแม่ครัว

ภาพจาก www.threeladycooks.com

ปลากระป๋องสามแม่ครัว ก่อตั้งขึ้นโดย “คุณสุวัฒน์ อุดมบัณฑิตกุล” พร้อมกับเพื่อน 5 คน ในปี 2016 ซึ่งในตอนนั้นพวกเขายังไม่มีประสบการณ์การทำธุรกิจหรือเงินทุนใดๆ เลย ซึ่งในตอนนั้นคุณสุวัฒน์และเพื่อนทำงานเป็นลูกจ้าง อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่อยากต้องถูกเลิกจ้าง และไม่อยากแก่ตาย จึงยอม “เสี่ยงตาย” ออกมาทำธุรกิจปลากกระป๋อง โดยช่วงเริ่มแรกของการก่อตั้งธุรกิจนั้น พวกเขาได้รับเงินเดือนเพียงคนละ 3,000 บาทเท่านั้น

แต่รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจปลากระป๋องที่พวกเขาทำดำเนินไปได้ดี จึงตัดสินใจจดทะเบียนเป็นบริษัทเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2517 ในชื่อ “บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ก่อนจะมาเป็น 200 ล้านบาทในปัจจุบัน

สำหรับตรา “สามแม่ครัว” นั้น เดิมใช้คำว่า “แม่ครัว” เพื่อสื่อความหมายถึงการทำอาหาร มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหาร มาหลังๆ เห็นว่าเลข 3 เป็นตัวเลขดี จึงเปลี่ยนมาใช้ตรา “สามแม่ครัว” เพราะมีแม่ครัว 3 คน แสดงให้เห็นถึงอาหารต้องอร่อย

กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง

ปลากระป๋องสามแม่ครัว

ภาพจาก www.threeladycooks.com

กว่าจะมาเป็นปลากระป๋องที่คนไทยนิยมในวันนี้ ปลากระป๋องสามแม่ครัวต้องเดินสายทำการตลาดและขายตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ หรือที่รู้จักในกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านกระจายสินค้าของคุณสุวัฒน์และเพื่อน ทำให้สามแม่ครัวเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากกว่าแบรนด์อื่น และใช้ราคาจำหน่ายที่สูงกว่าคู่แข่งราวๆ 1-2 บาทต่อกระป๋อง เนื่องจากเน้นคุณภาพวัตถุดิบของสินค้าเป็นตัวหลักในการสร้างแบรนด์ระยะยาว

วิธีการทำตลาดของสามแม่ครัวในช่วงเริ่มแรก จะใช้รถเร่ไปวิ่งคอนเสิร์ตในรูปแบบของการจัดประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ด้วยการเช่ารถเร่ของนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง โดยกลยุทธ์ที่ใช้ให้ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตเอาฉลากปลากระป๋องสามแม่ครัวมาแลก รางวัล ซึ่งสามแม่ครัวได้ทำตลาดแบบนี้เกือบ 2 ปี หลังจากนั้นคนเริ่มบอกปากต่อปากและรู้จักตราสินค้ามากยิ่งขึ้น

เมื่อคนรู้จักปลากระป๋องสามแม่ครัวมากขึ้น จึงเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ “ลด แลก แจก แถม” เช่น สะสมฉลากแลกเสื้อ, ซื้อ 1 แถม 1 โดยใช้เวลาทำตลาดในช่วงแรกๆ กว่า 5 ปี เมื่อผู้บริโภครู้จักแบรนด์มากขึ้น ก็เริ่มใช้สื่อโฆษณาแบบครบวงจร ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ รวมถึงวิทยุชุมชนประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักสามแม่ครัวมากขึ้น

หลังจากนั้น สามแม่ครัวแตกไลน์สินค้าเข้าสู่ปลาปรุงรส เน้นความเป็นไทยเป็นหัวหอกหลักในการสร้างแบรนด์สินค้า ด้วยการใช้เครื่องแกงของไทยเปิดตลาด ทั้งฉู่ฉี่ปลาซาร์ดีน และมัสมั่นปลาซาบะ รวมถึงอนาคตจะมีสินค้ารสชาติอื่นๆ ออกมาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกและสบายมากขึ้น

ปัจจุบันสามแม่ครัว ได้มีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ THREE LADY COOKS เพื่อสื่อความหมายของสามแม่ครัวได้อย่างชัดเจนเหมือนในตลาดเมืองไทย ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องแบบครบวงจร โดยทำตั้งแต่ปลูกมะเขือเทศ ผลิตซอส จนถึงมีโรงงานผลิตกระป๋องหรือบรรจุภัณฑ์ในเครือ

ปลากระป๋องสามแม่ครัว

ภาพจาก www.facebook.com/threeladycooks

ผลิตภัณฑ์สามแม่ครัว เช่น ปลาแมกเคอเรลในซอสมะเขือเทศ, ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ ฉู่ฉี่ปลาแมกเคอเรล, น้ำพริกปลาแมกเคอเรล, คั่วกลิ้งปลาแมกเคอเรล, ห่อหมกปลาแมกเคอเรล ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม, น้ำปลาไส้ตันแท้, ซอสปรุงรส โดยมีการจำหน่ายสินค้าออกไปกว่า 20 ประเทศ โดยมีสัดส่วนรายได้จากภายในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10%

สามแม่ครัวยังเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 1 ในตลาดเวียดนาม ครองส่วนแบ่งตลาด 60-70% โดยสามแม่ครัวจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและโรงงานที่เวียดนาม ใช้ชื่อแบรนด์ “บา โก ก๋าย” ซึ่งเป็นภาษาเวียดนาม หรือ “สามแม่ครัว” ในเมืองไทย

รายได้สามแม่ครัว

1

ภาพจาก www.threeladycooks.com

จากการตรวจสอบงบกำไร-ขาดทุน บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด บนเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีดังนี้

  • ปี 61 รายได้ 2,928 ล้านบาท กำไร 151 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 3,687 ล้านบาท กำไร 271 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 4,227 ล้านบาท กำไร 517 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่ารายได้ของปลากระป๋องสามแม่ครัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นเริ่มต้นของการระบาดโควิด-19 รัฐบาลมีการล็อกดาวน์ ทำให้ประชาชนซื้อสินค้าอาหารกักตุน ซึ่งหนึ่งในสินค้ายอดนิยม ก็คือ ปลากระป๋องนั่นเอง จึงทำให้รายได้ของปลากกระป๋องสามแม่ครัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3MgKT0M

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช