ถามจริง! คนไทยซื้อแฟรนไชส์ เพราะกระแส หรือ ระบบ?

หลายคนสงสัยว่า ระหว่างซื้อแฟรนไชส์ตามกระแส กับ ซื้อแฟรนไชส์ที่มีระบบการสนับสนุนเป็นอย่างดี แบบไหนดีกว่ากัน และที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ เพราะเป็นธุรกิจกระแสแรง หรือ ซื้อเพราะระบบแฟรนไชส์เขาดี

แฟรนไชส์กระแส

คนไทยซื้อแฟรนไชส์

ผู้ซื้อแฟรนไชส์หลายคนมักพลาด เปิดร้านขายแล้วไปไม่รอด โดยเฉพาะคนที่ซื้อแฟรนไชส์เพราะเห็นว่าช่วงนั้นธุรกิจนี้มาแรง เป็นกระแสโด่งดัง โดยไม่รู้ว่าธุรกิจกระแสอะไรที่มาไวมักไปเร็ว คนไทยเห่อได้ไม่นานก็เบื่อแล้ว

เราจะเห็นได้ว่า ในช่วงที่ผ่านมาอาหารหรือเครื่องดื่มหลายอย่างที่เคยฮิต ตอนนี้เริ่มหายไปจากกระแสแล้ว เช่น โรตีบอย ไอติมทอด เครปเย็น ชา 25 บาท และอื่นๆ ที่ผู้บริโภคเบื่อง่าย ไม่นิยมทานแล้ว แฟรนไชส์ลักษณะแบบนี้มักจะไม่ยั่งยืน อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันสูงอีกด้วยในช่วงแรกๆ เพราะคนคิดว่าเปิดร้านแล้วขายได้แน่นอน

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นกระแสดัง ส่วนใหญ่จะมีข้อเสียตรงที่ไม่มีระบบแฟรนไชส์ที่เป็นมาตรฐาน ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดแล้ว ส่วนใหญ่จะได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์น้อยมาก ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องหาทางเอาตัวรอดเอง ทำการตลาดเอง ขายเอง บางครั้งเจ้าของแฟรนไชส์ส่งวัตถุดิบให้บ้าง ไม่ส่งบ้าง สุดท้ายก็ทะเลาะกัน เจ๊งไปตามกัน

คนไทยซื้อแฟรนไชส์

ตัวอย่าง…แฟรนไชส์ที่เป็นกระแส คนแห่ซื้อแฟรนไชส์

  1. ร้านชาเย็น 25 บาท
  2. หมาล่า
  3. แฟรนไชส์รับส่งพัสดุ
  4. ร้านกาแฟสด
  5. ร้านค้าราคาเดียว
  6. ร้านสะดวกซัก
  7. ลูกชิ้นเชฟอ้อย
  8. ย่างให้
  9. กาแฟถุง
  10. ชานมไข่มุก 19 บาท

แฟรนไชส์ระบบ

คนไทยซื้อแฟรนไชส์

แฟรนไชส์ที่ดีควรมีระบบการช่วยเหลือผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่เป็นที่ปรึกษาด้านทำเล การอมรมพนักงาน ช่วยวางแผนการบริหาร มีคู่มือการปฏิบัติงานที่ชัดเจน ส่งเสริมการขายและตลาด ติดต่อเจ้าของแฟนไชส์ได้เมื่อเกิดปัญหา

แต่ทุกวันนี้แฟรนไชส์จำนวนไม่น้อย เน้นขายสิทธิ์ ขายแบรนด์ ขายสูตร ขายอุปกรณ์ ขายวัตถุดิบ ทั้งขายขาดหรือไม่ขายขาด ไม่ต้องจ่ายค่า Royalty Fee ต่อเดือน ไม่มีระบบช่วยเหลือแฟรนไชส์ซีที่ดีพอ ไม่ช่วยสำรวจทำเล ไม่ให้คำปรึกษาการขาย แถมไม่มีคู่มือปฏิบัติงานให้ มีการเทรนนิ่งให้แค่ก่อนเปิดร้านเท่านั้น

ดังนั้น มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่มีความพร้อมครบวงจร ช่วยให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ได้รับความสะดวก เพิ่มโอกาสเติบโตมากยิ่งขึ้น มีการทำงานอย่างเป็นระบบ มีทีมงานให้การสนับสนุนและดูแลผู้ซื้อแฟรนไชส์ ให้พร้อมทำธุรกิจทั้งก่อนและหลังการขาย มีการสอนงาน มีการเทรนนิ่งทุกขั้นตอน รวมถึงช่วยเหลือด้านการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย

คนไทยซื้อแฟรนไชส์

แฟรนไชส์มีระบบส่วนใหญ่จะสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์ในเรื่องเหล่านี้ ได้แก่

  1. สิทธิใช้แบรนด์และเครื่องหมายการค้า
  2. สิทธิใช้สูตร/ซื้อวัตถุดิบและสินค้าภายใต้แบรนด์
  3. คู่มือการปฏิบัติงานในร้าน
  4. อบรมการบริหารจัดการร้าน
  5. ออกแบบร้าน/เตรียมความพร้อมก่อนเปิดร้าน
  6. ช่วยเหลือช่วงเปิดร้าน/ให้คำแนะนำตลอดอายุสัญญา
  7. จัดกิจกรรมทางการตลาด
  8. พัฒนาสินค้าต่อเนื่องเพื่อสร้างยอดขาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ซื้อแฟรนไชส์มีระบบการสนับสนุนที่ดีและมีมาตรฐานขนาดนี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วน Royalty Fee และ Marketing Fee เป็นรายเดือนให้กับเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ด้วย

คนไทยซื้อแฟรนไชส์

ตัวอย่าง…แฟรนไชส์มีระบบที่ได้รับความนิยมลงทุนในไทย

  • ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
  • คาเฟ่ อเมซอน
  • ธุรกิจ 5 ดาว

สรุปก็คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นกระแส คนแห่ทำตามๆ กัน เห็นเจ้าแรกๆ ทำแล้วรุ่ง ทำแล้วรวย คนหลังๆ มาเห็นเกิดการเลียนแบบ อยากทำแบบเขาบ้าง โดยไม่คิดให้ดี ไม่คำนึงถึงผลกระทบ สุดท้ายเจ๊งตามกันไป

ส่วนแฟรนไชส์มีระบบนั้น แม้จะได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์เป็นอย่างดี แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้น แลกกับการช่วยเหลือจากแบรนด์แฟรนไชส์ ที่ผ่านมาหลายๆ แบรนด์ถ้าเปิดในทำเลไม่ดี ก็มีสิทธิเจ๊งได้เหมือนกันครับ 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช