จริงมั้ย? 7-Eleven เห็นทำเลไหนดี เปิดเองแข่งสาขาเดิม
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมร้าน 7-Eleven ต้องเปิดสาขาใกล้ๆ กัน และจริงหรือไม่ บริษัทซีพีออลล์ เห็นทำเลไหนดี มักเปิด 7-Eleven แข่งกับสาขาแฟรนไชส์เดิม บทความนี้จะไขข้อข้องใจ มาลองหาคำตอบพร้อมๆ กันครับ
รูปแบบขยายสาขา 7-Eleven
7-Eleven ทั่วประเทศ ในปี 2566 มีจำนวน 14,545 สาขา แบ่งเป็น
- ร้าน CPALL จำนวน 7,336 สาขา (คิดเป็น 50%) เพิ่มขึ้น 497 สาขา
- ร้าน Store Business Partner (SBP) จำนวน 6,335 สาขา (คิดเป็น 44%) เพิ่มขึ้น 191 สาขา
- ร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต (Sub-Area License) 874 สาขา (คิดเป็น 6%) เพิ่มขึ้น 19 สาขา มีอยู่ 4 กลุ่มท้องถิ่น ได้แก่
- กลุ่มตันตราภัณฑ์ (บริษัท ชอยสฺ มินิ สโตร์ จำกัด) ผู้ประกอบการค้าปลีกริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต บริหารพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน
- กลุ่มงานทวี (บริษัท งานหนึ่ง จำกัด) ผู้ประกอบการโรงแรมรอยัลภูเก็ตซี้ตี้ ป้มน้ำมัน สวนยางพารา เหมืองแร่ ค้าส่ง บริหารพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ ภูเก็ต ระนอง พังงา กะบี่ ตรัง
- กลุ่มยิ่งยง (บริษัท ยิ่งยง มินิมาร์ท จำกัด) ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ายิ่งยงอุบลฯ บริหารพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ อุบลฯ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ
- กลุ่มศรีสมัย (บริษัท ยะลาเซเว่น จำกัด) ผู้ประกอบการร้านศรีสมัยค้าส่ง บริหารพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
เหตุผล 7-Eleven เปิดสาขาแข่งแฟรนไชส์
หลายคนอาจเคยเห็น หรือเป็นคนที่เคยเปิดร้าน 7-Eleven มาก่อน อาจจะเจอมากับตัวเอง คือ เปิดร้านไปแล้วสักพักยอดขายดี คนใช้บริการแน่นร้าน ทำยอดขายได้ถึงเป้า พอมาวันหนึ่งมีร้าน 7-Eleven อีกสาขามาเปิดใกล้ๆ หรือละแวกเดียวกัน
กรณีการเปิดร้าน 7-Eleven เพิ่มในทำเลใกล้กับร้าน 7-Eleven เดิมอยู่ก่อนแล้ว ทางซีพีออลล์จะพิจารณาศักยภาพทำเล ความหนาแน่นประชากร ความสามารถในการรองรับบริการลูกค้าของร้านเดิม ถ้าร้าน 7-Eleven เดิมบริการลูกค้าไม่ทัน ทางซีพีออลล์จะเปิดร้านเพิ่ม เพื่อให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึง รวดเร็ว คลอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในละแวกนั้นๆ
โดยซีพีออลล์จะให้สิทธิ์แก่แฟรนไชส์ซี หรือ Store partner เจ้าเดิม ที่มีความต้องการขยายสาขาในทำเลนั้นๆ เป็นลำดับแรก ถ้ามีความพร้อม Store partner เจ้าเดิม ก็สามารถใช้สิทธิบริหารร้านใหม่ได้เลย
แต่ถ้ายังไม่พร้อม ทางซีพีออลล์จะเปิดร้านรอไว้ เพื่อรอให้ Store partner มาโอนไปในอนาคตเมื่อมีความพร้อม ถ้า Store partner เจ้าเดิม ไม่ต้องการเปิดร้านเพิ่ม ทางซีพีออลลล์ก็จะไปเปิดร้าน 7-Eleven เอง
โดยจะจ่ายเงินทดแทนให้เท่ากับรายได้ก่อนที่อีกร้านจะมาเปิดไปจนกว่ายอดขายจะสูงเท่าเดิมหรือมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันที่หลายๆ คนเห็นร้าน 7-Eleven อยู่ใกล้หรือติดกันในหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็น Store partner เจ้าเดียวกัน บางรายเปิด 4-5 สาขา ทำกันทั้งครอบครัว
ส่วนกรณีทางซีพีออลล์เข้าไปบริหารร้าน 7-Eleven ของ Store partner บางราย อาจเป็นเพราะแฟรนไชส์ซีเจ้าเดิมอาจมีปัญหาส่วนตัว เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเรื่องอายุขัย ปัญหาภายในร้าน ลูกหลานไม่ต้องการทำธุรกิจต่อ ฯลฯ จึงขอคืนสิทธิร้านแฟรนไชส์ให้ซีพีออลล์ และบางสาขาไม่สามารถทำมาตรฐานได้ตามที่กำหนด
นอกจากนี้ บางทำเลที่ดีจริงๆ ยอดขายสูง ปริมาณลูกค้าใช้บริการแต่ละวันจำนวนมาก ทางซีพีออลล์จะไม่ขายแฟรนไชส์ จะทำการเปิดร้านเอง หรือบางทำเลมีพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้างขวาง ทางซีพีออลล์จะเปิดร้าน 7-Eleven เอง เพราะใช้เงินลงทุนสูง ทำพื้นที่เป็นลานกว้างสำหรับจอดรถ ปล่อยเช่าร้านค้า และติดตั้งตู้ชาร์จรถยนต์ EV ในอนาคต
7-Eleven ไม่ใช่เจ้าเดียวเปิดแข่งทำเลทอง
นอกจาก 7-Eleven เปิดแข่งในทำเลเดียวกันแล้ว ยังมีศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง “สยามพิวรรธน์” ยึดพื้นที่ทำเลทองย่านสยาม โดยการเปิด 3 ศูนย์การค้าติดกัน คือ สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ และ สยามพารากอน แม้ว่าทั้ง 3 ศูนย์การค้าจะแย่งลูกค้ากันเอง แต่ถ้าไม่ก่อสร้างในทำเลเดียวกัน ก็จะมีคู่แข่งมาเปิดก่อน แย่งลูกค้าไปโดยไม่ได้อะไรเลย
ได้เห็นเหตุผลแล้วว่า ทำไม 7-Eleven เปิดเองแข่งสาขาเดิม ร้าน Store partner เจ้าเดิม ก็เพราะต้องการยึดครองพื้นที่ก่อนที่คู่แข่งจะมาเปิดร้านแชร์ส่วนแบ่งยอดขายไป เรียกได้ว่าไม่ยอมให้คนอื่นได้เงินแม้แต่บาทเดียว
อ้างอิงข้อมูล https://citly.me/3YB5V
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)