รวมแบรนด์ธุรกิจที่คนเข้าใจผิด คิดว่าเจ้าของคนเดียวกัน

เคยสังเกตหรือไม่ว่ามีหลายๆ ธุรกิจในปัจจุบัน ที่มีชื่อเหมือนกันหรือคล้ายๆ กัน แล้วเราคิดว่าคงมีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วเจ้าของเป็นคนละคนกัน หรืออาจมีความเกี่ยวข้องกันในวงพี่น้องหรือเครือญาติกัน ถ้าถามว่ามีแบรนด์ธุรกิจอะไรบ้างที่คนยังเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของธุรกิจคือคนเดียวกัน วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบ

1. ไผ่ทองไอสครีม & ไผ่ทองไอศครีม

44

ภาพจาก https://bit.ly/3aMVOBF , https://bit.ly/3xiTaLB

ทั้งสองแบรนด์ไม่ใช่เจ้าของคนเดียวกัน แต่เจ้าของเป็นคนในครอบครัวหรือตระกูลเดียวกัน ปัจจุบัน “ไผ่ทองไอสครีม” เป็นของฝั่งพ่อ-แม่และพี่น้อง ส่วน “ไผ่ทองไอศครีม” เป็นของฝั่งลูกชายคนที่ 6 คือ คุณบุญชัย ชัยผาติกุล เป็นผู้บริหารกิจการอยู่ ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่าคุณบุญชัยได้ออกจากบ้านไปทำธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ปี 2538 แล้วไม่ได้ติดต่อกับที่บ้าน ต่อมาได้กลับเข้าบ้านเพื่อนำไอศกรีมออกมาจำหน่าย ซึ่งทางบ้านไม่รู้ด้วยว่าลูกชายนำไอศกรีมออกมาจำหน่ายด้วย

อยู่มาวันหนึ่งทางฝั่งครอบครัวและพี่น้องทราบภายหลังว่า ทำไมไอศกรีมของตัวเองใช้ชื่อ “ไผ่ทองไอศกรีม” และมีโลโก้คล้ายคลึงกัน แต่มีลูกค้ามาร้องเรียนเรื่องคุณภาพ ทำให้น้ายเฮียง (แม่) ตัดสินใจฟ้องลูกชายของตัวเองในที่สุด ซึ่งในปี 2563 ศาลชั้นต้นตัดสินให้ฝ่ายน้ายเฮียง ได้สิทธิ์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า “ไผ่ทองไอสครีม” ทั่วประเทศ

รายได้ “ไผ่ทองไอสครีม”

43

ภาพจาก https://bit.ly/3xiPZDK

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไผ่ทองซีกิมเช็ง” เจ้าของแบรนด์ “ไผทองไอศกรีม” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 1 ก.ย. 2541 ด้วยทุนจดทะเบียน 7,500,000 บาท

รายชื่อหุ้นส่วน ประกอบด้วย นายปรีชา ชัยผาติกุล, นายบุรวิทย์ ชัยผาติกุล, นายเกษมสันต์ ชัยผาติกุล, นางสาวภัณฑิรา ชัยผาติกุล, นางสิริณัฐ ชัยผาติกุล และ นางเบญจนุช ชัยผาติกุล

#ผลการดำเนินงาน 2 ปี ล่าสุด

  • ปี 60 รายได้ 75.5 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท
  • ปี 61 รายได้ 74 ล้านบาท กำไร 1.2 ล้านบาท

รายได้ “ไผ่ทองไอศกรีม”

42

ภาพจาก https://bit.ly/3zvy0ge

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท ไผ่ทองไอศครีม จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “ไผ่ทองไอศกรีม” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 8 ต.ค. 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท

รายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายบุญชัย ชัยผาติกุล, นางสาวภคธร ชัยผาติกุล และ นายปาลวัฒน์ พัฒนวิจิตร

#ผลการดำเนินงาน 2 ปี ล่าสุด

  • ปี 62 รายได้ 66.2 ล้านบาท กำไร 1.1 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 70.8 ล้านบาท ขาดทุน 2.4 ล้านบาท

2. โออิชิ & อิชิตัน

41

ภาพจาก https://bit.ly/30z4L8i , https://bit.ly/2IJPYRt

“โออิชิ” กับ “อิชิตัน” ทั้งสองแบรนด์กำเนิดมาจากบุคคลคนเดียวกัน นั่นคือ คุณตัน ภาสกรนที โดยคุณตันได้ขายโออิชิให้กับเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งไทยเบฟฯ หลังจากนั้นไม่นานนักคุณตันก็ได้ปั้นแบรนด์เครื่องดื่มชาเขียว “อิชิตัน” มาเป็นคู่แข่งโออิชิ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เขาปั้นมากับมือ โดยหลังจากที่คุณตันออกจากชายคาโออิชิเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ยังได้พาทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนาน 5 ปี กว่า 30 คนออกมาด้วย ทุกคนจะรู้จุดอ่อนจุดแข็งของโออิชิเป็นอย่างดี

หลังจากเปิดตัว “อิชิตัน” ปรากฏว่า สินค้าทุกเมนูแทบจะโคลนนิ่งโออิชิ ทั้งชื่อแบรนด์ และรสชาติ แต่ขายในราคาที่ถูกกว่า เมื่อทางฝั่ง “โออิชิ” รู้ว่าเจอคู่แข่งที่รู้กลศึกของตัวเองทุกอย่าง จึงหั่นราคาขายโออิชิเหลือขวดละ 16 บาทเท่ากับราคาขายของอิชิตันในวันเปิดตัวสู่ตลาด ส่วน “อิชิตัน” เปิดตัวแคมเปญตัดราคาขายพ่วงแบบแพ็กคู่ ซื้อเครื่องดื่ม “ดับเบิ้ล ดริ้งค์ 20 บาท” แถมซื้ออิชิตันได้ในราคาบาทเดียว จนเป็นคู่แข่งขันในธุรกิจเครื่องดื่ม “ชาเขียว” ที่สมน้ำสมเนื้อกันจนถึงปัจจุบันนี้

รายได้ “โออิชิ”

40

ภาพจาก https://bit.ly/30z4L8i

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” เจ้าของแบรนด์ “โออิชิ” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 3 มี.ค. 2547 ทุนจดทะเบียน 375,000,000 บาท

รายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล, นายวิกรม คุ้มไพโรจน์, นายชัย จรุงธนาภิบาล, นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช, นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร, นายอวยชัย ตันทโอภาส, นายพิษณุ วิเชียรสรรค์ และ นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล

#ผลการดำเนินธุรกิจ 2 ปีล่าสุด

  • ปี 63 รายได้ 3,926 ล้านบาท กำไร 917 ล้านบาท
  • ปี 64 รายได้ 3,220 ล้านบาท กำไร 633 ล้านบาท

รายได้ “อิชิตัน”

39

ภาพจาก https://bit.ly/2IJPYRt

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” เจ้าของแบรนด์ “อิชิตัน” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 11 ก.ค. 2556 ทุนจดทะเบียน 1,300,000,000 บาท

รายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายตัน ภาสกรนที, นางอิง ภาสกรนที, นายธิติ จิรนนท์กาล, พลอากาศตรีณัฐวรรธน์ นิมมลธนากรณ์, นายประสาน ลิ้มพิพัฒนกุล, นายอิสสระชัย เดชาฤทธิ์, นายวิโรจน์ สุภาสูรย์, นายธนพันธุ์ คงนันทะ และ นางสาวอารยา พานิชายุนนท์

#ผลการดำเนินธุรกิจ 2 ปีล่าสุด

  • ปี 63 รายได้ 5,044 ล้านบาท กำไร 400 ล้านบาท
  • ปี 64 รายได้ 5,250 ล้านบาท กำไร 489 ล้านบาท

3. FireTiger “เสือพ่นไฟ” & The Fire Bear “หมีพ่นไฟ”

38

ภาพจาก https://bit.ly/3xlWdmd , https://bit.ly/39lah7I

ทั้งสองแบรนด์ไม่ใช่เจ้าของคนเดียวกัน แต่ลูกค้าหลายคนที่เข้าไปใช้บริการ น่าจะเข้าใจผิดไปหลายคนว่า ทั้งสองแบรนด์มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน เพราะชื่อแบรนด์และรูปแบบการให้บริการลูกค้ามีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ร้านชานมไข่มุก “เสือพ่นไฟ” มีเอกลักษณ์หัวเสือในการตกแต่งร้าน ส่วน “หมีพ่นไฟ” มีเอกลักษณ์หัวหมีในการตกแต่งร้าน

จากประเด็นดังกล่างจึงทำให้เจ้าของเสือพ่นไฟ “คุณนันทนัช เอื้อศิริทรัพย์” ผู้บริหารบริษัท รวยสบายสบาย จำกัด ยื่นฟ้อง “คุณนายนิพนธ์ สุริยล้ำเลิศ” ผู้บริหารห้างหุ้นส่วนจำกัด หมีพ่นไฟ เจ้าของแบรนด์ ไหมีพ่นไฟ” โดยศาลตัดสินให้ชนะคดีฐานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเสือพ่นไฟ และสั่งจ่ายค่าชดเชยเป็นเงิน 10 ล้านบาท เมื่อช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน “เสือพ่นไฟ” มีจำนวน 16 สาขาทั่วประเทศ และอีก 13 สาขาในต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ กัมพูชา และเตรียมขยายสาขาไปสหรัฐฯ ในปี 2565 ส่วนชานมไข่มุก “หมีพ่นไฟ” มีจำนวนสาขากว่า 200 สาขาทั่วประเทศ

รายได้ “เสือพ่นไฟ”

37

ภาพจาก https://bit.ly/3xlWdmd

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท รวยสบายสบาย จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “เสือพ่นไฟ” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 27 ก.พ. 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท คณะกรรมการ ประกอบด้วย นางสาวนันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ และ นางสาวชุติมา เปรื่องเมธางกูร

#ผลการดำเนินธุรกิจ 2 ปีล่าสุด

  • ปี 63 รายได้ 91 ล้านบาท กำไร 3.9 ล้านบาท
  • ปี 64 รายได้ 113 ล้านบาท ขาดทุน 11 ล้านบาท

รายได้ “หมีพ่นไฟ”

36

ภาพจาก https://bit.ly/39lah7I

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท หมีพ่นไฟ 999 จำกัด” จดทะเบียนจัดตั้ง 8 ม.ค. 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท คณะกรรมการ ประกอบด้วย นายนิพนธ์ สุริยล้ำเลิศ

  • ปี 64 รายได้ 19 ล้านบาท กำไร 367,405 บาท

ส่วน “ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมีพ่นไฟ” จดทะเบียนจัดตั้ง 26 ก.ค. 2556 หุ้นส่วนประกอบด้วย นายนิพนธ์ สุริยล้ำเลิศ และ นายนิทัสน์ สุริยล้ำเลิศ

  • ปี 63 รายได้ 7 ล้านบาท กำไร 281,546 บาท
  • ปี 64 รายได้ 14.6 ล้านบาท กำไร 242,494 บาท

4. เพนกวิน อีท ชาบู & เพนกวินชานมไข่มุก

35

ภาพจาก https://bit.ly/3H8pyoZ, https://bit.ly/3xo3F0t

หลายคนที่เคยเข้าไปใช้บริการทั้ง 2 ร้านนี้ อาจจะคิดว่าเป็นร้านในเครือเดียวกัน หรือเจ้าของเป็นคนเดียวกัน หรือมีคำถาม Penguin Eat Shabu เปิดร้านขายชานมไข่มุกแล้วเหรอ ซึ่งจริงๆ ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ Penguin Eat Shabu (เพนกวิน อีท ชาบู) ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับร้านเครื่องดื่มชานมไข่มุก Penguin coffee & tea (เพนกวินชานมไข่มุก) แต่อย่างใด

ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา “คุณต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี” เจ้าของร้านอาหาร Penguin Eat Shabu ได้มีการติดต่อไปทางร้าน Penguin coffee & tea (Penguin เพนกวินชานมไข่มุก) ทาง Messenger ทราบว่าทางร้าน Penguin เพนกวินชานมไข่มุกไม่ได้มีความตั้งใจ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ทั้งนั้น แต่อาจเป็นเพราะ ความไม่รู้หรือไม่ได้ตั้งใจ โดยที่ทางร้านจะขออนุญาตใช้โลโก้ดังกล่าวจนกว่า packaging ที่สั่งทำไปจะหมด

34

ภาพจาก https://bit.ly/3xo3F0t

อย่างไรก็ตาม “คุณต่อ-ธนพงศ์” ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับทางเจ้าของร้านชานมไข่มุก อีกทั้งยังเชียร์ให้ลูกค้าไปอุดหนุนร้าน Penguin เพนกวินชานมไข่มุกอีกต่าง ปัจจุบันร้านอาหาร Penguin Eat Shabu เปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา

ปัจจุบันนอกจาก Penguin เพนกวินชานมไข่มุก ที่ไม่ใช่เจ้าของเดียวกันกับ ร้านอาหาร Penguin Eat Shabu ยังมีแบรนด์ “เพนกวิน” เครื่องดื่มอีกมากมาย อาทิ เพนกวินมิลค์ที – Penguin Milk Tea, Penguin Drink เป็นต้น

รายได้ “เพนกวินอีท ชาบู”

33

ภาพจาก https://bit.ly/3H8pyoZ

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท เพนกวิน วัฒนา จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “เพนกวิน อีท ชาบู” จดทะเบียนจัดตั้ง 5 พ.ย. 2558 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท รายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายธนพันธ์ วงศ์ชินศรี, นายธนพงศ์ วงศ์ชินศรี และ นายดิเรก วงศ์ชินศรี

  • ปี 63 รายได้ 17 ล้านบาท กำไร 467,545 บาท
  • ปี 64 รายได้ 9.3 ล้านบาท ขาดทุน 1.6 ล้านบาท

5. ต้นตำรับ ชาพะยอม & ชาพะยอม T-Origin

32

ภาพจาก https://bit.ly/3MF2f72 , https://bit.ly/3mxWYUm

เชื่อว่าคอเครื่องดื่มชาเขียวราคาเดียว 25 บาท (ปัจจุบันปรับราคา 30 บาท) คงไม่รู้ว่า “ชาพะยอม” ที่มีสาขาทั่วประเทศ มีด้วยกัน 2 แบรนด์ นั่นคือ “ต้นตำรับ ชาพะยอม” เจ้าของ คือ คุณอุไรวัลย์ ไตรจันทร์ (คุณอุ๊) และ “ชาพะยอม T-Origin” เจ้าของ คือ นายคณน ไตรจันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเป็นเครือญาติตระกูลเดียวกัน แต่ถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าร้านสาขาไหนเป็นของใคร เพราะการออกแบบโลโก้ไม่แตกต่างกัน ลองสังเกตง่ายๆ ถ้าเป็นแบรนด์ในเครือของ “คุณอุไรวัลย์” หน้าร้านจะมีชื่อคำว่า “ต้นตำรับ” นำหน้า “ชาพะยอม” เสมอ และ “โลโก้รูปใบชา” จะอยู่ท้ายคำว่า “CHA”

สำหรับ “ชาพะยอม T-Origin” (โลโก้พื้นที่เขียว) ของ “คุณคณน ไตรจันทร์” อยู่ภายใต้บริษัท ภูริสิริ จำกัด เปิดสาขาแรกที่หาดใหญ่เป็นแห่งแรก ส่วน “ต้นตำรับ ชาพะยอม” (โลโก้พื้นสีดำ) ของคุณอุไรวัลย์ ดำเนินงานภายใต้บริษัท ชาพะยอม จำกัด (ปัจจุบันเลิกกิจการ) เปิดสาขาแรกที่ย่านถนนสามชัย หาดใหญ่เช่นเดียวกัน

จากข้อมูลที่คุณอุไรวัลย์เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าหลังจากเปิดร้านใหม่ๆ ได้มีเครือญาติมาเรียนรู้สูตรการชงเครื่องดื่มจากเธอ เพื่อเปิดร้าน หลังจากนั้นมีการเปิดขายแฟรนไชส์เหมือนกัน จนกระทั่งมีรายงานข่าวทั้งสองแบรนด์มีการฟ้องร้องกัน!!! ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 แบรนด์ “ต้นตำรับ ชาพะยอม & ชาพะยอม T-Origin” ยังดำเนินกิจการและเปิดขายแฟรนไชส์แข่งขันกัน

รายได้ “ต้นตำรับ ชาพะยอม”

31

ภาพจาก https://bit.ly/3MF2f72

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท ชาพะยอม จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “ต้นตำรับ ชาพะยอม” จดทะเบียนจัดตั้ง 16 มิ.ย. 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท มีรายชื่อคณะกรรมการ 1 คน คือ นางสาวอุไรวัลย์ ไตรจันทร์ ปัจจุบันสถานะได้เสร็จการชำระบัญชีวันที่ 20 ส.ค. 2561 (เลิก) แต่ยังดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ “ต้นตำรับ ชาพะยอม”

รายได้ “ชาพะยอม T-Origin”

30

ภาพจาก https://bit.ly/3mxWYUm

จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล “บริษัท ภูริสิริ จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “ชาพะยอม ออริจินัล” จดทะเบียนจัดตั้ง 26 ก.ค. 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท รายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายคณน ไตรจันทร์ และ นายเพทาย ไตรจันทร์

  • ปี 62 รายได้ 26 ล้านบาท กำไร 357,281 บาท
  • ปี 63 รายได้ 19 ล้านบาท กำไร 342,502 บาท

นั่นคือ 10 แบรนด์ธุรกิจที่คนเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของคนเดียวกัน ซึ่งแต่ละแบรนด์ข้างต้นมีความเกี่ยวข้องกัน และไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่พิจารณาและสังเกตให้ดี อาจจะไม่รู้เลยว่าแต่ละแบรนด์เจ้าของไม่ใช่คนเดียวกัน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ข้อมูลจาก https://bit.ly/39fD5P5 , https://bit.ly/3mzFzux , https://bit.ly/3MxIdeU , https://bit.ly/3MFWfLv

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Qi8aC9

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช