ตลาดไก่ทอดเดือด! Pelicana แฟรนไชส์ไก่เกาหลีบุกไทย ไม่กลัวเจ้าตลาด

ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา เกาหลี จีน กระโดดเข้ามาแข่งขันในสมรภูมิไก่ทอดอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นตลาดใหญ่สุดมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท หรือราวๆ 58% ของตลาดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหมด โดยมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง KFC ครองส่วนแบ่งตลาดมากสุดถึง 52%

ภายใต้การบริหารของแฟรนไชส์ซี 3 ราย คือ 1.บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) ในเครือไทยเบฟ เป็นแฟรนไชส์ KFC มีจำนวน 440 สาขา 2.บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ในเครือเซ็นทรัล มี 338 สาขา และ3.บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RD) มี 274 สาขา

Pelicana

แม้ว่า KFC จะเป็นเจ้าตลาดไก่ทอดในไทย มีลูกค้าเหนียวแน่น แต่ยังมีแบรนด์น้องใหม่จากต่างประเทศหาญกล้ากระโดดเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดไก่ทอดในไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น BHC Chicken แบรนด์ไก่ทอดเกาหลี มี 6 สาขา, Bonchon แบรนด์ไก่ทอดเกาหลีในเครือไมเนอร์ฯ มี115 สาขา, Zhengxin Chicken Steak แบรนด์ไก่ทอดจีน 3 สาขา

ล่าสุดแบรนด์ไก่ทอดจากเกาหลี Pelicana “เพลิคาน่า” เปิดตัวสาขาแรกที่อาคารสยามสเคป ทำเลทอง ด้านบนอาคารมีโรงเรียนอินเตอร์ 2 แห่ง มีนักเรียนกว่า 8,000 คน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์เพลิคาน่าในไทย สาขาแรกตั้งเป้ายอดขาย 30 ล้านบาทในปี 2568

Pelicana
ภาพจาก https://bit.ly/4jKdPzQ

“คุณอรรถวุฒิ นิธิกอบกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถือสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ไก่ทอดเพลิคาน่าในไทย ให้สัมภาษณ์ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ถึงการนำแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีเข้ามาเปิดตลาดในไทย ว่า จุดเริ่มต้นจากคุณอรรถวุฒิไปเกาหลี ได้ชิมไก่ทอดหลายๆ แบรนด์

พบว่าเพลิคาน่าโดดเด่นกว่าเจ้าอื่น โดยเฉพาะมาตรฐาน เปิดกิจการมานานกว่า 40 ปี หรือราวๆ ปี 1982 ถูกยกย่องเป็น “King of Chicken” ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 1,245 สาขาในเกาหลี มีจำนวนสาขากว่า 3,000 แห่งทั่วโลก

อาทิ เกาหลีใต้ แคนาดา อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย ไต้หวัน จีน รวมถึงไทย ร้าน Pelicana มีจุดเด่นที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ เป็นไก่ทอดคลุกซอสมีให้เลือกหลากหลายถึง 10 ซอส อาทิ ซอสเผ็ด, ซอสฮันนี่, ซอสซิกเนเจอร์, ซอสสโมกี้ฮอต, ซอสมาโย อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดด้วย

Pelicana
ภาพจาก www.facebook.com/PelicanaChickenThailand

คุณอรรถวุฒิ ได้ตัดสินใจส่งอีเมล์ไปหาบริษัทเจ้าของแบรนด์ที่เกาหลี ประชุมออนไลน์กับทางเกาหลี บินไปดูโรงงานผลิต ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน สามารถเปิดดีลเซ็นสัญญาเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในไทยได้ หลังเซ็นสัญญา 5 เดือนมีการหาทำเล ก่อสร้าง นำเข้าวัตถุดิบจากเกาหลี ใช้ระยะเวลาโดยรวมประมาณ 8 เดือนกว่าจึงสามารถเปิดสาขาแรกในไทยได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีนักลงทุนหลายๆ ราย ยื่นขอเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์เพลิคาน่าในไทย แต่สาเหตุที่ทางบริษัทแม่เพลิคาน่าในเกาหลีเลือกคุณอรรถวุฒิ เพราะว่าคุณอรรถวุฒิมีประสบการณ์ในเรื่องของการทำธุรกิจร้านอาหารไทยสไตล์อิตาเลียน ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ร้านเหล้า อีกทั้งภรรยาเป็นเชฟมืออาชีพ อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ

ร้านไก่ทอดเพลิคาน่า วางเป้าหมายจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Gen Y, Gen Z รวมถึงกลุ่มคนเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ อายุ 22-30 ปี ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา แฟนคลับศิลปิน K-Pop ทุกเพศทุกวัยที่ชอบชอบเปิดรับสิ่งใหม่ๆ

Pelicana
ภาพจาก www.facebook.com/PelicanaChickenThailand

คุณอรรถวุฒิ วางเป้าหมายปี 2568 ขยายเพิ่มอีก 5 สาขา ปี 2569 ขยายเพิ่มเป็น 10 สาขา เน้นทำเลห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทำเลกลุ่มครอบครัวอาศัย เช่น เลียบด่วนรามอินทรา ตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาท ส่วนแผนภายใน 3 ปี (2568-2570) ขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขา ตั้งเป้ามีรายได้ 500 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด 2.5% ของตลาดไก่ทอดในไทย

ไก่ทอดเพลิคาน่าในไทย นอกจากจะมีจุดเด่นเรื่องซอสคลุกแล้ว ยังมีเมนูทานเล่น เช่น ซุปกิมจิ, ต๊อกบกกี, ชีสบอล รวมถึงเมนูท้องถิ่นของไทยที่ผสมผสานกับความเป็นเกาหลีอย่าง “ข้าวมันไก่ทอดเกาหลี” ราคาเริ่มต้น 99 – 700 บาท

ภาพจาก https://bit.ly/4jKdPzQ
ภาพจาก https://bit.ly/4jKdPzQ

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของไก่ทอดเพลิคาน่าที่หลายๆ คนพูดถึง ก็คือ ร้านมีการออกแบบถุงซื้อกลับบ้านขนาดใหญ่ กลายเป็นจุดดึงดูดสายตาของคนที่มองเห็น จนมีการพูดปากต่อปาก “แบรนด์อะไร ทำไมถุงใหญ่จัง” ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้รวดเร็ว

กลยุทธ์ไก่ทอดเพลิคาน่า

ภาพจาก www.facebook.com/PelicanaChickenThailand
  1. เน้นขายไก่ทอดคุณภาพสูง หมักนาน 24 ชั่วโมง ทอดทีละจาน เปลี่ยนน้ำมันใหม่ทุกวัน เพื่อรักษาความสดใหม่
  2. มีซอสคลุกสูตรพิเศษ 10 รสชาติ อาทิ ซอสน้ำผึ้ง, ซอสสโมกกี้ฮ็อต, ซอสกังจอง, ซอสเผ็ด, ซอสสโมกกี้มาโย, ซอสเผ็ดมาโย ซอสกระเทียม, ซอสถั่วเหลือง และโรยผงชีส
  3. พัฒนาเมนูสำหรับลูกค้าคนไทย เช่น ข้าวมันไก่ทอดเกาหลี เครื่องเคียงผักคลุกน้ำมันงาเพลิคาน่าของเกาหลี
  4. เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ แตกต่างจากเจ้าตลาดอย่าง KFC ทำเลใจกลางเมือง
  5. ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าใน 3 ปี เปิดสาขาเพิ่ม 20 สาขา ทำรายได้ 500 ล้านบาท
  6. ปากต่อปาก ทำถุงขนาดใหญ่สำหรับซื้อกลับบ้าน ดึงดูดความสนใจของผู้คน เพิ่มการรับรู้และสร้างความผูกพันกับแบรนด์
ภาพจาก www.facebook.com/PelicanaChickenThailand

เพลิคาน่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทุ่มงบทำการตลาดเหมือนกับไก่ทอดแบรนด์อื่นๆ แต่เน้นในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน ทำเมนูให้ถูกปากและเข้ากับคนไทย ใช้ซอสสูตรพิเศษเฉพาะของร้าน จนเกิดกระแสการบอกต่อปากต่อปาก

Pelicana “เพลิคาน่า” ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารจากต่างประเทศแบรนด์แรกของ “คุณแบงค์-อรรถวุฒิ นิธิกอบกุล” ที่นำเข้ามาเปิดตลาดในไทย ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่วางเป้าหมายนำเข้ามาเปิดตลาดตามเพลิคาน่า ต้องตาดูกันต่อไป เพราะคุณแบงค์-อรรถวุฒิผ่านการเรียนคอร์สแฟรนไชส์ จัมป์ อัพ (Franchise Jump Up) รุ่น 5 มาแล้ว ทำให้รู้ลึก รู้จริงเรื่องแฟรนไชส์

สมัครเรียน คลิก https://bit.ly/4iOfZOu

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช