ลงทุนไหนดี? MIXUE vs ไก่ทอดเจิ้งซิน

ถามว่าระหว่างแฟรนไชส์ MIXUE vs ไก่ทอดเจิ้งซิน แบรนด์ไหนน่าสนใจซื้อแฟรนไชส์เปิดร้านมากกว่ากัน ต้องบอกก่อนว่าขึ้นอยู่ความชอบของแต่ละคน มีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา เพราะทั้ง 2 แบรนด์มีสินค้าและฐานกลุ่มลูกค้าต่างกัน

ที่น่าสนใจก็คือในร้านไก่ทอดเจิ้งซินขายเมนูไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเหมือน MIXUE แต่น่าเสียดายตอนนี้แบรนด์ไก่ทอดเจิ้งเซินในไทยยังไม่ขายแฟรนไชส์ อยู่ภายใต้การบริหารบริษัท แอลที เอฟแอนด์บี จำกัด ปัจจุบันมีเพียง 2 สาขา ได้แก่ ONE ConneX อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7

ในปี 2566 มีรายได้ถึง 26 ล้านบาท ถือว่าทำยอดขายได้ดีมาก ถ้าไก่ทอดเจิ้งซินเปิดขายแฟรนไชส์เมื่อไหร่ ดว่าน่าสนใจเลยทีเดียว ดูจากเงินลงทุนเปิดร้านในจีนเพียงแค่หลักแสนบาทเท่านั้น

ก่อนอื่นมาดูก่อนว่าเปิดร้าน MIXUE ใช้เงินลงทุนทั้งหมดเท่าไหร่ และจะคืนทุนได้เมื่อไหร่

MIXUE vs ไก่ทอดเจิ้งซิน

#ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน MIXUE

  • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี (3 ปี = 150,000 บาท)
  • ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี (3 ปี = 75,000 บาท)
  • ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี (3 ปี = 30,000 บาท)
  • ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
  • ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท
  • ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง

สมมติค่าก่อสร้าง+ออกแบบตกแต่งร้านประมาณ 500,000 บาท

#รวมเงินลงทุนเปิดร้านทั้งหมด 1,557,500 บาท

#สมมติให้ยอดขายของ MIXUE เป็น 20,000 บาทต่อวัน เพราะแบรนด์มีชื่อเสียง ลูกค้าอาจใช้บริการเยอะ

  • ยอดขาย 20,000 บาทต่อวัน
  • หรือ 600,000 บาทต่อเดือน
  • คิดกำไรขั้นต้น 40%
  • เหลือรายได้ 240,000 บาทต่อเดือน

#ต้นทุนคงที่

  • ค่าเช่าประมาณ 50,000 บาท
  • ค่าน้ำ+ไฟ 10,000 บาท
  • จ้างพนักงาน 4 คน เงินเดือนเฉลี่ยคนละ 13,000 บาท (52,000 บาท)

#รวมต้นทุนคงที่ 112,000 บาทต่อเดือน

#รายได้ต่อเดือน 240,000 บาท – ต้นทุนคงที่ 112,000 บาท

#เหลือกำไร 128,000 บาทต่อเดือน (กำไรที่ได้ยังไม่ได้หักค่าภาษีป้าย+ภาษีโรงเรือน+ค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์)

สรุปก็คือ เปิดร้าน MIXUE ใช้เงินลงทุนประมาณ1,557,500 บาท (ระยะสัญญา 3 ปี) คืนทุนในระยะเวลาราวๆ 12 เดือน

ทั้งนี้ ยอดขายของร้าน Mixue เป็นสมมติฐานเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาหลายๆ แบรนด์ บางสาขาอาจสามารถทำยอดขายได้สูงกว่า 20,000 บาท/วัน หรือบางสาขาอาจทำยอดขายต่ำกว่านี้ก็มี ขึ้นอยู่กับการแข่งขันของแต่ละแบรนด์ในทำเลนั้นๆ ด้วย ซึ่งหลายๆ แบรนด์มองว่าสถานการณ์ตลาดไอศกรีมและชาผลไม้ในไทยเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น


ไก่ทอด Zhengxin Chicken Steak

ภาพจาก www.zhengxinfood.com

แฟรนไชส์ไก่ทอด Zhengxin Chicken Steak ก่อตั้งโดยคุณ Chen Chuanwu ที่เมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เริ่มขายแฟรนไชส์ในปี 2013 ตอนนี้มีมากกว่า 20,000 สาขาในจีน และได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 แบรนด์อาหารจีนชั้นนำอีกด้วย

กลยุทธ์ไก่ทอดเจิ้งซิน คือ หลากหลายเมนู เช่น สเต็กไก่ ไก่ทอด ไอศกรีม ในจีนขยายสาขาให้มากจะได้ซื้อวัตถุดิบในราคาถูก ขายสินค้าราคาถูกเริ่มต้น 15-50 บาท เหมือน MIXUE และ WEDRINK ตกแต่งร้านด้วยโทนสีแดง

MIXUE vs ไก่ทอดเจิ้งซิน

ภาพจาก https://bit.ly/3BcqMka

#ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน Zhengxin Chicken Steak (งบลงทุนเปิดร้านในจีน)

  • ค่าแฟรนไชส์ 1.74 แสนบาท
  • เงินประกัน 4.9 หมื่นบาท
  • การจัดการ 6.5 หมื่นบาท/ปี
  • การออกแบบ 2.4 หมื่นบาท
  • ค่าอุปกรณ์ 9.9 หมื่น – 1.4 แสนบาท
  • ซื้อวัตถุดิบชุดแรก 9.9 หมื่นบาท
  • ก่อสร้าง+ตกแต่ง 1.4 – 2.4 แสนบาท

#รวมค่าใช้จ่ายในการลงทุนเปิดร้านประมาณ 814,669 บาท หรือ 173,864 หยวน

MIXUE vs ไก่ทอดเจิ้งซิน

ภาพจาก https://bit.ly/3BcqMka

สรุปคือ ถ้าให้เลือกระหว่าง MIXUE กับ ไก่ทอดเจิ้งซิน ต้องพิจารณาในเรื่องงบการลงทุน ความคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ความหลากหลายของเมนูที่ขายในร้าน รสชาติอร่อยถูกปากมั๊ย ราคาสินค้า ฐานกลุ่มลูกค้าแคบหรือกว้าง กระแสความนิยมของผู้บริโภค คนไทยจะเห่อตามกระแส การแข่งขันในตลาดสินค้าเดียวกัน สุดท้ายความชอบของตัวเองด้วย

ข้อมูลจาก

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต