SEO คืออะไร เข้าใจได้ใน 5 นาที พร้อมแชร์เทคนิคทำ SEO จากเอเจนซี่เจ้าดัง
SEO คือกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมผู้ใช้งานในยุคนี้มาก แถมยังไม่ได้ดูยัดเยียดสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้าเหมือนกับการยิงโฆษณาอีกด้วย เพราะการทำ SEO เป็นการทำให้เว็บไซต์ของเรา อย่างหน้าบทความ หรือหน้าสินค้าไปแสดงผลอยู่ใน Google Search อันเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายของทุกธุรกิจเข้าไปค้นหาข้อมูลเป็นประจำ
แต่ด้วยความซับซ้อนของหลักการทำ SEO และเทคนิควิธีการทำที่มีให้เราศึกษาแบบไม่รู้จบ จึงทำให้หลาย ๆ คนไม่เข้าใจว่า SEO คืออะไรและทำอย่างไร จนต้องไปพึ่งพาเอเจนซี่ที่เปิดรับทำ SEO ดังนั้น เราจึงจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ SEO แบบรวบรัด สุดกระชับ อ่านจบภายใน 5 นาทีแล้วรู้เรื่องเลย พร้อมแชร์เทคนิคการทำ SEO ฉบับเบื้องต้นในปี 2025 จากเอเจนซี่เจ้าดังในไทยหรือ ANGA นั่นเอง
SEO คืออะไร
SEO หรือ Search Engine Optimization คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ผ่านการสร้างเนื้อหาและปรับแต่งให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ใช้งานค้นหา รวมถึงตรงตามมาตรฐานที่ Google กำหนด การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในระยะยาว เพราะผู้ใช้งานจะรู้สึกว่าเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ เป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและน่าไว้วางใจ
SEO มีประโยชน์อย่างไร
จากสถิติพบว่าคนไทยใช้ Google ค้นหาข้อมูลเฉลี่ยวันละ 6-7 ครั้ง และ 70% มักจะเลือกคลิกเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับ 1-3 ของหน้าแรกเท่านั้น ในขณะที่เว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าที่ 2 มีโอกาสถูกคลิกเพียง 5% การทำ SEO จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก สร้างความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงลูกค้าที่กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดเมื่อเทียบกับการซื้อโฆษณา เพราะแม้จะต้องใช้เวลาและความพยายามในการพัฒนาเว็บไซต์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่กับคุณในระยะยาวนั่นเอง
แชร์ 3 เทคนิคทำ SEO ฉบับรวบรัดแต่เห็นผลจริง
- วิเคราะห์และเลือก Keywords ที่เหมาะสม โดยดูจากปริมาณการค้นหาและระดับการแข่งขัน หลีกเลี่ยงคำที่มีการแข่งขันสูงเกินไปในช่วงแรก และเน้น Long-tail Keywords ที่มีโอกาสติดอันดับได้ง่ายกว่า แม้จะมีปริมาณการค้นหาน้อยกว่าก็ตาม
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและตรงประเด็น โดยวิเคราะห์ความต้องการของผู้อ่านเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ยัดคีย์เวิร์ดให้เยอะ ๆ พร้อมวางโครงสร้าง Heading Tags ให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้อ่านและ Google เข้าใจเนื้อหาได้ง่าย รวมถึงการอัปเดตเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- พัฒนา Technical SEO โดยปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ให้โหลดไม่เกิน 3 วินาที ทำให้รองรับการใช้งานบนมือถือ และจัดการโครงสร้าง URL ให้เป็นระเบียบ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ เช่น ลิงก์เสีย หน้า 404 หรือการทำ SSL เพิ่มความปลอดภัยให้เรียบร้อย
สรุป
สรุปว่า SEO ก็คือการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับใน Google เพื่อให้คนที่ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ บน Google ได้มองเห็นธุรกิจเรา และอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคต ซึ่งเทคนิคในการทำ SEO มีอยู่ 3 เทคนิคหลัก ๆ ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำคือการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นคำยาว ๆ ที่มีโอกาสติดอันดับง่าย ๆ
สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ มีคุณภาพ ไม่ได้คัดลอกจากใครมา พร้อมแสดงความเป็น Original ผ่านฝีไม้ลายมือการเขียน และปรับปรุงเว็บไซต์เชิงเทคนิคให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เราสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้พวกเขาได้ เป็นต้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านนำไปปรับใช้ทำ SEO ด้วยตัวเองได้ไม่มากก็น้อย