รวม 5 กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย ใช้ Key Opinion Leader (KOL) สร้างแบรนด์
การตลาดที่ทรงพลังในยุคนี้คือ Digital Marketing ซึ่งจะเห็นได้ว่าแทบทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์มาใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้า และแน่นอนว่ารูปแบบรวมถึงวิธีการที่นำมาใช้นั้นมีหลากหลาย มีหลายคำที่ www.ThaiSMEsCenter.com คิดว่าทุกคนต้องเคยได้ยินไม่ว่าจะ Influencers หรือ KOL
แต่ก็เชื่ออีกเช่นกันว่าแม้จะเคยได้ยินแต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าจะนำมาใช้งานอย่างไรให้ได้ผล ยิ่งคำว่า Key Opinion Leader (KOL) หลายคนงงกับคำนี้มาก ทั้งที่ความจริงหากมีความรู้และนำมาใช้จะเกิดประโยชน์กับแบรนด์อย่างมาก
Key Opinion Leader (KOL) คือ?
KOL (Key Opinion Leader) หมายถึง ผู้นำทางความคิด ที่สามารถชี้นำผู้คนได้ ซึ่งในทางการตลาดอาจหมายถึงกลุ่มคนที่มีบทบาทในการทำให้คนจำนวนหนึ่งไปจนถึงคนหมู่มาก เชื่อถือเเละสามารถคล้อยตามได้ KOL นั้นจะมีลักษณะที่คล้ายกับ Influencer เพียงแต่ KOL นั้นจะเป็นผู้นำทางความคิดกับผู้คนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง จึงทำให้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในด้านความคิดของผู้ติดตาม
ส่วนใหญ่ KOL จะเป็นกลุ่มคนในอุตสาหกรรมที่ต้องการความรู้ เช่น ด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การเงิน สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี แต่ในปัจจุบันนี้จะนับรวมถึงกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือด้วย เช่น กลุ่มของความงาม ฟิตเนส อาหาร ความเป็นอยู่ ฯลฯ หรือ KOL ทำที่ทำเนื้อหาแบบเฉพาะเรื่อง เช่นเพจที่ให้ความรู้ในเรื่อง โฆษณา, การตลาด เป็นต้น
รวม 5 วิธีใช้ Key Opinion Leader (KOL) สร้างแบรนด์
ข้อดีของการใช้ KOL นั้นมีหลายอย่าง ทั้งช่วยเพิ่มการรับรู้ให้แบรนด์ , ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ,เพิ่มการเข้าถึงและปริมาณของกลุ่มเป้าหมายให้กับแบรนด์ รวมถึงสร้างความแตกต่างจากแบรนด์ของคู่แข่ง ซึ่งการเลือกใช้ KOL ให้มีประสิทธิภาพเราต้องรู้จักทำความเข้าใจตลาด , สามารถตรวจสอบและค้นหา KOL ที่เหมาะสม ซึ่ง KOL ที่ใช้จะต้องตอบโจทย์กลยุทธ์การตลาดที่เราใช้ด้วย โดยมีวิธีใช้ดังนี้
1.เน้นที่การโฆษณา
เช่นการนำคนที่อยู่ในแวดวงอาหารมาช่วยในการทำตลาด ยกตัวอย่างเลย์แบรนด์มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ ที่นำเอาเชฟที่มีชื่อเสียงมาร่วมออกแคมเปญโปรโมทสินค้า ซึ่งแน่นอนว่ายกระดับแบรนด์ให้ดูมีความน่าสนใจได้มากขึ้น
2.สร้างกิจกรรมออฟไลน์
การเชิญ KOL ให้เข้าร่วมกิจกรรมออฟไลน์อย่างเช่น งานอีเวนต์ต่างๆ การประชุม การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ก็เป็นวิธีการโปรโมตสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะ KOL มักจะชอบถ่ายภาพและวิดีโอของสถานที่ และโพสต์บนช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง ทำให้คนที่ติดตามเห็นว่าเกิดกิจกรรมเกี่ยวกับแบรนด์มากขึ้น
3.ใช้ KOL มาเป็นนักเขียนให้กับเว็บไซต์
ถือเป็นการยกระดับแบรนด์ให้ดูมีความน่าเชื่อถือและดูมีคุณค่ามากขึ้น ผ่านงานเขียนของเหล่า KOL ซึ่งมีความรู้เฉพาะทางที่น่าสนใจ ยกตัวอย่าง HubSpot ที่เป็นซอฟต์แวร์การทำ Inbound Marketing & Sales ได้เชิญ Neil Patel ผู้มีชื่อเสียงด้านการตลาดดิจิทัลและการทำ SEO มาเป็นนักเขียนรับเชิญพิเศษให้ด้วยการเขียนบล็อก ทำให้ HubSpot ดูเป็นซอฟต์แวร์ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น
4.ใช้ KOL รีวิวสินค้า
การรีวิวดูจะเป็นวิธีการที่ทรงพลังมาก ยิ่งได้ KOL ซึ่งมีความรู้ความสามารถมาพูดถึงแบรนด์ยิ่งทำให้คนทั่วไปตัดสินใจอยากใช้สินค้าหรือบริการได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการใช้หมอที่มีชื่อเสียงมารีวิวการใช้สินค้าก็จะทำให้สินค้าดูมีคุณภาพทำให้คนกล้าตัดสินใจซื้อใช้ได้มากขึ้น
5.ทำเมนชั่นถึงแบรนด์
แบรนด์สามารถร่วมงานกับ KOL ด้วยการส่งสินค้าให้ทดลองใช้หรือรีวิวแล้วทำการ @เมนชั่น ถึงแบรนด์ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ติดตามของ KOL เห็นช่องทางการติดต่อแบรนด์ทันที และมีโอกาสที่จะซื้อสินค้าตามมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีการตลาดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่แบรนด์ต้องศึกษาคือความต้องการของผู้บริโภค และการเลือกใช้ Digital Marketing ให้เหมาะสมเพราะแม้จะมีข้อดีในการเข้าถึงและส่งเสริมการขายได้มาก แต่ในทางกลับกันถ้าเลือกใช้ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดกระแสด้านลบ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์เราได้เช่นกัน
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3Fcl54S , https://bit.ly/3ZzUEOv , https://bit.ly/3kZV5CS
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)