ส่อง! เชนร้านอาหารและเบเกอรี่ในเครือ “คิง ฟูด กรุ๊ป”
หากเอ่ยถึงฉายา “เจ้าแม่คริสปี้ ครีม” ในเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือ “อุษณีย์ มหากิจศิริ” ผู้เข้าแบรนด์ Krispy Kreme จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเปิดในประเทศไทย โดยเปิดให้บริการสาขาแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G จนสร้างปรากฏการณ์คนต่อแถวซื้อยาวเหยียดหลายชั่วโมง
แบรนด์ร้านโดนัท Krispy Kreme ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารและเบเกอรี่ภายใต้การบริหารของ “อุษณีย์” ได้รับสิทธิ์นำเข้ามาเปิดในเมืองไทย ซึ่งแรกๆ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท คิง ฟูด กรุ๊ป จำกัด (เคเอฟดี) ผู้นำเข้าแบรนด์อาหารและเบเกอรี่ชื่อดังจากทั่วโลก ได้แก่ ไอฮอป, คริสปี้ ครีม, ซินนาบอน, บูลโกกิ บราเธอร์ส, พาย เฟสซ์ และ แจมบาร์ จูซ แต่ละแบรนด์ข้างต้นมีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบครับ
1.Krispy Kreme
ภาพจาก https://bit.ly/3bcVr3S
คริสปี้ ครีม โดนัทชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาก่อตั้งในปี 1937 คุณอุษณีย์นำเข้ามาเปิดในประเทศไทยปี 2553 สาขาแรกตั้งอยู่ห้างสยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ต่อคิวจนล้นออกมานอกห้าง และทำให้เกิดอาชีพรับจ้างต่อคิว การซื้อออกมาขายต่อ ปรากฏการการต่อคิวชื้อเป็นการต่อคิวที่ใช้เวลามากที่สุด ราคาขายโดนัทคริสปี้ครีมในช่วงแรกๆ โดยเมนู Original Glazed โดนัทเคลือบน้ำตาลธรรมดาราคาชิ้นละ 27 บาท ส่วน Assorted โดนัทที่มีหน้าต่างๆ ราคาชิ้นละ 35 บาท
สำหรับการนำเข้าแบรนด์คริสปี้ ครีม ต้องจ่าย Franchise Fee เป็นจำนวนเงินขั้นต่ำ 40,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมกับการการันตีว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ 15 ปี การลงทุนในแต่ละสาขาต้องใช้งบประมาณ 1,000,000 เหรียญสหรัฐ และยังต้องหัก 6.5% จากยอดขายให้กับบริษัทแม่ Krispy Kreme ซึ่งรวมทั้งหมดแล้ว เงินทุนเริ่มต้นสำหรับธุรกิจโดนัทที่ขายในราคาเริ่มต้นชิ้นละ 27 บาท อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 150 ล้านบาท
ปัจจุบันคริสปี้ ครีม มี 50 กว่าสาขา ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท เคดีเอ็น จำกัด (คริสปี้ ครีม) ในปี 62 มีรายได้ 663 ล้านบาท กำไร 21 ล้านบาท, ปี 63 รายได้ 646 ล้านบาท กำไร 19 ล้านบาท และ ปี 64 รายได้ 692 ล้านบาท กำไร 22 ล้านบาท
2.Cinnabon
ภาพจาก https://bit.ly/39srOuV
Cinnabon (ซินนาบอน) ร้านแฟรนไชส์แบบบริการตนเองสัญชาติอเมริกัน ที่เสิร์ฟซินนามอนโรล รวมถึงขนมอบอื่นๆ และเครื่องดื่มปั่นสูตรพิเศษ ปัจจุบันมีจำนวน 10 สาขาในประเทศไทย อาทิ siam paragon, samyan mitrtown, silom complex และ terminal 21 อโศก โดย Cinnabon ในประเทศไทยดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท คิงออนซินนามอน จำกัด ปี 62 รายได้ 14 ล้านบาท ขาดทุน 7 ล้านบาท, ปี 63 รายได้ 18 ล้านบาท กำไร 9.73 แสนบาท และ ปี 64 รายได้ 27 ล้านบาท กำไร 14 ล้านบาท
3.Bulgogi Brothers
ภาพจาก https://bit.ly/3zFDdlC
ร้านอาหารเกาหลี Bulgogi Brothers สาขาแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า The Emquartier โซน Helix ชั้น 8 เปิดให้บริการวันแรกในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2558 และเป็นสาขา Gold แห่งแรกของโลก เนื่องจากสาขาได้เพิ่มเมนูพิเศษจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม อีกทั้งสถานที่ตั้งอยู่บนทำเลหรู วิวสวยใจกลางกรุงเทพมหานคร โดย Signature ของทางร้าน ได้แก่ Unyang Style Bulgogi เนื้อ Premium รูปหัวใจหมักกับเครื่องเทศ นำมาย่างจนหอมกรุ่น จิ้มกับเกลือและน้ำมันงา หรือ จิ้มกับน้ำจิ้มรสชาติเผ็ดร้อนสูตรพิเศษที่ร้านคิดค้น
Bulgogi Brothers สาขาแรกตั้งอยู่ที่เมืองกังนัม ประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจสูงมาก ความอร่อยและความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ ได้แผ่ขยายจนมีมากกว่า 40 สาขาทั่วโลก ทั้งในประเทศแคนนาดา จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จนมาถึงประเทศไทยโดยการนำเข้าของคุณอุษณีย์ มหากิจศิริ
Bulgogi Brothers ประเทศไทย อยู่ถายใต้บริษัท คิง ออฟบูลโกกิ จำกัด (บริษัท เคจีบี จำกัด) ปี 62 มีรายได้ 7 ล้านบาท ขาดทุน 7 ล้านบาท, ปี 63 มีรายได้ 10 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท และ ปี 64 มีรายได้ 6 ล้านบาท กำไร 4 ล้านบาท
4.Pie Face
ภาพจาก https://bit.ly/3On2Aww
พายเฟสซ์ (Pie Face) ร้านขนมอบชื่อดังสัญชาติออสเตรเลีย ปัจจุบันมีสาขาทั่วโลก สาขาแรกจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากนั้นขยายไปยังนิวยอร์ก สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น รวมถึงตะวันออกกลาง จนกระทั่งประเทศไทย
Pie Face Thailand เปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มควอเทียร์ ชั้น B โซน B เมื่อปี 2558 กรรมวิธีทำพายเฟสซ์นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติที่อัดแน่นไปด้วยไส้ ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม อบสดๆ ชิ้นต่อชิ้น และอบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะแป้งพายที่มีความบางกรอบนั้นมีเลเยอร์ถึง 4 ชั้น กรรมวิธีนี้ถูกคิดค้นโดย Francois เชฟขนมอบชาวฝรั่งเศส และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของ Pie Face ทุกชิ้น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ปัจจุบันมีจำนวน 4 สาขา
Pie Face Thailand อยู่ภายใต้การดำเนินงานบริษัท คิง ออฟ พัฟ จำกัด ปี 62 มีรายได้ 4 ล้านบาท ขาดทุน 5 ล้านบาท, ปี 63 มีรายได้ 14 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท และ ปี 64 มีรายได้ 13 ล้านบาท กำไร 7 ล้านบาท
5.Jamba Juice
ภาพจาก https://bit.ly/3tI7YlZ
“แจมบาร์ จูซ” (Jamba Juice) แบรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ประเภทสมูทตี้แท้ 100% จากสหรัฐอเมริกา เปิดสาขาแรกในประเทศไทย สยามพารากอน เมื่อปี 2560 รองรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ใช้ชีวิตรีบเร่งและมีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ
โดยแจมบาร์ จูซ แบ่งเมนูออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.สมูทตี้ เครื่องดื่มน้ำผลไม้สมูทตี้ อาทิ คลาสสิค สตอเบอรี่ ดรีม และคลาสสิค บานานา เบอรี่ ฯลฯ 2.น้ำผลไม้คั้นสด เมนูผักและผลไม้คั้นสด อาทิ ทรอปิคัล กรีน ฯลฯ 3.เอนเนอร์จี้ โบลว์ (Energy Bowl) อาหารแคลอรี่ต่ำแต่ให้พลังงานสูงจากส่วนผสมที่ลงตัวของผลไม้, โยเกิร์ต, กาโนล่า และส่วนผสมอื่นๆ อาทิ เบอรี่ อาซาอีโบล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี บูสเตอร์ (Booster) หรือ บูสท์ (Boosts) ให้เลือกเติมลงไปในเครื่องดื่มตามความชอบ อาทิ เมล็ดเจีย , เวย์โปรตีน , โยเกิร์ต ฯลฯ ปัจจุบันมีจำนวน 9 สาขา
6.IHOP
ภาพจาก https://bit.ly/3NZXPcI
เครือร้านอาหารบ้านแพนเค้กข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านอาหารเช้าแบบอเมริกัน เป็นเจ้าของโดย Dine Brands Global ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งหลังจาก IHOP ซื้อ Applebee’s โดย 99% ของร้านอาหารดำเนินการโดยแฟรนไชส์อิสระ
ร้าน IHOP ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1958 ซึ่งมาจากคำเต็มๆ ว่า International House Of Pancakes เอกลักษณ์ของร้านแบบดั้งเดิมคือจะมีสไตล์อบอุ่นแบบครอบครัว อาหารก็มีให้เลือกทานกันทั้งแพนเค้กสารพัดแบบ เครื่องดื่ม และอาหารอื่นๆ เมนูโดดเด่นของทางร้าน คือ “นิวยอร์ก ชีสเค้ก แพนเค้ก” เป็นบัตเตอร์มิลค์แพนเค้กหอมๆ ท็อปปิ้งด้วยซอสและสตรอเบอรี่ลูกใหญ่ที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีวาฟเฟิล, เครป และเฟรนช์ โทสต์
สำหรับในเมืองไทยนั้น IHOP อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท คิง ฟูด กรุ๊ป จำกัด โดย ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ถือเป็นสุดยอดร้านแพนเค้กอร่อยระดับโลก ต้นตำรับจากอเมริกา โดยเข้ามาเปิดสาขาแรกในไทย ที่ชั้น G สยามฟู้ดฮอลล์
IHOP ในไทยมี 3 สาขา อยู่ที่ Siam Paragon 2 สาขา (ชั้น G และ ชั้น 4 ใกล้ๆ ทางขึ้น Kidzania) และ Mega Bangna ในโซน Maga Food Walk ชั้น 1 อีก 1 สาขา IHOP อยู่ภายใต้การดำเนินงานบริษัท คิง ออฟ แพนเค้ก จำกัด โดยในปี 62 มีรายได้ 13 ล้านบาท ขาดทุน 17 ล้านบาท, ปี 63 มีรายได้ 12 ล้านบาท ขาดทุน 5 ล้านบาท และ ปี 64 มีรายได้ 11 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
นั่นคือ 6 แบรนด์ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม และเบเกอรี่ ภายใต้อาณาจักร บริษัท คิง ฟูด กรุ๊ป จำกัด ของ “คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ” ที่รู้จักกันดีในนาม “เจ้าแม่คริสปี้ ครีม” เมืองไทยนั่นเอง
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ข้อมูลจาก https://bit.ly/3OiWDRl , https://bit.ly/3Og5UcO , https://bit.ly/3QsKtqN , https://bit.ly/3QFl6m3 , https://bit.ly/3bcNj3m
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3NayZFv
