ยุคนี้ควรเลือกเรียนอะไร! จบไปไม่ตกงาน

ในปี 2565 มีปัญหาที่น่าหนักใจคืออัตราการว่างงานโดยเฉพาะ “เด็กจบใหม่” ที่คาดว่าจะว่างงานเพิ่มขึ้น 10.04% หรือประมาณ 2.9 แสนคนอันเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่หลายองค์กรอาจต้องรัดเข็มขัดและมีนโยบายในการจ้างพนักงานที่เข้มงวดมากขึ้น

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรรอความช่วยเหลือจากใคร แต่เป็นตัวเราเองที่ต้องมีการวางแผนและเลือกเรียนสายที่ตลาดแรงงานมีความต้องการสูงโดยเฉพาะต่อจากนี้เป็นโลกยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง การเลือกเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานจึงมีความสำคัญมาก

เลือกเรียนอะไรดี? จบไปไม่ตกงาน

1.สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ (Health care)

จบไปไม่ตกงาน

ภาพจาก https://bit.ly/3DlEIEk

ปัจจุบันนับแต่มีการแพร่ระบาดของโควิดทำให้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นและเชื่ออย่างยิ่งว่าโควิด19จะไม่ใช่โรคระบาดสุดท้ายที่เราจะเจอในอนาคตต้องมีโรคที่อุบัติใหม่เกิดขึ้น จึงเป็นเหตุผลว่าการเรียนในสายนี้ไม่มีคำว่าตกงาน

โดยเราสามารถเลือกเรียนได้หลายสายเช่น แพทย์ พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ส่วนใหญ่หลักสูตรเหล่านี้จะเน้นเรียนแบบเฉพาะทาง ผู้เรียนต้องอาศัยความตั้งใจและทุ่มเทอย่างมาก และมีหลายคณะให้เลือกเรียนตามมหาวิทยาลัยต่าๆง เช่น คณะสาขาแพทยศาสตร์ , พยาบาลศาสตร์ , ทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้น

2.เรียนทางด้านสายการเงิน การลงทุน

6

ภาพจาก https://bit.ly/3HeZcky

ธุรกิจในโลกยุคใหม่ไม่ใช่แค่การซื้อมาขายไปและไม่ใช่แค่การผลิตสินค้าเพื่อวางขายอย่างเดียว แต่มีความละเอียดที่มากขึ้นและมีรูปแบบการเงิน การลงทุน ที่หลากหลาย การเรียนสายการเงิน การลงทุนจึงนับว่ามีความต้องการในตลาดแรงงานสูงมาก โดยเฉพาะอาชีพด้านการให้คำปรึกษาที่จะมาแรงในอนาคตอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่นับจากนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ปัจจุบันมีจำนวนน้อยมาก

โดยมีหลายคณะที่ควรเลือกเรียนเพื่อทำงานในสายนี้เช่น คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน ,คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบริหารการเงินคณะวิทยาการจัดการ สาขาการเงิน , คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาการเงินและการธนาคาร เป็นต้น

3.เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์

5

ภาพจาก https://bit.ly/3kv7zic

ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าต่อจากนี้เราเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง อาชีพที่มาแรงและเป็นที่ต้องการในตลาดคือสายเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะการได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรม แอปพลิเคชัน และระบบสารสนเทศ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI หรือ Data Science ซึ่งตอนนี้บุคลากรที่มีความสามารถในด้านนี้ยังมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

และหากเรามีประสบบการณ์มีฝีมือในงานด้านนี้จริงๆ โอกาสในการสร้างรายด้ที่ดีจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถเลือกเรียนในหลายคณะได้เช่น คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ , คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม , คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

4.สายวิศวกรรม โลจิสติกส์ โทรคมนาคม

4

ภาพจาก https://bit.ly/3FcOk5c

การตลาดออนไลน์ที่มาแรงและการขนส่งด้านโลจิสติกส์ที่เติบโตชัดเจนกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ให้เราเลือกเรียนด้านนี้รับประกันว่าไม่ตกงาน ซึ่งในปัจจุบันตลาดโลจิสติกส์และโทรคมนาคมเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่ว่าจะเป็นการขนส่งที่มีทางเลือกมากขึ้น และเส้นทางรถไฟฟ้าที่เริ่มทยอยเปิดหลายเส้นทางทำให้ความต้องการแรงงานเพื่อดูแลหน้าที่ในส่วนนี้โดยมีหลายคณะเปิดสอนในด้านนี้ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ ,คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ,คณะโลจิสติกส์ เป็นต้น

5.เรียนสายการตลาดและธุรกิจ

3

ภาพจาก https://bit.ly/3DbtySP

ในโลกของการทำธุรกิจยุคใหม่ การตลาดแบบเดิมๆ ไม่อาจใช้งานได้อีก การตลาดยุคใหม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญในงานด้านการตลาดยุคใหม่นี้จะมีความได้เปรียบมาก ซึ่งการทำงานด้านนี้นอกจากต้องเป็นคนที่อัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ อัพเดทข้อมูลข่าวสารต่อเนื่อง ต้องมีไอเดียแปลกแหวกแนวที่น่าสนใจ

ซึ่งมีหลายคณะที่เปิดสอนเช่น คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการตลาด ,คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด,คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาการตลาด ,คณะการจัดการและการท่องเที่ยว สาขาการตลาด เป็นต้น

6.วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมข้อมูล

2

ภาพจาก https://www.freepik.com/

สังคมยุคใหม่เป็นสังคมแห่งข้อมูลข่าวสาร ซึ่ง Data จะมีความสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ต่างๆ ได้ แน่นอนว่าการเรียนเพื่อสร้างสรรค์ความรู้ในสายวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมข้อมูลจะช่วยทำให้เราไม่เสี่ยงตกงาน การเรียนรู้ในสายนี้จะเน้นไปที่ เครื่องมือทางปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) , ศาสตร์ด้านคณิตศาสตร์ สถิติ คอมพิวเตอร์ รวมถึงนวัตกรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ เมื่อจบหลักสูตรนี้ไป เป็นได้ทั้งนักวิเคราะห์ข้อมูล วิศวกรข้อมูล หรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นอาชีพที่ในตลาดต้องการทั้งสิ้น

7.เรียนสายอาชีพ

1

ภาพจาก https://bit.ly/3C9HeMD

ข้อดีของสายอาชีพคือ มีความรู้เฉพาะด้านแน่น ไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยก็สามารถทำงานได้เลย สอบราชการก็ได้ โดยหลักสูตรหลักของสายอาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เป็นระดับการฝึกวิชาชีพระดับพื้นฐานในงานสายอาชีพนั้นๆ เมื่อเรียนจบก็นำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพได้ และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เป็นระดับความรู้ที่สูงขึ้นจาก ปวช. เน้นความรู้เฉพาะด้านมากขึ้น ผู้เรียนก็จะมีความรู้ความชำนาญพิเศษมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาต่อได้ถึงระดับสูงสุดเท่ากับการศึกษาสายสามัญคือ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เช่น สาขาบัญชี สาขาการโรงแรม เป็นต้น

อย่างไรก็ดีไม่ว่าเราจะเลือกเรียนสาขาไหน หรือคณะใด ต้องนึกเสมอว่าโลกยุคนี้ได้เปลี่ยนไปคนที่เก่งแต่ในตำราไม่อาจประสบความสำเร็จได้จริง คนที่มีประสบการณ์และเคยผ่านการทำงานมาแล้วจะได้เปรียบมากกว่า องค์กรหลายแห่งต้องการคนที่ทำงานเป็นไม่ใช่คนที่มีแต่ความรู้

ดังนั้นในขณะที่เราเรียนหรือศึกษาอยู่ควรเพิ่มโปรโฟต์ตัวเองด้วยผลงานต่างๆ เช่นการส่งงานเข้าประกวด หรือการไปฝึกทำงานในสถานที่จริง และหากเป็นไปได้ไม่ควรมีทักษะด้านเดียวแต่ควรมีทักษะที่สองเช่นการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตประสบความสำเร็จและรับประกันว่าชีวิตนี้ไม่มีคำว่าตกงานแน่นอน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3c78yAt , https://bit.ly/30gOXvq , https://bit.ly/3ol7sqC , https://bit.ly/3kq6Xur , https://bit.ly/3BYVcRy , https://bit.ly/3Hc5G3J

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Cl6CPA

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
  • การปฎิบัติงาน
  • สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  • ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
  • เงื่อนไขอื่นๆ
  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด