ร้านกาแฟ 1:2 Coffee จากเชียงราย สู่กรุงเทพฯ รายได้ถึง 140 ล้าน ใน 3 ปี

หากพูดถึงร้านกาแฟดังๆ มีชื่อเสียงในเมืองไทยตอนนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกได้ไม่กี่แบรนด์ เช่น คาเฟ่อเมซอน สตาร์บัคส์ กาแฟพันธุ์ไทย อินทนิล และอื่นๆ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีร้านกาแฟร้านหนึ่งเติบโตได้เร็วมาก มาแบบเงียบๆ กำลังเป็นกระแสที่มีคนพูดถึงกันมาก จนได้รับความนิยมจากคอกาแฟอย่างรวดเร็ว

แม้ร้านจะเพิ่งเปิดเมื่อช่วงล็อกดาวน์ เป็นช่วงที่บรรดาธุรกิจร้านค้าต่างๆ ปิดกิจการไป แต่ร้านกาแฟแห่งนี้กลับขยายไปแล้วกว่า 30 สาขา ในระยะเวลาเพียง 3 ปีกว่าๆ แถมยังทำรายได้สูงถึง 140 ล้านบาท นั่นก็คือ ร้านกาแฟ 1:2 Coffee (หนึ่งต่อสองคอฟฟี่) หรือ One To Two Coffee อะไรทำให้ร้านกาแฟ 1:2 Coffee เติบโตและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

จุดเริ่มต้นร้านกาแฟ 1:2 Coffee

ร้านกาแฟ 1:2 Coffee
ภาพจาก www.facebook.com/onetotwocoffee

ร้านกาแฟ 1:2 Coffee มีจุดเริ่มต้นที่จังหวัดเชียงราย สาขาแรกเปิดเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 โดย “คุณทวิวัฒน์ ลาภผาติกุล” มีแนวคิดอยากให้คนเชียงรายได้ดื่มกาแฟที่มีคุณภาพ สะอาด ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สามารถดื่มได้ทุกวัน

ต่อมา “คุณปอ-อัครนันท์ ธัญธีราเศรษฐ์” หุ้นส่วนร้านกาแฟ 1:2 Coffee ในปัจจุบัน ซึ่งก่อนเริ่มทำร้านกาแฟ แต่ก่อนทำธุรกิจอาหารเสริมและโรงงานผลิตอาหารเสริมมามากกว่า 10 ปี หลังจากปลดล็อกดาวน์จากโควิด ได้ไปหาน้องชาย คือ “คุณทวิวัฒน์ ลาภผาติกุลฎ” ที่เปิดร้านกาแฟ One To Two อยู่เชียงราย

พอสั่งกาแฟที่ชอบมาดื่ม ทำให้คุณปอรู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะขายราคาถูกกว่าในกรุงเทพถึง 2 เท่า ไม่พอคุณภาพของกาแฟยังดีไม่ต่างกันเลย จึงเกิดความสงสัยว่าขายได้จริงเหรอ มีกำไรเหลือเหรอ หลังจากนั้นได้ให้น้องชายเล่าถึงการคั่วกาแฟ และการลงทุนเปิดร้านกาแฟให้ฟัง

พอได้ฟังแล้วทำให้คุณปอมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ถ้ามีธุรกิจร้านกาแฟเข้ามาซัพพอร์ต แม้ว่าตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย แต่คอกาแฟยังต้องดื่มกาแฟเหมือนเดิม ทำให้เกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้ามาทำธุรกิจร้านกาแฟน่าจะเป็น Business ได้

หลังจากนั้นคุณปอจึงจับเข่าคุยกับน้องชายหลายอย่าง สุดท้ายพอทุกอย่างลงตัว คุณปอจึงตัดสินใจเอาแบรนด์ One To Two จากเชียงรายมาขยายสาขาในกรุงเทพฯ สาขาแรกเปิดที่เมืองทองธานี ก่อนขยายไปหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และใกล้เคียง จนมีมากกว่า 30 สาขาในระยะเวลา 3 ปี

ปัจจุบันร้านกาแฟ 1:2 Coffee อยู่ภายใต้บริษัท หนึ่งต่อสอง จำกัด บริหารโดยหุ้นส่วนหลายคน อาทิ คุณปอ-อัครนันท์ ธัญธีราเศรษฐ์, คุณทวิวัฒน์ ลาภผาติกุล, คุณอธิฏฐาน ลาภผาติกุล และคุณณฐารินทร์ ธัญธีราเศรษฐ์

ภาพจาก www.facebook.com/onetotwocoffee

รายได้ บริษัท หนึ่งต่อสอง จำกัด

  • ปี 2564 มีรายได้ 4.38 ล้านบาท กำไร 1.55 แสนบาท
  • ปี 2565 มีรายได้ 28.4 ล้านบาท กำไร 4 แสนบาท
  • ปี 2566 มีรายได้ 140.9 ล้านบาท กำไร 19.5 ล้านบาท

จะเห็นว่ารายได้และกำไรของร้านกาแฟ 1:2 Coffee เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีหลายเท่าตัว ตั้งแต่ปี 2564-2566 มาจากการขยายสาขาเพิ่มและได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว

ภาพจาก www.facebook.com/onetotwocoffee

กลุ่มลูกค้าร้านกาแฟ 1:2 Coffee

  • คนรักกาแฟ
  • คนทำงานและนักศึกษา
  • คนที่ชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ๆ
  • คนที่ต้องการกาแฟอร่อยถูกปาก
  • คนที่ต้องการเครื่องดื่มหลากหลาย
  • คนที่ต้องการกาแฟราคาจับต้องได้
  • คนที่ต้องการกาแฟพิเศษเฉพาะ
  • คนที่ต้องการเดลิเวอรี่
  • คนที่เป็นนักท่องเที่ยว

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 1:2 Coffee

ชื่อร้าน 1:2 ก็คืออัตราส่วนที่ใช้ในการสกัดกาแฟให้ได้รสชาติที่พอดี ร้านกาแฟ 1:2 Coffee เป็นร้านกาแฟที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “Everyday Coffee” คือ อยากให้เป็นร้านที่ลูกค้าเข้าถึงง่าย สามารถกินได้ทุกวัน ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีเมนูกาแฟ, ชา และโกโก้ รวมกันเกือบ 40 เมนู และสิ่งที่ทำให้คอนเซ็ปต์นี้เป็นไปได้จริง ก็คือ

ร้านกาแฟ 1:2 Coffee
ภาพจาก www.facebook.com/onetotwocoffee

1.ราคาเป็นมิตร

เมนูร้อนเริ่มต้น 50 บาท เมนูเย็นเริ่ม 55 บาท ทางร้าน 1:2 Coffee ยังมีระดับความเข้มให้เลือกได้ 3 แบบคือ คั่วอ่อน, คั่วกลาง และคั่วเข้ม หรือถ้าใครอยากจะกินกาแฟต่างประเทศ ทางร้านก็มีเมล็ดกาแฟจากประเทศเอธิโอเปียกับบราซิลให้เลือก แต่จะเสียเงินเพิ่ม 20 บาท ที่สำคัญก็คือ พวกเมนูซิกเนเจอร์ในร้านราคาไม่ถึงร้อยบาท

2.รสชาติถูกปาก

หลายคนที่ได้ไปใช้บริการมาแล้ว บอกไปในทางเดียวกันว่ารสชาติถูกปาก หลายคนชอบรสชาติแบบคั่วกลาง ไม่เข้มเกินไป และก็ไม่เปรี้ยวเกินด้วย ลงตัวสุดๆ หรือจะเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง น้ำผึ้งเลม่อนอเมริกาโน่ที่รสกาแฟไม่ได้แรงไป กินแล้วสดชื่นไปอีกแบบ และเมนูทอฟฟี่คอฟฟี่ลาเต้ก็สุดๆ มีท็อปปิ้งให้เคี้ยวเป็นอะไรที่ลงตัวมาก

ร้านกาแฟ 1:2 Coffee
ภาพจาก www.facebook.com/onetotwocoffee

3.การนำเสนอคุณค่า

  • กาแฟคุณภาพดี รสชาติอร่อย
  • กาแฟคุณภาพสูง
  • ควบคุมคุณภาพทุกกระบวนการ ส่วนสิ่งสำคัญที่ช่วยอัพเกรดจากความ Mass มาสู่ Premium Mass ก็คือ การเสิร์ฟกาแฟที่มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกแก้ว รสชาติเหมือนเดิมในทุกวัน
  • มีมาตรฐานการชง 1:2 อย่างสมดุล
  • เครื่องชงกาแฟ High End หลายแบรนด์ เช่น Kees van der Westen หรือ synesso ที่ราคาเกินครึ่งล้านบาท
  • เชี่ยวชาญด้าน 1:2 Espresso
  • สินค้ามีความหลากหลาย
  • เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่พิถีพิถัน ทุกสาขาจะมีกิมมิกการตกแต่งเป็นเส้นไฟเดี่ยวขนานกับเส้นไฟคู่ ตามชื่อร้าน 1:2 Coffee เพราะการตกแต่งร้านมันคือ การสร้าง Branding ที่จะทำให้ลูกค้าเกิด Loyalty ได้
  • กาแฟพรีเมียมราคาจับต้องได้
  • บรรยากาศร้านที่ทันสมัย มินิมอล
  • มีพื้นที่แบบ Open Bar ที่สามารถเห็นบรรยากาศการทำกาแฟได้ด้วย
  • ราคาเข้าถึงได้แลพมีหลายราคา
  • สะดวกมีหลายสาขาอยู่ย่านชุมชน
  • มีแพลตฟอร์มออนไลน์
  • การสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น

สุดท้าย การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน การปรับตัวและเข้าใจลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการรักษาลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ การที่ร้านกาแฟ 1:2 Coffee สามารถนำเสนอราคาที่ไม่แพงจนเกินไปและยังคงคุณภาพไว้ได้ ทำให้ร้านสามารถยืนหยัดในตลาดและขยายตัวอย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นการสร้าง Brand Loyalty ในกลุ่มลูกค้าให้มัดใจได้อย่างยั่งยืน

แหล่งข้อมูล

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช