รวม 5 เมนูสร้างอาชีพ! เงินน้อยก็ลงทุนได้ ขายดีตลอดปี

วิกฤติค่าครองชีพ! เงินไม่พอใช้! รายได้น้อยกว่ารายจ่าย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเหลือกินเหลือเก็บ เอาแค่ให้พออยู่พอกินในแต่ละเดือนยังทำไม่! สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่ต้องเผชิญ วิธีแก้ปัญหาที่พูดถึงมากคือ “การหารายได้เพิ่ม” แต่ www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกคนจะสร้างอาชีพเสริม

บางคนทำงานประจำเข้างานแต่เช้ากว่าจะเลิกก็เย็น แถมบางทีต้องทำงานวันเสาร์ 1 สัปดาห์ได้หยุดแค่วันเดียว ไหนจะเรื่องเงินทุน ทำเล ประสบการณ์ มีอีกหลายอย่างที่ทำให้การสร้างอาชีพเสริมเป็นได้แค่ความคิด แต่ในความเป็นจริงเช่นกันถ้าเราแก้ปัญหาที่พูดมาได้

เช่นมีคนที่บ้านว่างพอช่วยขาย มี 5 เมนูสร้างอาชีพ ที่ขายง่าย ขายดี แม้เป็นเมนูที่เห็นกันจนชินตา มีคนขายอยู่เยอะมาก แต่ทว่าสินค้าเหล่านี้ก็ถือว่าลงทุนน้อย และให้ผลตอบแทนดี ที่สำคัญขายได้ตลอดปี เป็นทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมให้กับคนที่ลงมือทำจริงได้

1.ไก่ทอด

เมนูสร้างอาชีพ

ถ้าไม่มีเวลาจะขายหรือไม่รู้จะขายอะไร แนะนำว่าเลยว่าเปิดร้านขาย “ไก่ทอด” ไม่ต้องขายอย่างอื่นผสม เน้นไก่ทอดอย่างเดียวก็พอ อาจจะมีขายคู่ข้าวเหนียว แค่นี้ก็ขายดีแน่ขอแค่มีทำเลที่คนพลุกพล่าน ใครมีหน้าบ้านในแหล่งชุมชนยังไงก็ขายได้หรือถ้ามีเวลาในตอนเย็น หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะลองไปเปิดร้านในตลาดนัดใกล้บ้าน ก็น่าสนใจมาก โดยถ้าเป็นร้านขนาดเล็กแบบโต๊ะตัวเดียวงบลงทุนไม่เกิน 5,000 ก็เริ่มได้อุปกรณ์ สำคัญที่ควรมีได้แก่ เตาแก๊สพร้อมถัง , หม้อทอด , ที่คีบ , ตะแกรงพร้อมถาด , รถเข็น ต้นทุนจริงๆ จะไปหนักตรงวัตถุดิบก็คือ “ไก่” เช่นน่อง สะโพก เป็นต้น

ถ้าเงินน้อยก็ลงทุนตามน้อย เช่นซื้อวัตถุดิบมาสัก 3 – 5 กิโลกรัม (ในช่วงทดลองเปิดร้าน) เพื่อให้รู้ว่าวัตถุดิบแบบไหนขายดี อะไรที่ลูกค้าต้องการ ราคาขายเฉลี่ยชิ้นละ 10 – 20 บาท เคล็ดลับก็คือวิธีการทอด การหมักไก่ กลยุทธ์การตลาด การพูดคุยกับลูกค้า รวมถึงทำเลขาย บางคนอาจรับออร์เดอร์จากเพื่อนที่ทำงานประจำ ที่สำคัญถ้าอยากต่อยอดให้เป็นธุรกิจที่เติบโตอาจคิดสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาร่วมด้วยก็ได้

2.ขายลูกชิ้นปิ้ง/ลูกชิ้นทอด

ง่ายที่สุดและนึกถึงมากที่สุดเช่นกันก็คือลูกชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด ที่ขายดีตลอดกาลไม่เคยตกกระแส เพราะเป็นสินค้าซื้อง่าย ทานง่าย สังเกตว่ามีตลาดนัดที่ไหนก็ต้องเจอร้านเหล่านี้ทุกที่ ในกรณีเริ่มต้นก็แนะนำว่าไม่ต้องลงทุนอะไรมาก วัตถุดิบครั้งแรกไม่ต้องเยอะ อาจจะเริ่มซื้อลูกชิ้นในงบประมาณ 1,000 บาท เครื่องปรุงทำน้ำจิ้ม 500 บาท ถุงใส่ลูกชิ้น 200 บาท อาจมีผักสดสัก 200 บาท

รวมค่าใช้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 2,000 บาท ขายไม้ละ 10 บาท X 250 ไม้ = 2,500 บาท ขายสองรอบเช้าและเย็นเท่ากับได้เงิน 5,000 บาท แต่ถ้าขายไม่ได้ถึงวันละ 250 -500 ไม้ แต่ขายได้วันละ 100 -200 ไม้ ก็จะมีรายได้ต่อวัน 1,000 – 2,000 บาท หักลบรายจ่ายน่าจะพอเหลือเก็บได้ หรืออย่างน้อยก็พอทำให้มีเงินหมุนเวียนใช้ได้มากขึ้น แต่สำหรับคนที่ทำงานประจำก็อาจต้องมีคนที่บ้านช่วยขาย จะสามารถเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น

3.หมูปิ้ง /ข้าวเหนียว

หมูปิ้งถือเป็นสินค้าที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด ทุกวันนี้เห็นร้านหมูปิ้งมีอยู่ทุกที่ ถ้าเรามีคนช่วยขาย มีทำเลเปิดร้านที่ดี คนทำงานประจำก็สามารถขายหมูปิ้ง เป็นรายได้เพิ่มที่ดีแม้จะมีคู่แข่งเยอะก็ตาม จุดเด่นของร้านหมูปิ้งคือ ใช้พื้นที่น้อยโต๊ะตัวเดียวก็เพียงพอเปิดร้านได้ ทำเลก็ทั่วไปทั้งหน้าบ้านตัวเอง ตลาดนัด ป้ายรถเมล์ ริมถนนต่างๆ ต้นทุนอุปกรณ์เบื้องต้นเช่น หม้อนึ่งข้าวเหนียวราคาประมาณ 120-200 บาท หวดนึ่งข้าวเหนียวราคาประมาณ 20-100 บาท

รวมถึงอุปกรณ์การขายทั่วไป ต้นทุนที่แท้จริงก็คือ เนื้อหมูราคาปกติตอนนี้ประมาณ 170-180 บาท โดยเนื้อหมู 1 กิโลกรัม ทำได้ประมาณ 70 ไม้ (ขึ้นอยู่กับปริมาณในการเสียบไม้ของแต่ละคน) ขายไม้ละ 10 บาท หักลบต้นทุนต่างๆ กำไรเฉลี่ยประมาณ 300 – 500 บาทขึ้นอยู่กับทำเล กลยุทธ์การขาย ซึ่งก็มีหลายคนที่เอาจริงเอาจังในการทำหมูปิ้งขาย จนมีรายได้ที่ดีกว่าทำงานประจำ บางคนพัฒนาจากการขายหน้าร้านไปสู่การทำหมูปิ้งเสียบไม้ส่งต่อให้กับคนสนใจขายทั่วประเทศ

4.ร้านข้าวไข่เจียว

เมนูสร้างอาชีพ

เมนูอาหารจานเดียวที่ง่ายที่สุดต้องนึกถึงข้าวไข่เจียว ที่มีจุดเด่นคือทำใหม่ทุกจาน ทานตอนร้อนอร่อยมาก แถมราคาไม่แพง อิ่มอร่อย โดยเฉพาะช่วงเช้า – เย็นจะขายดีเป็นพิเศษ ถ้าคิดเปิดร้านข้าวไข่เจียวอุปกรณ์ก็ไม่มากโต๊ะ 1 ตัว เตาแก๊ส จาน (แบบใช้แล้วทิ้ง) วัตถุดิบสำหรับผสมไข่เจียว (หมูบด , ปูอัด , หมูยอ ฯลฯ) และข้าว กับไข่ ข้าว 1 ถังเอาแบบดีราคา ถังละ 450-500 บาท หุงได้หลายรอบ ไข่เบอร์2 แผงละ 105-110 บาท (30ใบ)

ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 – 3,000 ขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท ซึ่งอาจจะไม่ได้คืนทุนในทีเดียว แต่ใช้เวลาในการคืนทุนไม่นาน และหากขายดีมีลูกค้ามากๆ อาจเพิ่มเมนูให้หลากหลาย หรืออาจเพิ่มช่องทางการขายแบบเดลิเวอรี่ได้ด้วย

5.ข้าวเกรียบทอด

เมนูสร้างอาชีพ

สินค้าอย่างข้าวเกรียบทอดอาจจะอยู่นอกเหนือจากที่คนอื่นคิด แต่ที่จริงแล้วเมนูนี้ลงทุนน้อย แต่กำไรดีมากบางทีได้กำไรเกินกว่า100% ยกตัวอย่างข้าวเกรียบ(ยังไม่ทอด) ราคาถุงละประมาณ 120 บาท ซึ่งปัจจุบันมีหลายคนที่ขายวัตถุดิบทั้งข้าวเกรียบแผ่น ข้าวเกรียบหลอด นำมาทอดใส่ถ้วยเล็กๆ ขนาด 12 ออนซ์ อาจโรยด้วยผงปาปริก้า , ผงชีส เพิ่มรสชาติ เฉลี่ย 1 กิโลกรัมใส่ได้ 60 แก้ว ขายแก้วละ 10 บาทจะขายได้ 600 บาทหักต้นทุนต่างๆ จิปาถะเช่น ค่าแก๊ส , ค่าน้ำมัน , ค่าวัตถุดิบ , ค่าบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

ยังเหลือกำไรที่มากพอสมควร ก็ขึ้นอยู่กับทำเลขาย แนะนำว่าแถวหน้าโรงเรียนจะขายดีมาก หรือถ้าทำงานประจำอาจนำไปขายเพื่อนในออฟฟิศ ในโรงงาน และถ้าทำแบรนด์ของตัวเองให้คนรู้จักก็มีโอกาสต่อยอดสร้างธุรกิจในอนาคตได้ง่ายขึ้น

ซึ่งนอกจาก 5 เมนูที่เรายกตัวอย่างอันที่จริงก็ยังมีอีกหลายเมนูลงทุนน้อยแต่ขายดีเช่น แซนด์วิช , น้ำเต้าหู้ , ขนมปังปิ้ง เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญสำหรับคนทำงานประจำแต่อยากมีรายได้จากเมนูขายดีเหล่านี้อาจต้องมีคนช่วยขาย ถ้ามีรายได้จาก 2 ทางทั้งงานประจำและการขายของก็จะช่วยแก้ปัญหาการเงินของเราได้เป็นอย่างดี

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3JIqeEA


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด