#รีวิวหนังสือ สร้างคอนเน็กชั่นแกร่งด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต
สิ่งที่จะได้รับใน รีวิวหนังสือ สร้าง คอนเน็กชั่นแกร่งด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต หนังสือเล่มนี้การมีคอนเน็กชั่นดี จะช่วยเพิ่มระดับความสุขและเปิดโอกาสให้คุณ แต่หลายคนเข้าใจผิดว่าคอนเน็กชั่นเป็นเรื่องของคนพูดเก่ง ชอบเข้าสังคม จริงๆแล้วมนุษย์อินโทรเวิร์ตก็ทำได้ โดยใช้เสน่ห์เฉพาะตัว เช่น ถนัดฟังมากกว่าพูด ประเมินสถานการณ์เก่งเห็นรายละเอียดต่างๆ
ผู้เขียน Mentalist DaiGo
แปล : หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
จำนวน 204 หน้า
ราคา 235 บาท
1.ความเข้าใจผิดที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างคอนเน็กชั่น
คนที่มีบุคลิกเก็บตัวสามารถประเมิน ความรู้สึกคนรอบข้างได้มากกว่าคนเปิดเผย เพราะคนที่อ่อนไหวต่อ แรงกระตุ้น จากภายนอกง่าย จะยิ่งมีบุคลิกเก็บตัว ส่วนคนประเภทเปิดเผยจะจับปฏิกิริยาคนรอบข้างไม่ได้ จึงใช้ชีวิตได้แบบกระตือรือร้น
คนที่มีบุคลิกเก็บตัวจะสื่อสารได้ดีเยี่ยมเมื่อถึงคราวเป็นผู้ฟัง
เมื่อ “วิธีคิดอันเป็นรากฐานของการสร้างคอนเน็กชั่น” จับคู่กับ “เทคนิคลงมือปฎิบัติ” ไม่ว่าใครก็สร้างความสัมพันธ์แบบที่สองฝ่ายต่างส่งเสริมกันและกันได้
ผู้นำนำที่มีบุคลิกเก็บตัวทำให้ทีมเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าผู้นำประเภทเข้าหาสังคม
ผู้นำประเภทเข้าหาสังคมมีแนวโน้มไม่ยอมใช้ไอเดียที่คนอื่นคิด เอาแต่จัดการเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง และรู้สึกกลัวที่จะต้องฟังคนอื่นพูด
ผู้นำที่มีบุคลิกเก็บตัวจะรับฟัง วิเคราะห์และตัดสินเนื้อหาที่สมาชิกในทีมพูดอย่างใจเย็น แล้วหาวิธีทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับทีม ซึ่งท่าทีเช่นนี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ทีมมากขึ้น
สัมพันธภาพระหว่างบุคคลในโลกนี้ เกิดขึ้นได้เพราะ
- ผู้ให้(Giver) คนประเภทนี้จะให้โดยไม่เสียดาย ไม่สนใจว่าจะได้อะไรตอบแทน
- ผู้รับ(Taker) คนประเภทนี้คิดว่าตัวเองจะได้รึเสียอะไร
- ผู้แลกเปลี่ยน (Matcher) คนประเภทนี้มองผลประโยชน์ตัวเองต้องมาก่อน
ระยะสั้น ผู้รับเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ ระยะยาว ผู้ให้จะประสบความสำเร็จ
- ผู้ให้มี 2 แบบ ผู้ให้ระดับบน (Top Giver) ผู้ให้ระดับล่าง (Bottom Giver)
- ผู้ให้ระดับบน จะพิจารณาว่าควรให้คนหาคอนเน็กชั่นอย่างไร จึงไม่ประสบความสำเร็จ
- ผู้ให้ระดับล่าง จะไม่ประเมินว่าอีกอีกฝ่ายเป็นใคร จึงไม่ประสบความสำเร็จ
ศาสตราจารย์เจอโรม เคแกน (Jerome Kagan)
“คนที่มีบุคลิกเก็บตัวเป็นพวกตอบสนองสูง ในขณะที่คนประเภทเข้าหาสังคมเป็นพวกตอบสนองต่ำ”
คนที่มีบุคลิกเก็บตัวต่างหาก ที่มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น
แบบลึกซึ้ง กระบวนการ PCDA (Plan วางแผน, Do ปฎิบัติตามแผน, Check ตรวจสอบ, Action ปรับปรุงการดเนินการอย่างเหมาะสม)
- แค่มีเพื่อนรู้ใจในที่งานอย่างน้อย 3 คน ความพึงพอใจในชีวิตก็เพิ่มสูงถึง 96% แล้ว
- ความพึงพอใจต่อเงินเดือนก็เพิ่มขึ้น 200%
- ความพึงพอใจต่อเงินเดือนก็เพิ่มขึ้น 200%
แต่คนที่มีเพื่อนรู้ใจในที่ทำงานจะพึงพอใจกับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานที่รู้สึกว่า ฉันไม่มีเพื่อน คนที่รู้สึกว่าตัวเองมีเพื่อนยอดเยี่ยมอยู่ในที่ทำงาน จะมีแรงจูงใจในการทำงานและประสิทธิภาพในการสร้างผลงานเพิ่มขึ้นมาก
คอนเน็กชั่นมีพลังทำให้ชีวิตคุณมีความสุข
2.“คอนเน็กชั่น” ที่ทำให้คุณมีความสุขคืออะไร
วิธีรับมือความทุกข์ว่า สร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลที่ดีไม่ได้หรือ ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตฉันเลย คือคุณต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่านั้น คุณต้องพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่
สิ่งสำคัญคือ คุณต้องมองเห็นรูปแบบคอนเน็กชั่นตามอุดมคติเสียก่อน
ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสร้างคอนเน็กชั่นให้เข้ากับนิสัยตัวเอง โดยต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อนว่าเป็นคนประเภทไหน เข้าหาสังคมหรือมีบุคลิกเก็บตัว
ประเด็นคือ ต้องขยายฐานคอนเน็กชั่น อีกหน่อย ไม่ว่าคุณเป็นคนมีบุคลิกเก็บตัวหรือเข้าหาสังคม ก็ต้องพยายามสร้างโอกาสพบปะกับผู้คนหลากหลาย ขยายฐานคอมเน็กชั่นให้กว้างขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อย แล้วเลือกเก็บไว้ หรือ ตัดทิ้งในรูปแบบที่เข้ากับนิสัยตัวเอง
ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ใคร เราจะเข้าใกล้ในสิ่งที่เขาเป็น ความสามารถในการควบคุมตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก คบกับคนที่ควบคุมตัวเองได้แย่ คบกับคนที่ควบคุมตัวเองได้ดี
ลักษณะพิเศษของคนที่คบด้วยแล้วเกิดผลเสียตามมา
คนประเภทที่ไม่ควรคบหาด้วยมีดังต่อไปนี้
- คนที่เอาแต่พูดคำหวาน ฟังรื่นหู
- เข้มงวดกับคนอื่น หย่อนยานกับตัวเอง
- คนที่พูดจาด้วยอารมณ์ ไม่มีหลักคิดรองรับ
- คนที่ตัดสินใจหรือวิเคราะห์เรื่องต่างๆ แบบดื้อดึง
หากคนใช้ชีวิตโดดเดี่ยวประสบความสำเร็จในการสร้างคอนเน็กชั่นและสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลอย่างเต็มที่จะอายุยืนขึ้น 15 ปี เทียบกับการไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ และวิถีการกินเพื่อสุขภาพแล้ว สัมพันธภาพระหว่างบุคคลส่งผลถึงอายุขัยมากกว่าเสียอีก
คนเราจะรู้สึกมีความสุขที่สุดเมื่อรู้สึกว่า “ฉันควบคุมชีวิตตัวเองได้”
3.เทคนิคสร้างความเชื่อมโยงกับ “ซูเปอร์คอนเน็ตเตอร์”
ซูเปอร์คอนเน็กเตอร์จะยืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนขอร้องและถูกขอร้องโดยที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกขอบคุณในตัวเขา เท่านั้นไม่พอ เขายังหว่านเมล็ดพันธ์ุเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่ายได้ด้วยว่า “ถ้าขาดเหลืออะไร ติดต่อมาหาได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ
เพิ่มซูเปอร์คอนเน็กเตอร์ เข้าไปในคอนเน็กชั่นของคุณ
เทคนิคการมองหาซูเปอร์คอนเน็กเตอร์รอบตัวคุณ กลยุทธ์ขั้นพื้นฐานว่าทำอย่างไรจะเข้าถึงพวกเขาได้
- ใช้แผนผังสามสัมพันธ์ตามหา
- ติดต่อกันอีกครั้ง (Reconnecting)
- ย่นระยะห่างด้วยการ “มีปฏิสัมพันธ์ด้วยจำนวนครั้งอันเหมาะสม”
- เพิ่มความสนิทสนมด้วย “การซุบซิบเชิงบวก” (Positive Gossiping)
วิธีสร้าง “แผนผังสายสัมพันธ์” ศาสตราจารย์ไบรอัน อุสซี (Brian Uzzl)
รายชื่อคนในกรอบ “Broker” สำคัญที่สุดครับ ชื่อใครโผล่ในกรอบนี้ซ้ำมากที่สุด คนคนนั้นคือซูเปอร์คอนเน็กเตอร์ในวงคอนเน็กขั่นขอบคุณ
วิธีสร้าง “แผนผังสายสัมพันธ์”
แบ่งกระดาษโน้ตเป็น 3 ส่วน เขียนรายชื่อ “VIP” (คนสำคัญ) “Broker” (คนที่แนะนำ VIP ให้เรา) “Connentor” (คนที่เราแนะนำ VIP ให้) ในกรอบของ Broker ถ้าชื่อคนไหนปรากฎหลายครั้ง คนๆนั้นคือ ซูเปอร์คอนเน็กเตอร์ในวงคอนเน็กชั่นของคุณ!
4.วิธีสร้าง “เพื่อนสามคน” ที่ทำให้มีความสุข
คนที่เคยโดดเดี่ยว เมื่อมีเพื่อนรู้ใจเพียงหนึ่งคนมีความเป็นไปได้ว่าจะอายุยืนขึ้น โดยมากสุดถึง 15 ปี
บทความวิจัยของทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและพรินซ์ตันชี้แนะว่า
“เมื่อรายได้ต่อปี สูงกว่า 8 ล้านเยนระดับความสุขตะไม่เพิ่มสูง
- มีเพื่อนในที่ทำงาน 3 คน ระดับความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้น 96%
- ในเวลาเดียวกัน ระดับความพึงพอใจในเงินเดือนก็เพิ่มขึ้น 200%
- กรณีมีเพื่อนดีๆ ในที่ทำงาน แรงจูงใจในงานจะเพิ่มขึ้นถึง 700% และทำงานได้รวดเร็วขึ้นด้วย
เพื่อนที่เราอยู่ด้วยอย่างสบายใจ ต่างส่งเสริมกันให้เติบโต จะช่วยให้เกิดความสุขทั้งทางกายและทางใจครับ หลังฉากของการ “มีความสุขเพราะเงิน” และ “มีความสุขเพราะสุขภาพภาพดี” คือเพื่อน
สิ่งสำคัญคือ ต่างฝ่ายต้องรู้ข้อมูลของกันและกัน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร เราจะรู้สึกไว้วางใจและค่อยๆใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากขึ้น
5.มองให้ออกว่าอะไรเป็นกับดักให้สัมพันธภาพ
พฤติกรรมของคนประเภทเข้าหาสังคม มั่นใจในตัวเอง และเอ่ยทักทุกคนถือเป็นบวกในการสร้างคอนเน็กชั่น แต่แง่ของการสร้างเพื่อนใหม่ จะส่งผลเชิงลบในแง่การรักษาสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในระยะยาว
เขียนความรู้ตัวเองออกมาเมื่อเราเขียนแสดงความรู้สึกไปเรื่อยไปยังช่วยให้ “เลิกอคติ” กับคนที่ไม่ชอบ คำว่าเลิกอคติในที่นี้คือ ปล่อยผ่านไปได้
ลักษณะ 4 อย่างจองคนที่ไม่ควรเข้าใกล้
- พวกหลอกลวง
- ได้ใจว่าตัวเองยอดเยี่ยม
- ไม่มีความเข้าอกเข้าใจ
- รู้สึกสนุกเมื่อคนอื่นทรมาน
เรียบเรียงโดย : คุณปิยาพัชร ปกครอง (ปาร์มี่)
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3DiHdYu