พาช้อป 10 แฟรนไชส์ไต้หวัน เตรียมเข้าไทย!

ขึ้นชื่อว่าเป็น แฟรนไชส์ไต้หวัน การันตีในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานได้อย่างดี ในเมืองไทยเองตอนนี้ก็มีแฟรนไชส์จากไต้หวันหลากหลายแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดและได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งในงาน TFBO 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 กรกฏาคม 2567 ที่ผ่านมา ในโซนของ Taiwan Pavilion มีไฮไลท์น่าสนใจเพราะมีถึง 10 แบรนด์แฟรนไชส์ที่แว่วๆว่าเตรียมเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย มีแบรนด์ไหนบ้างลองไปติดตามพร้อมกัน

1.Chosen Tea

แฟรนไชส์ไต้หวัน

ภาพจาก www.facebook.com/chosentea.official

แบรนด์แรกนี้เขาขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของ ชาครีมชีส โดยมีเมนูที่ต้องลองคือ White Jade Seal ซึ่งจำหน่ายเพียง 20 แก้วต่อวันเท่านั้น ในส่วนของวัตถุดิบก็ไม่ธรรมดาเพราะผ่านมาตรฐานการตรวจสอบจาก SGS มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแบบ100% ปัจจุบัน Chosen Tea มีสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคในไต้หวัน และกำลังเจรจาทำสัญญาเพื่อเปิดสาขานอกประเทศสาขาแรกที่กรุงเทพ ประเทศไทย เร็ว ๆ นี้ด้วย

2.Mr.Sun

แฟรนไชส์ไต้หวัน

ภาพจาก www.facebook.com/MrSunTea

เป็นแบรนด์ชานมไต้หวันในเครือ Red Sun Tea Group ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปีค.ศ. 1999 และมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านนวัตกรรมและอัตลักษณ์ของการทำเครื่องดื่มประเภทชาที่ให้รสสัมผัสและประสบการณ์อันโดดเด่นและหลากหลาย โดยเฉพาะเมนู Heineken Green Tea ที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 2.5 ล้านแก้วภายใน 6 เดือนแรกของการจำหน่าย ถึงขนาดได้รับฉายาว่า “Edison of the Tea Industry” (โทมัส อันวา เอดิสันแห่งวงการชา)” ถือเป็นอีกธุรกิจร้านชานมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการให้คำปรึกษาแก่ร้านแฟรนไชส์ในไต้หวันกว่า 500 ร้าน และคาดว่าจะเปิดตลาดในประเทศไทยด้วย

3.Kung Fu Tea

แบรนด์ชานมไข่มุกที่มีชื่อเสียงมากเมนูของร้านนี้มีหลากหลายทั้งชานม ชาผลไม้และชาผสมแอลกอฮอล์ โดยมีปรัชญาของร้านคือการมอบความสุขแก่ผู้อื่น สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับเมื่อลงทุนกับ Kung Fu Tea คือการวิเคราะห์พื้นที่ก่อนเปิดร้าน , การฝึกอบรมก่อนเริ่มธุรกิจ , ระบบบริหารจัดการภายในร้าน , การส่งเสริมด้านการตลาด รวมถึงการสนับสนุนด้านวัตถุดิบที่มีคุณภาพให้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน Kung Fu Tea มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลกทั้ง ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น มาเก๊า มาเลเซีย เวียตนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลียและแคนาดา

4.LIKE TEA SHOP

ภาพจาก www.facebook.com/LikeTea.JuiceStation

LIKE TEA SHOP เป็นแบรนด์เครื่องดื่มเน้นเมนูเพื่อสุขภาพ ก่อตั้งในปี 1980 ที่ย่านเซ็นทรัล เมืองไทจง โดยมีเมนูที่คนไต้หวันรู้จักเป็นอย่างดีคือ “ชาดำโต่วเซียง” ซึ่งเป็นเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานระหว่างน้ำนมถั่วเหลืองและชาดำ เป็นสูตรลับเฉพาะของแบรนด์ที่นอกจากอร่อยและยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนี้ LIKE TEA SHOP ได้ส่งเสริมการตลาดให้แบรนด์ฮิตติดตลาดมากขึ้นโดยร่วมมือกับอนิเมชั่นชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นอย่าง “Attack on titan” เพื่อนำตัวการ์ตูนมาเป็นลายของบรรจุภัณฑ์ปัจจุบันยังมีสาขาเฉพาะในไต้หวัน แต่ตอนนี้กำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยเหลือเราขยายธุรกิจในต่างประเทศด้วย

5.NUTTEA

ภาพจาก www.facebook.com/NUTTEAUK

เป็นอีกแบรนด์เครื่องดื่มเน้นสุขภาพจากไต้หวัน เอกลักษณ์คือเป็นเมนูชานมที่แตกต่าง โดยผสมนมกับถั่ว 5 ชนิดและผลไม้สดเข้าด้วยกันมีรสชาติเข้มข้นและนุ่มๆทำเป็นฟองนมเพื่อตอบสนองต่อผู้รักสุขภาพ แม้แต่ผู้ที่แพ้นมวัว แพ้แลคโตส และ มังสาวิรัติ ก็สามารถทานได้ มีสินค้าขายดี คือ ชานมถั่วแดงไต้หวัน ชานมถั่วดำแบบไอศครีม ชานมถั่วช็อคโกแลต ปัจจุบันนอกจากสาขาในไต้หวันแล้ว NUTTEA ยังมีสาขาในอีกหลายประเทศเช่น ฮ่องกง , มาเก๊า , สิงคโปร์ , อังกฤษ , ออสเตรเลีย , แคนาดา และพร้อมจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยในอนาคต

6.Mister wheel

ภาพจาก www.facebook.com/misterwheelsingapore

Mister wheel เป็นแบรนด์เบเกอรี่จากไต้หวัน สินค้าขายดี คือ เค้กถั่วแดงที่เป็นขนมดั้งเดิมของไต้หวัน มีหลายไส้ให้เลือกได้ตามต้องการ เช่น คัสตาร์ส ถั่วแดง โมจิ ถั่วลิสงกับงา เผือก ช็อกโกแลต ชานมเอิร์กเกรย์ เป็นต้น และยังมีจุดเด่นคือสามารถออกแบบโลโก้ของตัวเองได้ เพื่อนำไปใช้จัดในงานเลี้ยงหรืองานสัมมนา พิธีสำคัญ โดยมีแบรนด์ชั้นนำหลายบริษัทที่มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนอกจากในไต้หวันยังมีอีกหลายสาขาในต่างประเทศเช่น สิงคโปร์ , มาเลเซีย

7.JHU JIAN

ภาพจาก www.facebook.com/jhujianspicyhotpot

เป็นแบรนด์ร้านชาบูที่รสชาติอร่อยมาก จุดเด่นคือซุปหม้อไฟหินที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมและเฉพาะตัว ซึ่งทั้งเป็นวัตถุดิบที่สด ใหม่ ได้มาตรฐาน รวมถึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพเช่น เช่น taiwan Soft Power , A Design Award , APEA Asia Pacific Enterprise Awards เป็นต้น ปัจจุบันนอกจากมีสาขาในไต้หวันยังมีสาขาในฮ่องกง และพร้อมลงทุนขยายสาขาไปในอีกหลายประเทศทั่วโลก

8.MORE WARM

ภาพจาก www.facebook.com/morewarm99

MORE WARM เป็นอีกแบรนด์เบเกอรี่ชื่อดังของไต้หวัน มีเมนู Signature คือ ไทยากิรสเค็มและหวาน ที่ทำจากวัตถุดิบพิเศษในท้องถิ่นของไต้หวัน เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นได้ไม่ยาก ใช้พนักงานไม่มาก เพียงแค่ 2 คนก็เปิดร้านได้ ประหยัดต้นทุนด้านบุคลากรได้อย่างดี พร้อมกันนี้ผู้สนใจลงทุนจะได้รับการฝึกอบรมก่อนเปิดร้าน , มีทีมงานช่วยวางแผนการตลาด ปัจจุบันมีการขยายสาขาในหลายพื้นที่ทั่วไต้หวัน

9.Moon met mountain Shawarma

ภาพจาก www.facebook.com/MoonMetMountain

สำหรับใครที่สนใจอยากลงทุนเปิดร้านเคบับ แนะนำว่า Moon met mountain Shawarma เป็นอีกแฟรนไชส์จากไต้หวันที่น่าสนใจ เมนูขายดีคือ Shawarma (เคบับหมุน) ซึ่งได้มีการพัฒนารสชาติให้เข้ากับสไตล์ของคนเอเชีย ถือเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จยาวนาน ก่อตั้งมากว่า 35 ปี ปัจจุบันมีกว่า 40 สาขาในไต้หวัน

10.Chyuan Fa Honey

ภาพจาก www.facebook.com/ChyuanFa

เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่เน้นสุขภาพเป็นสำคัญ โดย Chyuan Fa Honey ก่อตั้งเมื่อปี 1919 มี โรงงานน้ำผึ้งเป็นของตัวเองเพื่อผลิตน้ำผึ้ง ทั้งแบบขายปลีกและแบบขายส่ง โดยมีการวางจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ และเป็นโรงงานน้ำผึ้งไม่กี่แห่งในไต้หวันที่ผลิตและจำหน่ายน้ำผึ้งด้วยตัวเอง นอกจากน้ำผึ้งยังมีผลิตภัณฑ์อื่นเกี่ยวกับผึ้งพร้อมให้บริการ เช่น รังผึ้ง , แคปซูลสารสกัดจากตัวอ่อนผึ้ง ,ขี้ผึ้ง , สเปรย์โพรโพลิส นมผึ้ง (Royal Jelly) และเกสรผึ้ง เป็นต้น

และทั้งหมดนี้คือ 10 แฟรนไชส์ไต้หวัน ที่น่าสนใจ โดยจะเห็นว่าแต่ละแบรนด์มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในตัวเอง แน่นอนว่ามีจุดขายที่พร้อมต่อยอดสร้างรายได้ให้ผู้ลงทุนได้อย่างดี ใครที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงควรศึกษาการตลาดเป็นอย่างดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่มุ่งสู่ความสำเร็จได้อย่างสูงสุด

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด