จริงมั้ย ขายแฟรนไชส์ ตีหัวเข้าบ้าน

กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ที่ระบบกับคน ต้องมีความพร้อมและเดินหน้าไปด้วยกัน การขายแฟรนไชส์ต้องมีทั้งแบรนด์และระบบที่ดีให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ เพื่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เขาต้องจ่ายไป

แต่ที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเห็นข่าวธุรกิจแฟรนไชส์ปิดกิจการ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เอาเปรียบและโกงผู้ซื้อแฟรนไชส์ต่างๆ นานา รวมไปถึงผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ได้รับการดูแลและสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์ ปล่อยทิ้งขว้างให้ขายตามมีตามเกิด

เปรียบเสมือน ขายแฟรนไชส์ ตีหัวเข้าบ้าน ธุรกิจไม่พร้อมก็อยากขาย บางแบรนด์ออกโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้าให้มาซื้อแฟรนไชส์ มีเท่าไรใส่กันเต็มที่ การันตีรายได้แบบ 100% เพื่อให้ได้จำนวนผู้ซื้อแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น

ขายแฟรนไชส์ ตีหัวเข้าบ้าน

ตัวอย่างกรณี…ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ดารุมะซูชิ หลอกลงทุนแฟรนไชส์, ย่างให้ หลอกลงทุนแฟรนไชส์, ลูกชิ้นเชฟอ้อย ไม่ส่งอุปกรณ์ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์, ร้านสะดวกซัก Washcoin ปิดกิจการกะทันหัน และอื่นๆ หลายแบรนด์เอาเปรียบผู้ซื้อแฟรนไชส์

ธุรกิจแฟรนไชส์เหล่านี้เป็นการตีหัวเข้าบ้าน เจ้าของแฟรนไชส์หวังเงินค่าแฟรนไชส์อย่างเดียว โดยที่ธุรกิจยังไม่พร้อม ระบบยังไม่ดีพอ อีกทั้งเจ้าของแฟรนไชส์ยังไม่มีความรู้เรื่องระบบแฟรนไชส์เลย พอมีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ก็อยากขายทันที

ขายแฟรนไชส์…คนพร้อม ระบบดี พื้นฐานแน่น

ขายแฟรนไชส์ ตีหัวเข้าบ้าน

เจ้าของกิจการที่คิดจะขายแฟรนไชส์ อันดับแรกๆ ต้องมีความพร้อมเรื่องคน ระบบแฟรนไชส์ดีมีมาตรฐาน และเจ้าของแฟรนไชส์ควรมีความรู้เรื่องระบบแฟรนไชส์เป็นอย่างดี และมีความรู้ด้านกฎหมาย หรือมีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เพราะจะช่วยให้เจ้าของแฟรนไชส์รู้ว่าอะไรเป็นข้อห้าม สิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ต้องศึกษาให้รู้จริง ก่อนคิดจะขายแฟรนไชส์

สมมติถ้าเจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้กฎหมาย หากทำผิดยังพอให้อภัยได้ แต่บางรายที่จงใจ ตั้งใจ เอารัดเอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อแฟรนไชส์ เกิดการฟ้องร้องกัน เป็นคดีความกันใหญ่โต สุดท้ายต้องล้มหายตายจากกันไป

สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์หายไปจากระบบ ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์มองสั้นๆ แค่ว่า “ตีหัวเข้าบ้าน” กล่าวคือ เอาไว้ก่อน ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะเป็นจะตายก็เรื่องของมัน ขายแฟรนไชส์ได้ก็พอ เขาจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่มีระบบการสนับสนุน ไม่มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ใดๆ ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์เลย สุดท้ายแบรนด์แฟรนไชส์จะตายไปด้วย

สำหรับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ถ้าไม่อยากให้เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ตีหัวเข้าบ้าน ต้องเลือกดูแบรนด์ที่มีศักยภาพ มีขื่อเสียง คนรู้จัก มีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญจะต้องประเมินดูว่าเงินที่จ่ายไป ได้อะไรกลับมาคุ้มค่าหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบแฟรนไชส์ที่ดีมีมาตรฐาน ประสบการณ์เจ้าของแบรนด์ องค์ความรู้ที่เขาถ่ายทอดให้ และคำตอบทุกอย่างที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่รู้

ขายแฟรนไชส์ ตีหัวเข้าบ้าน

สรุปก็คือ ก่อนขายแฟรนไชส์ เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่าง ธุรกิจพร้อม คนพร้อม มีองค์ความรู้ สร้างระบบหลังบ้าน มีระบบสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่พร้อมและแน่น วิสัยทัศน์ธุรกิจต้องชัดเจน อย่ารีบฉาบฉวยตีหัวเข้าบ้าน

ขายแล้วไม่ดูแลแฟรนไชส์ซีจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ไม่ยั่งยืน จำไว้ว่าไม่มีโมเดลแฟรนไชส์สำเร็จ 100% ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา และต้องพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ซื้อแฟรนไชส์ตลอดเวลา

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช