#รีวิวหนังสือ สร้างคอนเทนต์ มัดใจลูกค้า How to Do Content Marketing Right
สิ่งที่จะได้รับใน รีวิวหนังสือ สร้างคอนเทนต์ มัดใจลูกค้า How to Do Content Marketing Right หนังสือเล่มนี้ ก่อนสร้างคอนเทนต์เราต้องรู้ก่อนว่า คอนเทนต์คืออะไร? และช่วยการตลาดได้อย่างไร เมื่อเรามีพื้นฐานที่ดีพอ เราจะรู้และเข้าใจต่อไปว่า ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เหมาะสมกับสินค้า/บริการ ของเราอย่างไร เพื่อให้เกิดผลลัพธ์กับ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
ผู้เขียน ณัชพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง
จำนวน 246 หน้า
ราคา 255 บาท
1.คอนเทนต์คือ ?
- คอนเทนต์ คือ ข้อมูลและเนื้อหา ที่มนุษย์เราสามารถรับได้ผ่านสื่อต่างๆ
- มนุษย์เราล้วนอยากได้ข้อมูลต่างๆ เพื่อมาประกอบการใช้ชีวิตด้วยจุดประสงค์สำคัญ คือ การเลี่ยงปัญหาหรือภัยที่อาจจะเกิดขึ้นและทำให้ชีวิตดีขึ้น
- ผู้ทำคอนเทนต์ต้องรู้จักแยกองค์ประกอบสำคัญของชิ้นงานคอนเทนต์ ได้แก่ ตัวเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อ และรูปแบบการนำเสนอ ซึ่งสองสิ่งนี้ล้วนสำคัญ ขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้
- คอนเทนต์ที่ดี คือ คอนเทนต์ที่สามารถนำพาให้ผู้ทำคอนเนต์บรรลุเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ได้
- การประเมินคอนเทนต์ใดๆนั้นจำเป็นจะต้องเข้าใจด้วยว่าเป้าหมายของการทำคอนเทนต์นั้นคืออะไร
- ผู้ทำคอนเทนต์ควรหมั่นสำรวจอยู่เสมอว่าวันนี้เรากำลังทำคอนเทนต์ที่เป็น “ปกติ” กับกลุ่มเป้าหมายของตัวอยู่หรือเปล่า
การสื่อสารแบบ Content Centric
การตั้งต้นว่า เนื้อหาสำคัญที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายนั้นคืออะไร แล้วดูว่าจะใช้สื่ออะไรที่สามารถเป็นตัวกลางพาคอนเทนต์นั้นไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้
- Facebook : Text / Link / Photo / Video
- Twitter : Text / Link / Photo / Video
- YouTube : Video
- Instagram : Photo / Video
- TikTok : Video
- Website : Article
คอนเทนต์ที่ดีคืออะไร
ความต้องการที่จะสื่อสารคอนเทนต์ไปยังผู้รับ การสื่อสารนั้นก็เกิดขึ้นจากวัตถุประสงค์บางอย่างเป็นจุดตั้งต้น
- ความต้องการที่แท้จริง > วัตถุประสงค์ในการสื่อสาร > การทำคอนเทนต์
2.พลังสำคัญของคอนเทนต์
พลังสำคัญของคอนเทนต์ คือ การที่มันสามารถขับเคลื่อนให้ตัวมนุษย์เราเกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การรับรู้ข้อมูลใหม่ เปลี่ยนความรู้สึก เกิดความเชื่อ และนำไปสู่พฤติกรรมต่างๆ
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว นักสื่อสารควรจะคิดและพิจารณากลไกของการสื่อสารนี้กับการสร้างคอนเทนต์ของตัวเองว่าเราต้องการอะไร จากคนที่รับสาร เราต้องการเปลี่ยนเขาไปทางไหนอย่างไร ซึ่งถ้าเราเห็นความเชื่อมโยงได้ชัดเจน ก็จะทำให้การสื่อสารนั้นมีความ “ชัด” ในตัวเอง และมีโอกาสเกิดประสิทธิภาพได้มาก
พยายามเลือกดูว่าอะไรคือข้อมูลและความเชื่อที่จำเป็นสำหรับการสื่อสาร และหากพบว่าอันไหนไม่จำเป็นแล้วก็ควรเลี่ยงที่จะเพิ่มเข้าไปในการสื่อสาร เพราะอาจจะทำให้กลายเป็นอุปสรรคในการสื่อสารแทน
การคิดเรื่องของคอนเทนต์นั้นสามารถเพลิกแพลงและกาตัวเลือกได้มากมายจากการเห็นความเชื่อมโยงไปยังความเชื่อที่หลากหลายและนั่นเป็นอีกเทคนิคหนึ่งในการคิดคอนเทนต์ให้หลากหลายได้
กล่อง 3 ใบ ของการจัดลำดับความสำคัญ
- ต้องทำ สิ่งที่จำเป็นต้องมี ไม่มีไม่ได้
- ควรทำ สิ่งไม่ถึงขั้นจำเป็น
- น่าทำสิ่งที่ไม่จำเป็น
การสร้าง Framework ง่ายๆ เพื่อใช้ในการออกแบบสารหรือคอนเทนต์
Communication Design Canvas
- ข้อมูล/เรื่องราว > ความรู้สึก > ความเชื่อ > พฤติกรรม
- เช่น ข่าวการระบาดของ Covid-19 > รู้สึกกลัว >
- มีโอกาสติด COVID-19 ถ้าไม่ป้องกัน > ป้องกันตัวโดยการสวมใส่หน้าการอนามัย
3.การทำ Content Marketing
การทำ Content Marketing คือส่วนหนึ่งของการทำการตลาด Content Marketing สามารถเป็นได้ในทุกรูปแบบ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ต้องเป็นคอนเทนต์แบบดิจิทัลเท่านั้น
หัวใจสำคัญของ Content Marketing คือ การสร้างเนื้อหาต่างๆซึ่งสามารถเป็นคุณค่าร่วมกันระหว่างผู้สร้างคอนเทนต์กับตัวคนรับคอนรับคอนเทนต์ได้ ซึ่งผลจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนี้จะเกิดเป็นผลประโยชน์ทางด้านการตลาดให้กับตัวผู้สร้างคอนเทนต์ได้นั่นเอง
คอนเทนต์ที่มีคุณค่าร่วม
ผู้ทำคอนเทนต์ ผู้รับคอนเทนต์
คุณค่าของผู้สื่อสาร “สิ่งที่อยากบอก”
คุณค่าของผู้รับสาร “สิ่งที่อยากฟัง”
4.ศึกษาและสังเกต
คนทำคอนเทนต์จึงควรหมั่นศึกษาและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของแนวคิดเหล่านี้อยู่เสมอ เช่น เดียวกับการฝึกฝนที่จะนำแนวคิดแต่ละอย่างมาเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างสรรค์วิธีการนำเสนอคอนเทนต์ ที่มีประสิทธิภาพขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
ปัจจัยที่ทำให้คนจำคอนเทนต์เราได้
- บริบท
- ความโดดเด่น
- ความคุ้นเคย
- แรงจูงใจ
- คุณภาพ
- ความยาว
- ความถี่
- ความประหลาดใจ
หลากเหตุผลที่คนแชร์ และบอกต่อคอนเทนต์ให้คนอื่น
- สิทธิประโยชน์
- คำแนะนำ
- คำเตือน
- บันเทิง
- บันดาลใจ
- น่าทึ่ง
- รวมใจ
เรียบเรียงโดย : คุณปิยาพัชร ปกครอง (ปาร์มี่)
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3BeWOGU
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)