สุดยอดธุรกิจปี 2564! “สตาร์แมท” พัฒนาหลักสูตรใหม่! ตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศ
ต้องยอมรับว่าในปี 2563 วงการการศึกษาต้องมีการปรับตัวมากขึ้น ให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 โรงเรียนส่วนใหญ่ปิดเทอมนานกว่าปกติ และตั้งแต่ปลายปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงเดือนมกราคม 2564 ที่เราเจอการระบาดระลอกใหม่ ทำให้โรงเรียนต้องปิดไปกว่า 1 เดือน พ่อแม่ผู้ปกครองต่างเป็นกังวลในเรื่องการศึกษาของลูกที่กลัวจะได้รับความรู้ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ “ธุรกิจการศึกษา” จึงเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจ
ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการลงทุนในแฟรนไชส์การศึกษา ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยผู้สนใจลงทุนต้องเลือกแฟรนไชส์ที่มีการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และที่สำคัญต้องเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและมีการส่งเสริมดูแลผู้ลงทุนเป็นอย่างดี
โดย “สตาร์แมท” ถือเป็นแฟรนไชส์ที่มีประสบการณ์มานานกว่า 11 ปีการันตีความเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่พิสูจน์จากผู้เรียนจำนวนมาก ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID 19 ที่ผ่านมาก็ยังขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราจึงยกให้ “สตาร์แมท” เป็นสุดยอดธุรกิจ สุดยอดแฟรนไชส์ที่น่าลงทุนอย่างยิ่ง
สตาร์แมท เน้นคุณภาพผู้เรียน ไม่เน้นปริมาณ
สิ่งที่เด่นชัดในความเป็น “สตาร์แมท” คือนักเรียนทุกคนต้องมีคุณภาพ ยกตัวอย่างหลักสูตรคณิตศาสตร์ที่เน้นการสอนแบบจินตคณิต ถึงแม้จะเป็นหลักสูตรที่เห็นได้ทั่วไปแต่ของ “สตาร์แมท” แตกต่างเพราะการสอนของที่นี่ไม่ใช่แค่การท่องจำ และไม่ได้มีแค่บวกลบคูณหาร แต่เน้นให้ผู้เรียนฝึกคิด วิเคราะห์โจทย์ โดยเสริมเรื่องของเชาวน์คณิต เงิน และการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา โดยอาศัยหลักการจินตภาพในการตีความ
ทำให้เด็กสนุกและผู้ปกครองหมดกังวลเรื่องที่ลูกสับสนวิธีคิดปกติกับวิธีคิดจินตคณิต เพราะสตาร์แมทมีวิธีแก้ปัญหาให้เด็กเป็นรายบุคคล เป็นหลักสูตรที่ทำให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนประจำวันได้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพมากขึ้น จึงเป็นหลักสูตรที่พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นประสิทธิภาพของผู้เรียนเป็นอย่างดี และมีผู้เรียนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จจากการเรียนกับสตาร์แมท
เปิด 2 หลักสูตรใหม่ “ภาษาอังกฤษ” และ “Coding”
แต่เดิมหลักสูตรของสตาร์แมทที่เรารู้จักกันดีคือ หลักสูตรจินตคณิต จูเนียร์แมท ภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ ล่าสุด สตาร์แมทได้เปิด 2 หลักสูตรใหม่ ให้ครอบคลุมกับความต้องการของยุคสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดย 2 หลักสูตรใหม่ได้แก่
- หลักสูตรภาษาอังกฤษ มาตรฐานสิงคโปร์ โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านสื่อและตัวละครที่สนุกสนานสำหรับเด็กวัย 3-12 ปี
- หลักสูตรเขียนโค้ดสำหรับเด็ก (Coding) สำหรับเด็กอายุ 4-8 ปี
โดยเฉพาะ Coding ถือเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรวิทยาการคำนวณที่บรรจุอยู่ในสาระเทคโนโลยี กลุ่มสาระเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป้าหมายโดยรวมของหลักสูตรวิทยาการคำนวณ มุ่งเน้นให้นักเรียนฝึกคิดอย่างเป็นระบบ ค้นเจอปัญหาและเงื่อนไข
รู้เหตุและผล เข้าใจกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญและจำเป็นสำหรับเด็กในศตวรรษใหม่ และสตาร์แมทก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นของหลักสูตรนี้จึงได้เพิ่มเติมเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับผู้เรียนและผู้ลงทุนมากขึ้น
7 จุดเด่นของหลักสูตรสตาร์แมท ลงทุนแล้วดีจริง!
ปัจจัยในการเลือกแฟรนไชส์การศึกษามาลงทุน เราต้องมองจุดเด่นของแฟรนไชส์ที่ต้องการให้ชัดเจน ยิ่งมีจุดเด่นมาก ยิ่งส่งเสริมผู้ลงทุนมาก และมีเนื้อหาที่พร้อมพัฒนาผู้เรียนได้อย่างดี จะเป็นโอกาสำคัญที่ทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น โดยสตาร์แมทมีจุดเด่นที่น่าสนใจ 7 ประการด้วยกัน คือ
- จินตคณิตเป็นหลักสูตรที่ปรับปรุงล่าสุดสอดคล้องกับแกนกลางเพิ่มเติมเรื่องวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและมีเทคนิคแก้ไขปัญหาให้เด็กเป็นรายบุคคล
- มีหลักสูตรจูเนียร์แมท สำหรับเด็กเล็ก ที่มีวิธีการสอนสนุกสนานเรียนรู้ผ่านสื่อและเกมส์
- หลักสูตรภาษาไทยเพื่อการอ่าน-เขียน และแก้ไขความบกพร่องทางการอ่าน-เขียน แบบเห็นผล ปูพื้นฐานสู่การเรียนหลักภาษาไทยในระดับชั้นที่สูงขึ้น
- หลักสูตรภาษาอังกฤษจากสิงคโปร์ เรียนรู้ผ่านตัวละครที่สนุกสนานและมีสื่อการสอนที่ทันสมัย
- การทดลองวิทยาศาสตร์มากกว่า 100 เรื่องที่จะทำให้เด็กๆสนุกสนานพร้อมได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากครูผู้สอน
- หลักสูตร Coding สำหรับเด็กวัย 4 ปีขึ้นไปเรียนรู้การ Coding ผ่านหุ่นยนต์
- มีทีมการตลาดที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกปัญหา เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน
สตาร์แมท “จัดโปรโมชั่น” เลือกลดราคาแพคเกจ 5% หรือผ่อนชำระค่าแฟรนไชส์
สตาร์แมทมีการลงทุนให้เลือก 4 แบบคือ
- หลักสูตรจินตคณิต ราคาลงทุน 130,000 บาท
- หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths ราคาลงทุน 200,000 บาท
- หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths + หลักสูตรภาษาไทย ราคาลงทุน 250,000 บาท
- หลักสูตรจินตคณิต + หลักสูตร Junior Maths + หลักสูตรภาษาไทย + หลักสูตรภาษาอังกฤษ + Coding for kid (ฟรีทดลองวิทยาศาสตร์) ราคาลงทุน 330,000 บาท
และเพื่อให้ผู้สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ง่ายขึ้นจึงได้มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลด 5% ทุกแพคเกจ (เซ็นสัญญาภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2564) หรือสามารถเลือก “ผ่อนชำระค่าแฟรนไชส์ ได้ 2 งวด” เรียกว่าพร้อมช่วยเหลือทุกคนที่อยากมีธุรกิจการศึกษาให้สามารถลงทุนได้สะดวกมากขึ้น
โดยสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือสิทธิ1 อำเภอ 1 สาขาเพื่อให้บริหารจัดการโดยไม่มีการทับซ้อน เพิ่มโอกาสในการทำกำไรทางธุรกิจได้มากขึ้น และยังสนับสนุนด้านการอบรมบุคลากร , ส่งเสริมด้านการตลาด , สื่อการเรียนการสอนและอุปกรณ์สำคัญต่างๆ
โดยหลักสูตรของสตาร์แมทพัฒนามาจากการเรียนการสอนจริงและประสบความสำเร็จทุกรุ่น เหมาะกับผู้ปกครองที่กำลังมองหาหลักสูตรดีๆให้ลูกเพื่อไปต่อยอดในการเรียนอย่างยั่งยืน ในส่วนของการลงทุนถือว่าคุ้มค่าที่สุด และได้หลักสูตรที่ดีที่สุด บวกกับการบริหารจัดการที่ดี และมีทีมงานที่มีประสบการณ์มีความจริงใจคอยสนับสนุน จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
ปี 2563 ขยายสาขาเพิ่ม 3 แห่ง ตั้งเป้าปี 2564 ขยายสาขาทั่วประเทศมากขึ้น
อัตราการเติบโตของ “สตาร์แมท” ถือว่าสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ ในปี 2563 ที่ผ่านมาขยายสาขาเพิ่ม 3 แห่งคือ
- สตาร์แมท สาขาอุดรธานี
- สตาร์แมท สาขาขอนแก่น
- สตาร์แมท สาขาชลบุรี (อ.พานทอง)
โดยตั้งเป้าในปี 2564 จะขยายสาขาเพิ่มอีกหลายแห่งและที่กำลังจะทำการเปิดตัวในเร็วๆนี้ คือสตาร์แมทสาขาเชียงราย และสตาร์แมทสาขานครปฐม ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์สายการศึกษาที่มุ่งมั่นและพัฒนาผู้เรียนอย่างจริงจัง และทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนจำนวนมาก
และนี่คือสุดยอดแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับการลงทุนในยุคนี้ ด้วยทีมงานคุณภาพ การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ มีการส่งเสริมการตลาด และช่วยเหลือผู้ลงทุนทุกคนเป็นอย่างดี เชื่อมั่นได้ว่าการลงทุนกับสตาร์แมทจะกลายเป็นสุดยอดธุรกิจที่โตวันโตคืนและมีกำไรมากขึ้นเรื่อยๆ
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ สตาร์แมท จินตคณิต
โทร. 094-5464745
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)