ฟาสต์ฟู้ด A&W แบรนด์ดีที่คนว่าจะปัง แต่ยังเจ๊งในไทย
ถ้าพูดถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันที่เข้ามาเปิดตลาดในไทยแบรนด์แรกๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกไปถึง เคเอฟซี แมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์คิง แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันแบรนด์แรกที่เข้ามาในไทย
นั่นคือ ฟาสต์ฟู้ด A&W เปิดสาขาแรกที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปี 1983 (พ.ศ.2526) ก่อนขยายสาขาไปถึง 37 สาขาในปี 2018 ก่อนปิดตัวในไทยปี 2022 จากปัญหาผลประกอบการขาดทุนสะสมยาวนานในไทย โดยในปี 2021 ขาดทุนถึง 70 ล้านบาท เรื่องราวของ A&W มีจุดเริ่มต้นอย่างไร? ทำไม่ถึงไม่ประสบความสำเร็จในไทย มาดูกัน!
จุดเริ่มต้น A&W
ฟาสต์ฟู้ด A&W มีต้นกำเนิดในห้องทดลองของนักเคมีคนหนึ่ง เธอได้คิดค้นสูตร Root Beer จากส่วนผสมของสมุนไพร เครื่องเทศ เปลือกไม้ และเบอร์รี่ต่างๆ รวม 14 อย่าง ก่อนที่ Roy Allen จะมองเห็นโอกาสและซื้อสูตรไปทำขาย เปิดร้านแห่งแรกในปี 1919 ตอนนั้น Roy Allen ได้นำไปขายในขบวนพาเหรดเพื่อสดุดีทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้รับความสนใจอย่างมาก
ปี 1922 Roy Allen ตัดสินใจเปิดร้าน Root Beer แห่งแรกในแคลิฟอร์เนีย ร่วมกับ Frank Wright อดีตพนักงานร้านสาขาแรก มาเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านสาขา 2 ที่เมือง Stockton ก่อนขยายสาขาไปทั่วเมือง Sacramento (แชคราแมนโต) โดยนำอักษรย่อนามสกุลของทั้ง 2 มาเป็นชื่อร้าน A&W Root Beer (Allen & Wright) ในปี 1925 และขายแฟรนไชส์ A&W ตั้งแต่นั้นมา หลังจาก A&W Root Beer ได้รับความสนใจและขยายสาขาในแคลิฟอร์เนียมากขึ้น
ปี 1927 J. Willard Marriott และภรรยา มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ A&W Root Beer ไปเปิดที่ Washington D.C. ถือเป็นแฟรนไชส์ซีรายแรก มีการปรับตกแต่งร้านใหม่ ให้บริการลูกค้าทั้งเมนูอาหารคาว
และเปลี่ยนชื่อจาก A&W Root Beer เป็น Hot Shoppes ให้เข้ากับเมนูอาหาร เมื่อผสานระหว่าง Root Beer กับเมนูอาหารใหม่ๆ ทำให้ร้าน Hot Shoppes ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก จนต้องขยายสาขาเพิ่ม จนกระทั่งปี 1957 กลุ่มทุน Marriott ได้ผันตัวเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมเต็มตัว และกลายเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมในตอนนี้
พอมาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แฟรนไชส์ A&W Root Beer มีสาขาเปิดใหม่มากมายในสหรัฐอเมริกา ปัจจัยหนึ่งมาจากกฎหมายทหารผ่านศึก ชื่อ GI Bill ให้สิทธิประโยชน์แก่ทหารผ่านศึกมาแลกเปลี่ยนนำเงินมาซื้อแฟรนไชส์ A&W Root Beer
ในช่วงปี 1950-1970 คนอเมริกันร่ำรวยขึ้นมีการซื้อรถยนต์มากขึ้น ทำให้แฟรนไชส์ A&W Root Beer ปรับรูปแบบร้านเป็น Drive-In ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถเพื่อซื้ออาหาร
เมื่อกาลเวลาผ่านไป A&W Root Beer ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น A&W Restaurant มีการจำหน่ายอาหารคาวหวาน มีเครื่องดื่ม Root Beer และ วาฟเฟิล เป็นตัวชูโรงดึงดูดลูกค้า ก่อนที่จะขยายสาขาไปทั่วโลก ไม่ว่าจะในภูมิภาคเอเชีย เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ รวมถึงไทย ถือเป็นร้านอาหารสัญชาติอเมริกันรายแรกๆ ออกไปเปิดสาขานอกสหรัฐอเมริกา
A&W ในไทย
A&W ในไทยอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPPG ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ในปี 2019 โดย A&W สาขาแรกเปิดที่เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ปี 1983 ถือเป็นแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดแรกที่เข้ามาเปิดตลาดในไทย หลังจากนั้นมีการขยายสาขาต่อเนื่อง ทำเลส่วนใหญ่ในปั๊มน้ำมัน
ปี 2018 ร้าน A&W ในไทยมี 37 สาขา แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
- รูปแบบ Full Restaurant มี 31 สาขา ส่วนใหญ่เปิดให้บริการตามปั๊มน้ำมัน ปตท.
- รูปแบบเร่งด่วน A&W Express มี 6 สาขา แบ่งเป็น 3 สาขาใน Metro Mall พื้นที่ค้าปลีกรถไฟใต้ดิน สถานีเพชรบุรี, สุขุมวิท, พระราม 9 และอีก 3 สาขาที่แฟชั่น ไอส์แลนด์, ศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 อโศก และ เดอะสตรีท รัชดา
มีเมนูชูโรงอย่าง “ไก่ทอด – รูทเบียร์ – วาฟเฟิล – เคอร์รี่ฟรายส์” เป็นเมนูเอกลักษณ์เฉพาะร้าน A&W
ถัดมาในปี 2020 ร้าน A&W เหลือสาขาในไทยทั้งหมด 24 สาขา ในกรุงเทพฯ ราวๆ 22 สาขา ส่วนสาขาที่เหลือกระจายตัวในต่างจังหวัด ก่อนจะปรับมาให้บริการแบบ Food Truck แทน หลังจากนั้นสาขาต่างๆ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งปี 2022 แฟรนไชส์ A&W แบรนด์ฟาสต์ฟู้สัญชาติอเมริกัน ภายใต้บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 มีนาคม 2022 ถึงผลประกอบการปี 2021 มีรายได้ 1,862.27 ล้านบาท ขาดทุน 166.63 ล้านบาท
หนึ่งในธุรกิจที่ขาดทุนหนัก คือ ร้านอาหาร A&W ขาดทุนต่อเนื่องยาวนานจากโควิด ในปี 2021 ขาดทุนถึง 70 ล้านบาท
สำหรับงบกำไร-ขาดทุน บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ย้อนหลังปีงบการเงิน 2018 – 2020 มีดังนี้
- ปี 2018 รายได้รวม 439 ล้านบาท ขาดทุน 314 ล้านบาท
- ปี 2019 รายได้รวม 472 ล้านบาท กำไร 15.6 ล้านบาท
- ปี 2020 รายได้รวม 484 ล้านบาท ขาดทุน 13 ล้านบาท
ปัจจัยทำให้ A&W ไม่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
- ไม่ค่อยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ A&W ผ่านโซเชียลมีเดียมากนัก เมื่อเทียบกับแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ ใน เช่น เคเอฟซี, แมคโดนัลด์, เบอร์เกอร์คิง ที่มีการตลาดที่แข็งแกร่ง ออกโปรโมชันและเมนูใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้กลับไปลิ้มลองตลอดเวลา
- สาขาน้อย เข้าถึงยาก สังเกตให้ดี A&W มักเปิดขายในพื้นที่ปริมณฑล และชานเมืองมากกว่าใจกลางเมือง รวมถึงในช่วงเกิดโควิด ทางแบรนด์ไม่ได้มีบริการเดลิเวอรีมากนัก ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้ายาก สาขาขาดรายได้ จนทยอยปิดสาขามาตลอด
- รสชาติอาหารของ A&W มักมีลุกค้าบ่นว่า “อร่อย” กับ “ไม่ถูกปาก” อย่างรูทเบียร์เครื่องดื่มชูโรงของร้าน ก็ไม่ใช่เครื่องดื่มที่ทุกคนจะชอบ รวมถึงเมนูอื่นๆ เช่น เบอร์เกอร์, ไก่ทอด, ชีสสติก เป็นเมนูที่ไม่เด่น ไม่ดึงดูดใจลูกค้า เมื่อเทียบฟาสต์ฟู้ดเจ้าอื่น ๆ
Time Line แฟรนไชส์ A&W Restaurants ในอเมริกา
จากการจัดอันดับแฟรนไชส์ 500 ของนิตยสาร Entrepreneur ในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2025 (2025 Franchise 500 Rank) พบว่า A&W Restaurants ติดอันดับที่ 193 ส่วนอันดับ 1 เป็นของแฟรนไชส์ “ทาโก้ เบลล์”
ก่อตั้งปี 1919
- ขายแฟรนไชส์ปี 1925 (100 ปี)
- ปัจจุบันมี 865 สาขาทั่วโลก (2024)
- บริษัทบริหารเอง 2 สาขา
- แฟรนไชส์ในสหรัฐฯ 449 สาขา
- แฟรนไชส์นอกอเมริกา 414 สาขา
นั่นคือ…เรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจของแบรนด์แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกัน A&W Restaurant ที่ได้ยุติกิจการในประเทศไทย หลังจากขาดทุนต่อเนื่อง 70 ล้านบาทในปี 2564 จากการแข่งขันและกระบาดโควิด-19
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)