บันนี่เชคคาเฟ่ แฟรนไชส์ยอดฮิตชานมไต้หวัน+ซูเฟล่ กำไรหลักแสนต่อเดือน
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นความยากลำบากในการหารายได้ ในการสร้างธุรกิจอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดโควิด 19 ที่นับถึงตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงต่อเนื่อง ดังนั้นเคล็ดลับในการลงทุนที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี เลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม ลงทุนกับธุรกิจที่มีประสบการณ์
ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าธุรกิจใดก็ตามที่เริ่มต้นในช่วงนี้และก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้จะกลายเป็นธุรกิจที่แข็งแรงและมีโอกาสสร้างรายได้ในอนาคตมากขึ้น โดยบันนี่เชคคาเฟ่ ถือเป็นอีกแฟรนไชส์ที่เริ่มธุรกิจในยุคโควิด สวนกระแสที่หลายคนไม่กล้าเปิดร้าน ไม่กล้าลงทุน แต่บันนี่เชคมองว่าในวิกฤติย่อมมีโอกาส และทุกวันนี้บันนี่เชคคาเฟ่ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ยอดฮิตที่มีคนสนใจลงทุนจำนวนมาก แน่นอนว่าเรื่องรายได้ถือว่าคุ้มค่าและน่าลงทุนที่สุดในยุคนี้
บันนี่เชคคาเฟ่ เริ่มต้นจากร้านชานมไข่มุกในตลาดศรีราชา
ปี 2562 ในช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาดโควิด 19 ร้านบันนี่เชค ได้เริ่มดำเนินกิจการครั้งแรกในตลาดศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุผลที่ตัดสินใจแบบสวนกระแสเพราะมองว่า การลงทุนไม่ว่าจะช่วงไหนต่างมีความเสี่ยง สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการ และการวางแผนรับมือปัญหา ซึ่งสินค้าประเภทเครื่องดื่มนับว่ามีความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง ในช่วงที่คนอื่นอาจไม่กล้าลงทุน หากมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ธุรกิจก็จะเดินหน้าได้ ทำให้เกิดเป็นหน้าร้านบันนี่เชคที่ช่วงแรกเน้นขายเมนูเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว มียอดขายประมาณ 100-200 แก้วต่อวัน
และเมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์เริ่มเป็นที่คุ้นหู ทางร้านจึงต้องการเพิ่มเมนูให้มีความน่าสนใจและเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น ตัดสินใจเลือกซูเฟล่ ที่มีลักษณะนุ่ม ฟู และมีเนื้อเบา จนรู้สึกเหมือนละลายในปาก ซึ่งความหมายของคำว่าซูเฟล่ในภาษาฝรั่งเศสก็หมายถึง การตีให้เป็นฟองหรือทำให้พองฟู อันเป็นลักษณะเด่นของเมนูนี้ หลังจากที่ได้พัฒนาจนกลายเป็นสูตรเฉพาะ และเปิดขายคู่กับเมนูเครื่องดื่มก็ยิ่งทำให้บันนี่เชคกลายเป็นร้านยอดฮิตที่มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
ปรับกลยุทธ์การขาย เน้นเดลิเวอรี่มากขึ้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม้ลูกค้าจะมีความต้องการสินค้ามาก ในขณะนั้นที่ร้านบันนี่เชคมีบริการนั่งทานที่ร้านได้ แต่ด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดที่ประกาศ ทำให้ร้านค้าหลายแห่งไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งบันนี่เชคเองก็แก้ปัญหาด้วยการพัฒนาแพคเกจเป็นกล่องที่มีความสวยงาม และเน้นการขายแบบ Take away และเดลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าได้ผลที่น่าพอใจสามารถสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามแม้ในระยะหลังการแพร่ระบาดโควิดจะมีมาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้นแต่พฤติกรรมผู้บริโภคก็ได้เปลี่ยนไปสิ้นเชิงเช่นกันด้วยเหตุนี้การทำธุรกิจของบันนี่เชคจึงมุ่งเน้นในการสร้างรายได้ทุกทาง ไม่เน้นแค่การขายหน้าร้าน จึงมีบริการเดลิเวอรี่มากขึ้น และรูปแบบการขายลักษณะนี้ก็พร้อมจะถ่ายทอดไปถึงคนลงทุนแฟรนไชส์เพื่อให้ทุกการลงทุนนั้นคุ้มค่าและมีรายได้มากขึ้น
แฟรนไชส์บันนี่เชคคาเฟ่ สร้างกำไรหลักแสนต่อเดือน
สินค้าของบันนี่เชคคาเฟ่คือชานมไต้หวันและเครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงซูเฟล่แพนเค้ก , ขนมครอฟเฟิล , ครัวซอง ได้เริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ครั้งแรกในปี 2563 นับถึงตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศกว่า 21 แห่ง ความน่าสนใจของบันนี่เชคคาเฟ่ คือสินค้ามีจุดเด่นมีเอกลักษณ์ในตัวเอง ที่สำคัญเจ้าของแฟรนไชส์มีประสบการณ์ผ่านช่วงเวลาของการแพร่ระบาดโควิด ทำให้มองทิศทางการลงทุนได้อย่างถูกต้อง สามารถแนะนำคนสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพว่าควรทำแบบไหน ขายอย่างไร เพื่อให้มีรายได้จากการลงทุนดังกล่าว
แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนสนใจและอยากรู้คือรายได้ของการเปิดร้าน ยกตัวอย่างสาขาหลักของบันนี่เชคคาเฟ่ที่เปิดมานาน มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 300,000 บาท โดยหากคิดเป็นกำไรเฉลี่ย 50% จากยอดขาย ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก ในส่วนของแฟรนไชส์ซี่เองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ยกตัวอย่างสาขาที่ลุมพินี ที่อยู่ในทำเลธุรกิจ มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก สาขาแห่งนี้รายได้ต่อเดือนประมาณ 250,000 บาท แต่ทั้งนี้ตัวเลขรายได้เป็นการประมาณการเพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องทำเล , ขนาดร้าน , ค่าเช่า ซึ่งโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าน่าพอใจ กับธุรกิจที่เปิดในช่วงเวลานี้แล้วสามารถมีรายได้หลักแสนต่อเดือนจึงถือเป็นแฟรนไชส์น่าสนใจที่พร้อมสร้างอาชีพให้กับคนไทยในยุควิกฤติได้
แนะนำแพคเกจลงทุน ชานมไต้หวัน + ซูเฟล่แพนเค้ก ราคา 259,000 บาท
แฟรนไชส์บันนี่เชคคาเฟ่ มีแพคเกจลงทุนให้เลือกหลากหลาย ทั้งแพคเกจชานมไต้หวัน , ซูเฟล่แพนเค้ก , น้ำปั่น , ครอฟเฟิลและครัวซอง แต่แพคเกจยอดฮิตที่แนะนำว่าพร้อมสร้างรายได้อย่างคุ้มค่าคือ แพคเกจ ชานมไต้หวัน + ซูเฟล่แพนเค้ก ราคา 259,000 บาท สิ่งที่จะได้รับคืออุปกรณ์พร้อมเปิดร้านกว่า30 รายการ , เมนูอาหารกว่า 50 รายการ ,ส่งเสริมด้าน การตลาด , การฝึกอบรมให้ก่อนเปิดร้าน รวมถึงบริการสมัครเดลิเวอรี่ให้ด้วย ใช้งบการลงทุนรวมค่าก่อสร้างประมาณ 600,000 บาท ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 6 เดือน
สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการลงทุนมีขั้นตอนดังนี้
- ติดต่อแฟรนไชส์บันนี่เชคเพื่อสอบถามรายละเอียดในการลงทุน
- ส่งโลเคชั่นที่ต้องการจะเปิดร้าน เพื่อเช็คระยะไม่ให้ทับซ้อนกัน (ระยะ 5 กิโลเมตร) และวิเคราะห์พื้นที่ในการเปิดร้าน
- เมื่อทำเลผ่านเรียบร้อยกำหนดวางมัดจำ 15,000 บาท
- เริ่มการทำสัญญาแฟรนไชส์ เริ่มการออกแบบและก่อสร้างตามแบบที่ต้องการ
- ในระหว่างจะเริ่มทำการฝึกอบรม สอนเทคนิคการทำเมนูต่างๆ สอนเทคนิคการขาย ใช้เวลาประมาณ 5 วัน หรือจนกว่าจะชำนาญ
- ในวันเปิดร้านมีทีมงานช่วยเหลือในการขาย การเซ็ตระบบในการเปิดร้าน
- มีบริการดูแลหลังการขาย พัฒนาสินค้าใหม่ อัพเดทเมนูใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง
ตั้งเป้าหมายขยายสาขา 40 แห่งทั่วประเทศในปี 2565
ภาพจาก แฟรนไชส์ บันนี่เชคคาเฟ่
ถึงตอนนี้แฟรนไชส์บันนี่เชคคาเฟ่ มีการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารจัดการแบบมืออาชีพที่เอาใจใส่ผู้ลงทุนทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องการให้ทุกคนมีรายได้ที่มากพอจะเลี้ยงตัวเอง และครอบครัว คนที่ได้ลงทุนกับบันนี่เชคคาเฟ่ จึงนับเป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงได้อย่างดี
ทั้งนี้ทางแฟรนไชส์มีเป้าหมายต้องการเติบโตปีละอย่างน้อย 10 สาขา ถึงตอนนี้ตั้งเป้าว่าในปี 2565 จะขยายสาขาให้ครบ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจุดเด่นของบันนี่เชคไม่ได้อยู่แค่สินค้าเท่านั้น แต่คีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตคือวิสัยทัศน์เจ้าของแฟรนไชส์ที่พร้อมเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาใดๆ ก็พร้อมรับมือ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหากผ่านสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดในช่วงนี้ไป บันนี่เชคคาเฟ่ทุกสาขาจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้นด้วย
สนใจลงทุน แฟรนไชส์บันนี่เชคคาเฟ่
โทร. 095-9954229 , 082-5394224 , 082-0552956
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hHCPZq