รู้จักกับ Invisalign จัดฟันใสที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก
การจัดฟันไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในรอยยิ้มของคุณ แต่ยังจัดเรียงฟันของคุณให้ตั้งตรง เป็นระเบียบ และปรับปรุงการสบฟันของคุณให้ดีขึ้น ส่งผลให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ง่าย สามารถป้องกันโรคทางทันตกรรม เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันสึก โรคข้อต่อขากรรไกร ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปัจจุบันการจัดฟันได้รับความนิยมมาก การจัดฟันแบบติดโลหะแบบเดิมนั้นทั้งเจ็บ ระคายเคือง และยังส่งผลกระทบอย่างสูงต่อบุคลิกภาพ Invisalign เป็นการจัดฟันใสที่ช่วยปรับปรุงรอยยิ้มของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อความมั่นใจของคุณ
Invisalign คืออะไร
Invisalign คือ เป็นการรักษาทางทันตกรรมรูปแบบหนึ่งที่ใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส (Clear Aligner) ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สวมไปบนฟันให้ค่อย ๆ ออกแรงเคลื่อนฟันของไปยังตำแหน่งที่คุณหมอวางแผนเอาไว้อย่างนุ่มนวล และสามารถถอดออกได้เมื่อต้องการทำให้ไม่รบกวนชีวิตประจำวันและบุคลิกภาพของเรา โดยทันตแพทย์จะทำการเปลี่ยนเครื่องมือให้ตามแผนการรักษา ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะไปดูว่าการจัดฟัน Invisalign เหมาะกับใครบ้าง เราขอพาไปรู้จักกับประเภทของ Invisalign เพิ่มเติมกันก่อน ดังนี้
4 ประเภทการจัดฟันใส Invisalign
- Invisalign Express ใช้เครื่องมือจัดฟัน Invisalign ไม่เกิน 7 คู่ ใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือนเหมาะสำหรับที่มีฟันซ้อนเกเพียงเล็กน้อย
- Invisalign Lite ใช้เครื่องมือจัดฟัน Invisalign 8-14 คู่ ใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี เหมาะกับผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อน และอาจจะลืมใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) จนฟันเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
- Invisalign Moderate ใช้เครื่องมือจัดฟัน Invisalign 14-26 คู่ ใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 1 ปีเหมาะกับผู้ที่ไม่เคยจัดฟันมาก่อนหรือมีฟันเกระดับปานกลาง
- Invisalign Comprehensive ใช้เครื่องมือจัดฟัน Invisalign ตั้งแต่ 27 คู่ขึ้นไป และใช้เวลาจัดฟันตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยจัดฟันมาก่อน และฟันมีการเรียงตัวซับซ้อนหรือเกมากเป็นพิเศษ
การจัดฟันใส Invisalign แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
นอกจากฟันเกแล้ว Invisalign ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ ให้กับคุณได้อีก นี่คือตัวอย่างของปัญหาที่ invisalign สามารถแก้ไขได้
- ฟันซ้อนเก ฟันที่ไม่เรียงตัวเป็นระเบียบอาจทำให้เกิดปัญหาในการทำความสะอาดและการเคี้ยวอาหาร
- ฟันห่าง ระยะห่างระหว่างฟันอาจส่งผลต่อความสวยงามและประสิทธิภาพในการเคี้ยว
- ฟันเก ฟันที่เคลื่อนตัวในทิศทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ฟันล่างอยู่หน้าฟันบน หรือฟันบนอยู่หน้าฟันล่าง
- การสบฟันผิดปกติ เช่น crossbite ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคี้ยวและการทำงานของขากรรไกร
ข้อดีในการจัดฟันใส Invisalign
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสนใจเกี่ยวกับการจัดฟันใส Invisalign มากขึ้น เราจึงรวบรวมข้อดีในการจัดฟันใส Invisalign มาให้พิจารณาเพิ่มเติมกัน ดังนี้
- ความสวยงาม เครื่องมือจัดฟันที่ใสและไม่เห็นชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถยิ้มและพูดคุยได้อย่างมั่นใจ
- ความสะดวกสบาย Invisalign สามารถถอดออกได้เมื่อต้องการรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดฟัน ทำให้ผู้ใช้สามารถรักษาความสะอาดของฟันได้ง่ายขึ้น
- ความแม่นยำในการรักษา การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการออกแบบเครื่องมือจัดฟัน ทำให้การเคลื่อนที่ของฟันมีความแม่นยำและคาดเดาได้
- การใช้ชีวิตที่ไม่ถูกรบกวน ไม่มีเหล็กหรือสายลวดที่ทำให้เกิดการระคายเคืองภายในช่องปาก ผู้ใช้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ
- ประหยัดเวลา คุณไม่จำเป็นต้องมาพบคุณหมอทุกเดือนเหมือนการจัดฟันแบบเดิม
สรุป จบทุกปัญหาฟันด้วยการจัดฟันใส invisalign
Invisalign เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การจัดฟันที่ตอบโจทย์ใครหลายคน สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปปรึกษากับคุณหมอได้เลย โดยเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมจาก Invisalign เพื่อความปลอดภัย และควรศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบราคาให้ดีที่สุด รวมถึงเลือกคลินิกที่เดินทางสะดวกไปได้ง่ายด้วย