แชร์วิธีเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกม
ในยุคที่เทคโนโลยีการแสดงผลมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การเลือกจอมอนิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เกมเมอร์ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมให้ตอบโจทย์มากที่สุด รวมถึงตอบคำถามว่า “จอคอมรุ่นไหนดี” สำหรับเกมเมอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
จอมอนิเตอร์คืออะไร
จอมอนิเตอร์ หรือจอคอมพิวเตอร์ คืออุปกรณ์แสดงผลที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่แสดงภาพและข้อมูลต่างๆ จากคอมพิวเตอร์ให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้ ในปัจจุบันจอมอนิเตอร์มีหลากหลายประเภทและเทคโนโลยี แต่ละแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยประเภทของจอมอนิเตอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ จอ LCD (Liquid Crystal Display) จอ LED (Light Emitting Diode) จอ OLED (Organic Light Emitting Diode) จอ IPS (In-Plane Switching) จอ VA (Vertical Alignment) และจอ TN (Twisted Nematic)
วิธีเลือกจอมอนิเตอร์เล่นเกมก็ได้ ทำงานก็ดี
สำหรับวิธีการเลือกจอมอนิเตอร์ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมและการทำงาน จะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายเรื่องที่ควรพิจารณา ดังนี้
ขนาดหน้าจอ
สำหรับหน้าจอมอนิเตอร์ขนาด 24 นิ้ว เหมาะสำหรับเกมแข่งขันที่ต้องการมองเห็นทั้งจอได้ง่าย หน้าจอ 27 นิ้ว ขนาดยอดนิยม ให้พื้นที่การใช้งานมากขึ้นโดยไม่ต้องหันศีรษะมากเกินไป และหน้าจอขนาด 32 นิ้วขึ้นไป จะเหมาะสำหรับงานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอมาก หรือเกมที่เน้นความสมจริง
ความละเอียด
ความละเอียดของหน้าจอ Full HD (1920×1080) เหมาะสำหรับจอขนาด 24 นิ้ว ที่ให้ความคมชัดดีในราคาที่ไม่แพงมาก เหมาะกับเครื่องสเปคปานกลาง ส่วนความละเอียดในระดับ QHD (2560×1440) เหมาะสำหรับจอ 27 นิ้ว ให้รายละเอียดภาพสูงขึ้น เหมาะสำหรับทั้งเกมและงานกราฟิก และความละเอียด 4K (3840×2160) ให้รายละเอียดสูงสุด เหมาะสำหรับงานวิดีโอและการเล่นเกมที่เน้นภาพสวยงาม ต้องการการ์ดจอที่แรงพอ
อัตรารีเฟรชเรต (Refresh Rate)
อัตรารีเฟรชเรต 60 Hz ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไป เพียงพอสำหรับการทำงานและเล่นเกมแบบทั่วไป ส่วน 144 Hz เหมาะสำหรับเกมแนว FPS หรือเกมที่ต้องการความไหลลื่น ให้ความได้เปรียบในเกมการแข่งขัน และอัตรารีเฟรชเรต 240 Hz ขึ้นไป สำหรับเกมเมอร์มืออาชีพที่ต้องการความได้เปรียบสูงสุด และต้องการการ์ดจอที่แรงพอที่จะรันเกมที่ FPS สูงๆ ได้
เวลาตอบสนอง (Response Time)
ต่ำกว่า 5 ms เหมาะสำหรับการเล่นเกมทั่วไป ส่วน 1 ms ให้ภาพที่คมชัดไม่เบลอเวลาเคลื่อนไหวเร็ว เหมาะสำหรับเกมแข่งขัน และควรระวังการโฆษณาที่อ้าง MPRT (Moving Picture Response Time) ซึ่งอาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง
เทคโนโลยีซิงค์ (Sync Technology)
สำหรับเทคโนโลยี G-Sync เหมาะสำหรับการ์ดจอ NVIDIA มีทั้งแบบ G-Sync และ G-Sync Compatible ส่วนเทคโนโลยี FreeSync จะเหมาะสำหรับการ์ดจอ AMD ที่มีทั้งแบบ FreeSync และ FreeSync Premium ช่วยลดอาการภาพฉีกขาดและกระตุก ทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากขึ้น
ฟีเจอร์เสริม
ในปัจจุบันจอมอนิเตอร์มีฟีเจอร์เสริมมากมายไม่ว่าจะเป็น Blue Light Filter ช่วยลดแสงสีฟ้า ถนอมสายตาเวลาใช้งานนาน Flicker-Free ลดการกะพริบของหน้าจอ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา HDR ให้ช่วงสีที่กว้างขึ้น ภาพสมจริงมากขึ้น Black Stabilizer ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดในพื้นที่มืดได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับเกม FPS และ Crosshair เพิ่มเป้าเล็งกลางจอ ช่วยในการเล็งยิงในเกม FPS เพื่อช่วยให้คุณสนุกมากขึ้นกว่าเดิม
สรุปวิธีเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกม
การเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมและทำงานนั้นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งขนาดหน้าจอ ความละเอียด อัตรารีเฟรชเรต เวลาตอบสนอง เทคโนโลยีซิงค์ ประเภทพาเนล และฟีเจอร์เสริมต่างๆ โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานและงบประมาณของตนเอง
สำหรับคำถาม “จอคอมรุ่นไหนดี” นั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก แต่จอมอนิเตอร์จาก ViewSonic หลายรุ่นสามารถตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมและการทำงานได้อย่างดี ไม่ว่าคุณจะเลือกจอมอนิเตอร์รุ่นใด สิ่งสำคัญคือต้องตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ทั้งในด้านการเล่นเกมและการทำงานได้มากที่สุด