“ริสา มาสเตอร์เชฟจูเนียร์” เด็กไทย “เงินล้าน” ปั้นแบรนด์ “ขนมคีโต” เจาะตลาดคนรักสุขภาพ

ทุกคนต่างมีความฝัน แต่สิ่งสำคัญคือจะทำความฝันอย่างไรให้เป็นจริง ทำไมบางคนสร้างธุรกิจของตัวเองได้ ในขณะที่บางคนคิดได้แต่ไม่เคยทำได้สักที ความแตกต่างของเรื่องนี้อยู่ที่ “ความพยายาม” และความตั้งใจ ไม่สำคัญว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจ “เราต้องทำได้” จดหมายข่าวในฉบับเดือนเมษายนนี้

ขนมคีโต

www.ThaiSMEsCenter.com จะพาทุกท่านไปพบกับอีกหนึ่งแรงบันดาลใจจากน้อง ริสา หรือเด็กหญิง มาริสา เวชสุภาพร ที่แม้จะเป็นเพียงเด็กอายุ 14 แต่ทุกวันนี้สามารถมีธุรกิจของตัวเอง และดีถึงขนาดที่ตั้งเป็นบริษัทขึ้นมาพร้อมที่จะต่อยอดการขายในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าใครที่ได้อ่านเนื้อหาตอนนี้จะสามารถตกผลึกความคิดและมองเห็นโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจของตัวเองได้

เด็กหญิงอายุ 14 ผู้มีใจรักในการทำอาหาร

ขนมคีโต

ความน่ารักของน้องริสา คือการพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติและทุกคำตอบคือความรู้สึกที่ถ่ายทอดมาจากความรู้สึกจริงๆ สิ่งหนึ่งที่น้องริสา พูดให้เราฟังคือ “การจะเริ่มธุรกิจใดๆ ให้เอาสิ่งที่ตัวเองถนัดเป็นจุดเริ่มต้น อะไรที่เราทำแล้วมีความสุขให้ต่อยอดจากสิ่งนั้นขึ้นมาเป็นธุรกิจ”

สำหรับน้องริสาเอง ค้นพบตัวเองว่าชอบการทำอาหารมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยอาหารส่วนใหญ่ก็เป็นเมนูอาหารจานเดียว ที่ลองผิดลองถูกแต่สิ่งสำคัญคือได้กำลังใจจากคนในครอบครัวที่จะคอยชิมทุกเมนูที่น้องริสาทำ จุดนี้ทำให้น้องริสามีแรงบันดาลใจและพบเส้นทางของตัวเองที่ชัดเจนมากขึ้น

แม้หลายครั้งที่เมนูอาจไม่ได้รสชาติตามที่ต้องการแต่มันคือการฝึกฝน ฝึกฝีมือเพื่อที่สักวันจะได้ก้าวไปสู่เส้นทางที่เปิดกว้างมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเป็นการทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความถนัดจะไม่รู้สึกว่าเบื่อ รู้สึกว่าเหนื่อย แต่กลับมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปด้วย

เข้าร่วมประกวดมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ซีซัน 2 จุดเปลี่ยนสู่การ “สร้างธุรกิจ”

ขนมคีโต

น้องริสาเข้าร่วมแข่งขันในรายการ มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ไทยแลนด์ ซีซัน 2 ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่ที่คนไทยรู้จักทั่วประเทศ ในการแข่งขันครั้งนี้ น้องริสาสามารถเข้าถึงรอบ 23 คนสุดท้าย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือประสบการณ์ที่ได้เจอกับผู้แข่งขันจำนวนมาก การได้ฝึกฝนฝีมือการทำอาหารให้มีเทคนิคที่ดีมากขึ้น และตรงนี้ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไทยรู้จักน้องริสา

ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันในรายการนี้ น้องริสามองว่าเราน่าจะต่อยอดสิ่งที่เราถนัดให้กลายเป็นธุรกิจได้ จึงได้เริ่ม “เปิดเพจขายอาหารออนไลน์ผ่านเฟสบุ๊ค” เบื้องต้นคือการทำตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าต้องการ และเน้นการทำขนมเป็นหลักเพราะสามารถส่งถึงมือลูกค้าได้สะดวกมากกว่าพวกอาหารคาว และอายุการเก็บรักษาก็นานกว่า โดยเมนูแรกที่ทำคือทาร์ตสับปะรด

จากนั้นเริ่มมองเห็นว่ากลุ่มคนรักสุขภาพในยุคนี้เป็นตลาดที่น่าสนใจประกอบกับเมนูสุขภาพก็เป็นผลดีต่อลูกค้า น้องริสาจึงเริ่มหันมาทำ “ขนมคีโต” ควบคู่กับเมนูขนมทั่วไป โดยมีหลายเมนูที่น่าสนใจเช่น ชีสเค้กหน้าไหม้ , บราวนี่ ในกลุ่มคีโตก็เช่น คีโตปัง ,ทูน่าพาเมซาน , สตอเบอร์รี่พริกเกลือ เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ ขนมคีโต คือ จะไม่ใช้แป้งและน้ำตาลแต่วัตถุดิบที่ใช้จะเป็นพวก แป้งอัลมอนด์ แป้งมะพร้าว วีท กลูเตน เฟล็กซี้ดมีล หรือไข่ขาวแทนตัวแป้งเค้กหรือขนมปังค่ะ แล้วแต่สูตรที่ทำและไม่มีการใช้น้ำตาลแต่จะใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ มีค่าดัชนีความหวานที่ต่ำมากๆ หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องรสชาตินั้น “อร่อยเกินคำบรรยาย” ตอกย้ำด้วยออร์เดอร์ที่เปิดรับแทบไม่ทันซึ่งทำให้ต่อยอดมาเป็นการตั้งบริษัทเพื่อขยายธุรกิจกันเลยทีเดียว

บริษัท ริสา เอฟ แอนด์ บี จำกัด ต่อยอดขนมคีโตขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ขนมคีโต

แม้จะอายุเพียง 14 แต่ตอนนี้น้องริสาได้ชื่อว่าเป็นประธานบริษัท ริสา เอฟ แอนด์ บี จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นมา เหตุผลที่จำเป็นต้องก่อตั้งบริษัทนั้นอันเนื่องมาจากความต้องการของลูกค้ามีจำนวนเยอะมาก รายได้จากการขายขนมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมารวมกว่าล้านบาท สิ่งที่มองเห็นคือโอกาสในการต่อยอดเป็นธุรกิจที่ยังเติบโตได้อีกมาก และตลาดสุขภาพหลังการแพร่ระบาดโควิด 19 ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ และถึงแม้น้องริสาจะอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ก็มีแผนที่จะไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

ซึ่งแน่นอนว่าการไปเรียนต่อครั้งนี้คือการไปเพิ่มพูนประสบการณ์และไปฝึกฝีมือการทำอาหาร พร้อมเรียนรู้การทำธุรกิจมากขึ้น และจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้สะสมเหล่านี้กลับมาสานต่อพัฒนาบริษัท ริสา เอฟ แอนด์ บี จำกัด ให้เติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป และกลายเป็นธุรกิจที่อาจไม่ใช่แค่ขนมคีโตอย่างเดียว แต่จะมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ในอนาตตด้วย

5 สูตรเด็ดเคล็ดลับสำหรับคนต้องการ “สร้างธุรกิจ”

เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่อยากมีธุรกิจแต่ยังทำให้เป็นจริงไม่ได้อาจเป็นเพราะยังไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจน ลองดูสูตรเด็ดของน้องริสา ว่าทำไมในวัย 14 ถึงมีธุรกิจของตัวเองที่ประสบความสำเร็จได้

1.เปลี่ยนจุดเด่นของตัวเองให้เป็นรายได้

24

น้องริสาเริ่มจากความชอบในการทำอาหารก็เปลี่ยนจุดเด่นนี้มาสร้างรายได้ให้ตัวเอง สำหรับใครหลายคนอาจไม่ถนัดเรื่องทำอาหารแต่อาจมีความรู้เรื่องเทคโนโลยี เรื่องการถ่ายภาพ มีความสามารถด้านภาษา ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนมาเป็นรายได้ให้กับตัวเองได้ทั้งสิ้น

2.พัฒนาสิ่งที่เราถนัดให้มีคุณภาพมากขึ้น

23

ความสามารถที่เรามีอาจไม่แตกต่างจากคนอื่น แต่ถ้าเราพัฒนาสิ่งที่เรามีให้ดียิ่งขึ้นจะเพิ่มจุดขายได้มากขึ้น เหมือนกรณีน้องริสาที่ฝึกปรือเรื่องการทำอาหาร ทำซ้ำๆ ทำทุกวัน ทำสม่ำเสมอ จนความสามารถที่มีนั้นพัฒนาได้มากขึ้น

3.พร้อมเข้าร่วมเวทีประกวดต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเริ่มต้น

22

ทุกวันนี้มีเวทีแข่งขันและงานประกวดหลายแห่งที่เหมาะสมกับทุกความสามารถที่เรามี คนที่อยากเดินทางลัดในการสร้างรายได้สร้างธุรกิจจึงไม่ควรพลาดในการเข้าร่วมเวทีแข่งขันเหล่านี้ อันจะเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอตัวเองสู่สาธารณชนได้มากขึ้น ไม่จำเป็นว่าต้องชนะเลิศ แค่ได้เข้าร่วมในงานประกวดเหล่านี้ก็คือประสบการณ์ที่ดีสำหรับเราอย่างมาก

4.สร้างสินค้าที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้

21

ใครที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง เมื่อค้นพบความสามารถที่ชัดเจน สิ่งสำคัญประการต่อมาคือการสร้างสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างน้องริสา เน้นการทำขนมคีโต เพราะเห็นว่าตลาดสุขภาพกำลังเติบโตและมีคนสนใจในสินค้าประเภทนี้มาก จึงได้พัฒนาสูตรขนมที่เฉพาะตัว มีรสชาติอร่อย จนครองใจลูกค้าได้

5.อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น ไม่มีเงินทุนก็เริ่มได้

20

ภาพจาก facebook.com/risamasterchef

คนส่วนใหญ่เริ่มธุรกิจไม่ได้เพราะมีเหตุผลหลายอย่าง เช่น ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ถ้าใจรัรกและมีอยากมีธุรกิจจริงๆ ต้องก้าวข้ามทุกเหตุผล และลงมือทำทันที แม้ในเบื้องต้นอาจไม่มีเงินทุนแต่ก็มีหลายวิธีให้เราเริ่มธุรกิจได้ ยิ่งยุคนี้ตลาดออนไลน์มีประโยชน์มาก ถ้าเรารู้จักนำมาประยุกต์ใช้จะเป็นผลดีที่ทำให้เริ่มธุรกิจได้โดยที่แทบไม่ต้องใช้ต้นทุนเลย

ปัจจุบันนี้น้องริสาแม้จะมีธุรกิจของตัวเองและมีรายได้จากธุรกิจนี้ แต่ความน่ารักและความสดใสก็ยังคงเป็นเหมือนเด็กทั่วไป แต่เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าธุรกิจขนมเพื่อสุขภาพของน้องริสานี้ถือเป็นสินค้าที่มาถูกทางและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ในอนาคตเราอาจได้เห็นแบรนด์ขนมคีโต “ ริสา เวชสุภาพร” วางขายในร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าชั้นนำ ซึ่งจุดเริ่มของเรื่องทั้งหมดนี้คือการทำจากสิ่งที่ใจรัก แม้ไม่เป็นธุรกิจที่เติบโตในทันที แต่การที่ค่อยเป็นค่อยไปก็ทำให้ธุรกิจนี้โอกาสมั่นคงแข็งแรงมากขึ้นด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/risamasterchef

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/39jq46N

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด