รายได้ดีมาก! G Power ธุรกิจตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า! กำไรต่อเดือนเกิน 1 แสน! แฟรนไชส์มาแรงแห่งปี

กระแสรถยนต์ไฟฟ้านั้นมาแน่! ถ้าดูตัวเลขรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง (BEV) เฉพาะในเดือนสิงหาคม 2566 พบว่ามีที่จดทะเบียนใหม่จำนวน 9,076 คัน เพิ่มขึ้น 293.92% จากเดือนเดียวกันในปีก่อน และนับถึงปลายปีนี้จากที่คาดว่าจะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 15,000 คัน แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันสิ้นปี ยอดจดทะเบียนทะลุเกิน 50,000 คันไปเรียบร้อย

คาดการณ์ว่าในปี 2567 รถยนต์ไฟฟ้าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้น ๆ ในปีต่อ ๆ ไปอีกด้วย ซึ่งธุรกิจ “ตู้ชาร์จ” นับแต่นี้ ความต้องการจะ “สูงปรี๊ด” เพราะเท่าที่มีในตอนนี้คือยังไม่เพียงพอกับความต้องการ

G Power

ลองคิดดูว่าตอนนี้รถยนต์นั่งทั่วไป (น้ำมัน) มียอดจดทะเบียนสะสมที่ 11 ล้านคัน ถ้าในกลุ่มนี้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าสัก 5-10% ความจำเป็นในการใช้ “ตู้ชาร์จ” จะมากขึ้นแค่ไหน???

และไม่ต้องกังวลว่าการลงทุนนี้ต้องใช้เงินเยอะ อันที่จริงเราทุกคนลงทุนได้ ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือทำกิจการอะไรอยู่ บอกเลยว่าลงทุน “ตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” ง่ายกว่าที่คิด!!

G Power “ธุรกิจตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” น่าลงทุนมาก!!

G Power โดยบริษัท การ์เด้นเอ็นเนอร์จี จำกัด ผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ตู้ชาร์จรถยนต์ EV ที่วางคอนเซ็ปต์ว่า “First come first served” มีเป้าหมายต้องการให้ “ตู้ชาร์จ” มีบริการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อไม่เป็นปัญหากับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอีกต่อไป

ซึ่งก่อนอื่นที่จะลงทุนในธุรกิจนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า EV Charger นั้นมี 2 แบบคือ

  1. Normal Charge เป็นการชาร์จด้วยไฟ AC ชาร์จผ่าน On Board Charger ที่อยู่ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า ความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับขนาดของ On Board Charger ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการชาร์จ 6-8 ชม.
  2. Quick Charge เป็นการชาร์จโดยใช้ตู้ EV Charger (สถานีชาร์จรถไฟฟ้า) ที่แปลงไฟ AC เป็น DC แล้วจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง ใช้ระยะเวลาในการชาร์จที่น้อยกว่าแบบ Normal Charge ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นต้น

การเลือกติดตั้ง EV Charger จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จ เช่น Normal Charge เหมาะสำหรับติดตั้งในสถานที่ที่ลูกค้าสามารถใช้เวลาอยู่นานได้ เช่น โรงแรม , รีสอร์ท , ร้านอาหาร , ร้านนวดเพื่อสุขภาพ , ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

แต่ถ้าเป็นแบบ Quick Charge การลงทุนจะสูงกว่าแต่ก็ชาร์จได้เร็วกว่า เป็น “สถานีชาร์จ” ที่เหมาะกับ ร้านกาแฟ , ร้านค้าปลีก , สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป เป็นต้น

ทั้งนี้ “G Power” มีรูปแบบการลงทุนให้เลือกได้ทั้งแบบ Normal Charge (AC) และ Quick Charge (DC)

  • หากเลือกลงทุนแบบ Normal Charge (AC) ราคาในการติดตั้ง + ซอร์ฟแวร์ 65,000 บาท
  • หากเลือกลงทุนแบบ Quick Charge (DC) ราคาในการติดตั้ง + ซอร์ฟแวร์ 1.2 ล้านบาท

ลงทุน G Power ค่าตอบแทนดีแค่ไหน?? คุ้มค่าอย่างไร?? ไปดูพร้อมกัน!!

เริ่มจากเลือกลงทุนตู้ Normal Charge (AC) 22 Kw ใน 1 ตู้ มี 1 หัวชาร์จ สามารถจ่ายไฟ 10 kWh

กำไรส่วนต่างค่าไฟที่ได้คือ 3 บาท เท่ากับว่าใน 1 ชั่วโมง จะได้กำไร 30 บาท

ถ้าเราคำนวณว่า…มีปริมาณลูกค้าใช้งานเฉลี่ยแค่ครั้งเดียวของวัน คือ 12 ชั่วโมง ใน 1 วัน 24 ชั่วโมง

  • คิดเป็นชั่วโมงการชาร์จ / วัน อยู่ที่ 12 ชั่วโมง
  • เท่ากับว่า กำไรต่อวัน คือ 30 x 12 = 360 บาท
  • กำไรต่อเดือน คือ 360 x 30 = 10,800 บาท

และถ้าเลือกลงทุนแบบ Quick Charge (DC) 120 Kw ซึ่งการลงทุนแบบนี้เรียกว่าเป็นสถานีชาร์จขนาดใหญ่ 1 ตู้ มี 2 หัวชาร์จ จ่ายไฟหัวละ 60 kWh กำไรส่วนต่างค่าไฟที่ได้คือ 3 บาท เท่ากับใน 1 ชั่วโมง จะมีกำไร 180 บาทต่อ 1 หัวชาร์จ

แต่เนื่องจากตู้ Quick Charge มี 2 หัวชาร์จ กำไรต่อวันจึงเท่ากับ 180 x 2 = 360 บาท/ชั่วโมง

  • คิดเป็นชั่วโมงการชาร์จ / วัน อยู่ที่ 12 ชั่วโมง
  • กำไรต่อวัน คือ 360 x 12 = 4,320 บาท
  • กำไรต่อเดือน คือ 4,320 x 30 = 129,000 บาท

** ทั้งนี้เป็นการคำนวณในส่วนของตู้ชาร์จ ยังไม่ได้หักลบต้นทุนค่าโครงสร้าง ที่ขึ้นอยู่กับงบของผู้ลงทุน แต่โดยเฉลี่ยโอกาสคืนทุนของธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 1 ปี **

ข้อดีน่าสนใจ ทำไมลงทุน G Power ถึงดีสุดยุคนี้!!!

  • ได้ตู้ชาร์จ + ซอร์ฟแวร์ ที่ผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลผ่านโทรศัพท์ได้ว่ามีคนมาใช้บริการเท่าไหร่ มีรายได้เท่าไหร่ในแต่ละวัน
  • ความต้องการ “ตู้ชาร์จ” ที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใครๆ ก็อยากใช้บริการ
  • เพิ่มมูลค่าพื้นที่ สามารถเปลี่ยนที่ดินเพื่อสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด
  • สามารถทำคู่กับธุรกิจเดิมที่มีอยู่ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น
  • การลงทุนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องจ้างพนักงานดูแล
  • ทีมงานมีประสบการณ์ยาวนานพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลผู้ลงทุนเป็นอย่างดี
  • ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูงเหมือนสถานีชาร์จทั่วไป แต่ให้บริการได้มีประสิทธิภาพมาก
  • ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังมีทิศทางในการเติบโตที่เพิ่มได้อีกมาก

ทั้งนี้ เป้าหมายที่ G Power วางไว้คือ มีสาขา 1,000 แห่งในปี 2567 เพื่อให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ว่า “สามารถชาร์จพลังงานได้ทุกที่ และทุกคนสามารถสร้างรายรับที่ดีได้ด้วย”

ซึ่งนับเป็นสุดยอดแฟรนไชส์มาแรงแห่งปีที่น่าลงทุนมากและเป็นเทรนด์การลงทุนยุคใหม่ที่สร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด เหมาะกับคนที่มีกิจการเดิมต้องการสร้างรายได้เพิ่ม หรือคนที่อยากสร้างธุรกิจใหม่

ก่อนจะเลือกลงทุนกับ G Power สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาแนวทางก่อนเริ่มธุรกิจ โดยมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและพร้อมให้การดูแลผู้สนใจลงทุนทุกคนเป็นอย่างดี

จี เพาเวอร์
สนใจลงทุน คลิก
https://bit.ly/3uLqI7s
โทร. 081-2688890 , 089-8918180


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด