ประโยชน์ของที่วัดอุณหภูมิร่างกาย เครื่องมือที่ควรมีติดบ้าน

ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสภาพอากาศที่มีความแปรปรวน ปัญหามลพิษทางอากาศ รวมถึงฝุ่นละออง PM 2.5 ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

จนเกิดอาการป่วยไข้ได้ง่าย การมีที่วัดอุณหภูมิร่างกายติดบ้านไว้ก็จะช่วยให้ประเมินอาการป่วยได้ในเบื้องต้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนได้อีกด้วย ไปดูกันว่าที่วัดอุณหภูมิร่างกายมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง

หลักการทำงานของที่วัดอุณหภูมิร่างกาย

ที่วัดอุณหภูมิร่างกายเป็นเครื่องมือที่ช่วยตรวจวัดว่าขณะนั้นร่างกายมีอุณหภูมิเท่าไร อยู่ในระดับปกติหรือไม่ หรืออุณหภูมินั้นสูงกว่าปกติ สำหรับหลักการทำงานคร่าว ๆ ของที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิตอลจะทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ความต้านทาน โดยวงจรอิเล็กทรอนิกส์จะวัดความต้านทานและแปลงค่าเป็นอุณหภูมิ เพื่อแสดงผลให้ทราบ ปกติแล้วที่วัดอุณหภูมิร่างกายแบบดิจิตอลจะใช้เซ็นเซอร์แบบเทอร์โมรีซิสเตอร์ หรือ เทอร์มิสเตอร์ เพราะมีความแม่นยำสูง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของที่วัดอุณหภูมิมีอะไรบ้าง

ที่วัดอุณหภูมิร่างกายหลัก ๆ แล้วก็จะใช้วัดอุณหภูมิในร่างกาย เพื่อตรวจว่าอุณหภูมิอยู่ในระดับปกติหรือไม่ จำเป็นต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาไหม นอกจากนี้เครื่องวัดอุณหภูมิยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ดังนี้

คัดกรองอาการในเบื้องต้นได้

ในปัจจุบันมีโรคระบาดมากมาย ทั้งโรคระบาดในผู้ใหญ่ และโรคระบาดในเด็กเล็ก ซึ่งอาการส่วนใหญ่ก็จะมีไข้ แต่ละโรคอาจจะมีอาการของไข้ที่แตกต่างกันออกไป การมีที่วัดอุณหภูมิร่างกายจึงสามารถช่วยคัดกรองอาการในเบื้องต้นได้ว่ามีไข้ในระดับใด

ช่วยให้รู้อาการป่วยได้เร็ว

เมื่อเกิดอาการปวดเมื่อย รู้สึกเพลีย หลาย ๆ คนก็อาจจะเข้าใจว่าแแค่รู้สึกเหนื่อยเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วอาการที่แสดงออกมาเหล่านั้นอาจเป็นอาการป่วยไข้ได้ หากไม่มีการวัดอุณหภูมิร่างกายก็จะทำให้ไม่รู้เลย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ ก็จะยิ่งเป็นเรื่องยาก การใช้ที่วัดอุณหภูมิจึงช่วยให้รู้ได้เร็ว และสามารถเตรียมตัวในการรับมือ และบรรเทาอาการไข้ในเบื้องต้นได้ เพื่อไม่ทำให้อาการรุนแรงขึ้น

ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน

โดยปกติแล้วอุณหภูมิในร่างกายปกติของคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 36.5–37.5 องศาเซลเซียส แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น อาจเกิดจากความร้อนสะสมภายในร่างกาย แต่จะค่อย ๆ ลดลงได้เอง แต่หากตัวร้อนอย่างต่อเนื่องร่างกายอาจมีไข้ ซึ่งการใช้ที่วัดอุณหภูมิร่างกายตรวจวัดไข้จะช่วยให้ได้ผลที่มีความแม่นยำ เมื่อไข้สูงมาก ๆ ตั้งแต่ 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หากไม่รีบทำการลดไข้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น หายใจเหนื่อยหอบ ชักเกร็ง การตรวจไข้เป็นประจำจึงมีส่วนช่วยในการลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้เป็นอย่างดี

วางแผนการรักษาได้ในเบื้องต้น

เมื่อไม่สบายหรือป่วยสิ่งแรกที่ควรทำคือการวัดอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อประเมินอาการไข้ในเบื้องต้น หากไข้ไม่สูงมาก ควรเช็ดตัว ใช้เจลเย็น หรือกินยา เพื่อบรรเทาอาการ แต่เมื่อตรวจวัดแล้วไข้ค่อนข้างสูงควรรีบปรึกษาคุณหมอ การวัดอุณหภูมิจึงช่วยสามารถวางแผนในการรักษาในเบื้องต้นได้นั่นเอง

วิธีใช้งานที่วัดอุณหภูมิร่างกายที่ถูกต้อง

• ไม่ควรรับประทานยาลดไข้ก่อนใช้ที่วัดอุณหภูมิ เพราะจะไม่ทำให้ได้อุณหภูมิที่แท้จริง
• หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ เพราะจะทำให้อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลง
• ควรวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณที่ผิวแห้ง เพื่อช่วยให้ได้อุณหภูมิที่มีความถูกต้อง แม่นยำ
• หากตรวจวัดอุณหภูมิทางปาก ควรหลีกเลี่ยงการวัดทันทีหลังรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ต้องรออย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
• เมื่อใช้ที่วัดอุณหภูมิร่างกายวัดทางทวารหนัก จะต้องมีการค่าเชื้ออุปกรณ์ก่อน พร้อมทั้งทาสารหล่อลื่น เพราะลดการเสียดสีที่อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้

สรุป

การวัดอุณหภูมิเป็นการประเมินอาการในเบื้องต้นว่ามี ภาวะไข้ หรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรค การวัดอุณหภูมิจึงมีส่วนช่วยในการติดตามอาการ วางแผนการรักษาในเบื้องต้น เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน การมีที่วัดอุณหภูมิติดบ้านไว้ จึงช่วยให้คุณสามารถติดตามอาการของตัวเองและคนในครอบครัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่พลาดสัญญาณเตือนของอาการป่วยไข้ อีกทั้งยังช่วยปกป้องครอบครัว และคนที่คุณรักในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว

ที่วัดอุณหภูมิจึงถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในปัจจุบัน ที่บ้านไหน ๆ ก็ต้องมีติดบ้านกันไว้ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มีที่วัดอุณหภูมิร่างกาย และใครกำลังมองหาที่วัดอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานง่าย ที่วัดอุณหภูมิร่างกายของ OMRON ถือเป็นเครื่องมือที่สามารถวัดอุณหภูมิได้เร็ว ใช้งานง่าย อีกทั้งยังจับถนัดมือ ที่สำคัญที่วัดอุณหภูมิของ OMRON ยังมีให้เลือกใช้ทั้งเทอร์โมมิเตอร์แบบแท่ง เทอร์โมมิเตอร์วัดทางหน้าผาก และเทอร์โมมิเตอร์วัดทางหู