ปิงฉุน รุกตลาดเครื่องดื่มเมืองไทย ตั้งเป้าขยายสาขา 200 แห่งทั่วประเทศ

ปี 2567 ตลาดเครื่องดื่มเมืองไทยคึกคักเป็นพิเศษ แต่ละแบรนด์ต่างมีการพัฒนาเมนูใหม่ บริการใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ถ้าดูในเรื่องของตัวเลขพบว่าปี 2567 มูลค่าประมาณ 26,250 ล้านบาท และคาดว่าในปี2568 ตลาดชานมรวมทั่วโลกจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.43 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นทิศทางของธุรกิจที่ยังเติบโตอีกมาก

ปิงฉุน

มองในแง่ดีเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะได้เจอสินค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะแบรนด์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และชาผลไม้จากจีนที่กำลังได้รับความสนใจจากคนไทย ซึ่ง “ปิงฉุน” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีเมนูอร่อยให้เลือกเยอะมากและใช้เงินลงทุนน้อย มาพร้อมระบบบริหารจัดการที่พร้อมให้เปิดร้านได้ทันที ในช่วงปลายปีแบบนี้ใครที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง สามารถเลือกลงทุนได้ มีทีมงานพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี

ปิงฉุน มีสาขาในเมืองจีนกว่า 1,500 แห่ง

ปิงฉุน
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

ปิงฉุน แบรนด์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ชาผลไม้ ชานม โดยบริษัท Catering Management Co., Ltd. ก่อตั้งเมื่อปี 2012 ในมณฑลเหอหนาน ก่อนขยายสาขาไปยังมณฑลต่างๆ เช่น เหอเป่ย ซานตง ซานซี ส่านซี อานฮุย กุ้ยโจว ยูนนาน

เหลียวหนิง ซินเจียง และเมืองอื่นๆ สินค้าหลักในช่วงแรกคือ Fruits Jasmine Milk Tea และได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องมาเป็นลำดับ โดยให้วามสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นอย่างดี ทุกเมนูมีการคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างดี และได้การตอบรับจากลูกค้ามากขึ้นต่อเนื่อง ในเดือนธันวาคม 2022 ปิงฉุนมีสาขาในเมืองจีนกว่า 1,500 แห่ง และเพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นจึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาสินค้าและบริการอีก 8 แห่ง เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างครบวงจรมากขึ้น

ปิงฉุน
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

นอกจากนี้ยังเปิดตลาดในต่างประเทศร่วมด้วยและขยายมาที่ประเทศไทย เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2567 ภายใต้การบริหารของบริษัท ปิงฉุน ฟู้ด แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ และเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ อุดรธานี (ตรงข้าง รพ.กรุงเทพอุดร), เชียงใหม่ (เข้าซอยยูนิลอฟ) และ ห้างยูเนี่ยนมอลล์ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ปิงฉุน ใช้ตัวมาสคอตเป็น “วัวกระทิง” การออกแบบร้านใช้โทนสีฟ้า ขายเมนูไอศกรีมและชาผลไม้เริ่มต้น 15-50 บาท เน้นสินค้าราคาไม่แพง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดี และให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติและบริการที่ดีด้วย

รวมจุดเด่น “ปิงฉุน” ทำไมควรเลือกลงทุน!

ปิงฉุน
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

หากวิเคราะห์กันตามจริง ปัจจุบันตลาดชานมมีแบรนด์ให้เลือกลงทุนเยอะมาก ทั้งของไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่าง เช่นเดียวกับ “ปิงฉุน” ที่แม้จะเข้ามาเปิดตลาดใหม่ในเมืองไทย แต่ก็น่าสนใจและมาแรงมากโดยมีจุดเด่นที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุนคือ

  • เป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบและบริการเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการแข่งขันในยุคนี้
  • ค่าใช้จ่ายในการเริ่มธุรกิจน้อยกว่าถ้าเทียบกับแบรนด์ในกลุ่มเดียวกัน
  • มีโรงงานผลิตวัตถุดิบของตัวเองทำให้มีต้นทุนในการบริหารจัดการที่ได้เปรียบคู่แข่ง
  • ลงทุนน้อย คืนทุนไว มีโอกาสขยายสาขาทั่วประเทศได้มาก
  • การวางระบบบริหารจัดการ ให้พร้อมเปิดร้านโดยมีทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นจนเปิดร้านได้
  • มีสินค้าให้เลือกหลากหลายทั้งกลุ่มไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ , ชาผลไม้ , ชานม
  • เป็นสินค้าที่มีความต้องการของลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยิ่งทำเลดี ยิ่งขายดีมาก

ทั้งนี้ ปิงฉุน ใช้กลยุทธ์สนับสนุนให้เปิดร้านด้วยต้นทุนต่ำและรวดเร็ว เช่นเดียวกับในจีน เพื่อให้ผู้ที่ร่วมลงทุนสามารถคืนทุนได้เร็วขึ้น และมีอัตรากำไรสูงขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนในการเปิดร้าน 9 ประการ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถเปิดร้านได้

งบลงทุนเพียง 845,000 บาท เปิดร้านได้ทันที

ปิงฉุน
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

ทั้งนี้การลงทุนกับ ปิงฉุนเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจด้วยรูปแบบร้าน สินค้า และบริการที่มีความโดดเด่น โดยรูปแบบการลงทุนของ ปิงฉุน จำแนกเป็นรายละเอียดดังนี้

  • ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการดูแล 25,000 บาท/ปี
  • ค่าออกแบบ+ค่าอบรม+ค่าตรวจสอบประเมินพื้นที่ 20,000 บาท
  • ค่ามัดจำ 10,000 บาท
  • วัตถุดิบชุดแรก 200,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์เครื่องมือ 450,000 บาท
  • ค่าตกแต่งตามขนาดพื้นที่ของร้าน
  • เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (ตามความต้องการของผู้ลงทุน)

รวมงบลงทุนประมาณ 845,000 บาท (เป็นงบลงทุนเริ่มต้น โดยขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและทำเลที่เปิดร้าน)

เป้าหมายปี 2568! ขยายสาขา 200 แห่งทั่วประเทศ

ปิงฉุน
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

ปัจจุบันปิงฉุน มีสาขาในเมืองไทย 14 แห่ง โดยยึดหลักมั่นในแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยและราคาย่อมเยาว์ ใช้กลยุทธ์การเปิดร้านที่มีต้นทุนต่ำ และให้บริการและคำแนะนำอย่างครบวงจรแก่ผู้ร่วมลงทุน เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ และผู้ร่วมลงทุนได้รับผลกำไร ในบรรดา 14 สาขาที่เปิดอยู่ในหลายพื้นที่ ภาพรวมสามารถสร้างรายได้ดีและมีระยะเวลาคืนทุนเป็นไปตามที่คาดหวัง

ทั้งนี้ปิงฉุน วางแผนที่จะขยายสาขาในประเทศไทยให้ครบ 200 สาขา พร้อมลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์ปฏิบัติการแบรนด์ และศูนย์วิจัยและพัฒนา โดยมีฐานการดำเนินงานที่มั่นคงในตลาดไทยเพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน

สำหรับผู้สนใจลงทุนกับปิงฉุนวิธีการไม่ยุ่งยาก เพียงติดต่อเข้ามาที่บริษัทโดยมีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาตั้งเริ่มต้น ติดปัญหาตรงไหน หรือว่าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ทุกปัญหาทีมงานพร้อมช่วยเหลือผู้สนในใจลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งปิงฉุนต้องการสร้างอาชีพให้กับคนไทยได้มีรายได้มากขึ้น

และธุรกิจนี้ยังมีอัตราการเติบโตได้อีกมาก ยิ่งบริหารดี ยิ่งทำเลดี โอกาสสร้างรายได้ก็มีมาก เพราะความต้องการของลูกค้ามีต่อเนื่อง และปิงฉุนก็พร้อมสนับสนุนในทุกด้านไม่ว่าจะระบบบริหารจัดการ , การตลาด , การฝึกอบรม รวมถึงการพัฒนาเมนูใหม่ให้อย่างต่อเนื่องด้วย

ปิงฉุน
สนใจลงทุน คลิก
https://bit.ly/4f1nRK6
โทร. 092-7105167, 080-0089900

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด