“คุมอง” แฟรนไชส์การศึกษา “ระดับโลก” ระบบบริหารจัดการพร้อม! เริ่มธุรกิจได้ทันที

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน “หลักสูตรการศึกษา” ต้องพัฒนาให้ผู้เรียนรู้จักนำไปใช้ได้จริง การเรียนในยุคนี้จึงไม่ใช่เน้นแค่ทฤษฏีแต่ต้องให้ผู้เรียนนำไปปฏิบัติได้ด้วย อีกทั้งในแง่ของการลงทุนจำเป็นต้องมีความพร้อมในเรื่องการบริหารจัดการแบบมืออาชีพที่พร้อมส่งเสริมให้คนลงทุนเริ่มธุรกิจได้ทัน

คุมอง

ซึ่ง “ คุมอง ” ถือเป็นแฟรนไชส์การศึกษาระดับโลกที่ก่อตั้งมานานถึง 70 ปี ปัจจุบันแพร่หลายในกว่า 62 ประเทศและมีจำนวนนักเรียนมากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก การันตีได้ถึงคุณภาพเป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางแฟรนไชส์คุมองยังให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนทุกคนเป็นอย่างดี ดูแลเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันเพื่อให้เติบโตและสร้างผลตอบแทนในธุรกิจการศึกษาได้อย่างยั่งยืน

แฟรนไชส์คุมอง ทำไมถึงน่าลงทุนสุดในยุคนี้?

คุมอง

จากจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ.1954 โดยคุณโทรุ คุมอง ซึ่งเป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์มัธยมปลาย ได้พบเจอและมองเห็นปัญหาที่ผู้เรียนต้องประสบอย่างชัดเจน จึงเริ่มต้นออกแบบแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์เพื่อให้ลูกชายได้ฝึกฝน และเริ่มพัฒนาหลักสูตรการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน จนกลายเป็นต้นแบบของแบบฝึกหัดคุมองที่ใช้ในปัจจุบัน โดยเป้าหมายของคุณ โทรุ คุมองคือ การพัฒนาความสามารถของนักเรียนให้ไปถึงจุดสูงสุดโดยช่วยให้พวกเขาแต่ละคนได้เรียนในระดับที่เหมาะสม

ถึงวันนี้ คุมองกลายเป็นแฟรนไชส์การศึกษาที่เติบโตในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่มีสาขารวมกว่า 470 แห่ง ซึ่งมีหลายปัจจัยที่การันตีว่า “คุมอง” เป็นแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับการลงทุนสุดในยุคนี้ ได้แก่

1.ระบบการเรียนการสอนมีมาตรฐานชัดเจน

คุมอง

แม้ว่าระบบการเรียนแบบคุมองจะก่อตั้งมาแล้วมากกว่า 60 ปี แต่ยังมีการวิจัยแบบฝึกหัดและปรับปรุงการสอนอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนานักเรียนให้เรียนก้าวหน้าจนเกินระดับชั้นเรียนที่โรงเรียนด้วยทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งก้าวหน้าขึ้นไปเรียนเนื้อหาระดับชั้นมัธยมปลายได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ

2.เน้นพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล

คุมอง

ระบบการเรียนแบบคุมองเป็นระบบการเรียนที่ค้นหาศักยภาพของเด็กเป็นรายบุคคลและพัฒนาความสามารถเหล่านั้นให้ไปยังจุดสูงสุด ด้วยวิธีการเรียนในระดับที่ “พอเหมาะพอดี” สำหรับนักเรียนแต่ละคนจะช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ได้มากขึ้น และจากผลงานที่ผ่านมา มีผู้เรียนจากคุมองที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากจึงทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองไว้วางใจในการส่งบุตรหลานเข้าเรียน

3.มีระบบจัดฝึกอบรมผู้เปิดศูนย์ใหม่

คุมอง

โดยทางแฟรนไชส์พร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านการสอนและการตลาดเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่เปิดศูนย์ มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา และดูแลผู้ลงทุนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้ก้าวเดินไปข้างหน้าและมีกำไรจากธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.พร้อมสนับสนุนผู้ลงทุนในทุกช่องทาง

การลงทุนกับคุมองไม่ใช่แค่การได้เริ่มทำธุรกิจการศึกษา แต่จะมีการดูแลอย่างดีตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งการจัดอบรมและสัมมนาสำหรับผู้เริ่มเปิดศูนย์เพื่อเพิ่มพูนทักษะและความรู้เกี่ยวกับระบบการเรียนแบบคุมอง การให้คำแนะนำสำหรับการสอนนักเรียนเป็นรายบุคคล หรือให้คำแนะนำในการบริหารจัดการศูนย์เพื่อรักษามาตรฐานและเพิ่มคุณภาพของศูนย์คุมองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้การสนับสนุนในเรื่องแบบฝึกหัดและสื่อการสอนอื่นๆ อีกด้วย

5.การลงทุนที่คุ้มค่าและมีคุณค่า

ในแต่ละแฟรนไชส์ของคุมองจะมี Instructor หรือผู้บริหารแฟรนไชส์ ที่เปรียบเสมือนหัวเรือของศูนย์ ทำหน้าที่ทั้งบริหารศูนย์ และสอนนักเรียนโดยตรง และด้วยหลักสูตรที่มีการพัฒนาต่อเนื่องทันยุคสมัย ธุรกิจของคุมองจึงไม่ได้โฟกัสที่เรื่องกำไรแค่นั้น แต่เป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนจะได้ความภาคภูมิใจเมื่อผู้เรียนประสบความสำเร็จ และสิ่งนี้ก็คืออัตลักษณ์ในความเป็นคุมองที่คุ้มค่าและมีคุณค่าในแง่ของการลงทุน

ลงทุนกับ “คุมอง” ต้องทำอย่างไร?

ปัจจุบันระบบการเรียนคุมองในประเทศไทยเปิดสอน 3 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ และ วิชาการอ่านภาษาไทย โดยงบลงทุนเบื้องต้น คือ ค่าใบอนุญาต ประมาณ 70,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าตกแต่งอาคาร ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ และเงินทุนหมุนเวียน อยู่ที่ประมาณ 700,000 – 1.2 ล้านบาท แตกต่างกันไปตามลักษณะอาคารที่ใช้เปิดศูนย์คุมอง

ซึ่งผู้สนใจลงทุนกับคุมองต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • สัญชาติไทย
  • สุภาพสตรี อายุ 27 ปีขึ้นไป
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า
  • สนใจในเรื่องการศึกษาของเด็ก
  • มีความรู้เบื้องต้นทางคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
  • ผ่านการคัดเลือกโดยบริษัท คุมอง (ไทยแลนด์) จำกัด
  • หลังผ่านขั้นตอนการคัดเลือก ผู้สมัครต้องสามารถดำเนินกิจการศูนย์คุมองได้เต็มเวลา

หลังจากที่ได้ส่งใบสมัครแสดงความต้องการลงทุน ผู้สนใจจะต้องดู VDO สัมมนา ผ่าน Link ที่จัดส่งให้ทางอีเมลภายในระยะเวลาที่กำหนด จากนั้นทำการยืนยันสอบข้อเขียน จะได้รับกำหนดการแจ้งสอบและสัมภาษณ์ ผู้สนใจลงทุนจะต้องสอบข้อเขียน รวมถึงสอบสัมภาษณ์ เมื่อผ่านแล้วจะต้องเข้าอบรมสำหรับผู้เปิดศูนย์คุมอง เมื่อผ่านการอบรมจึงดำเนินการเปิดศูนย์ในทำเลพื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ

ภาพรวมความสำเร็จ “คุมอง” ทั่วประเทศ

ภาพจาก แฟรนไชส์คุมอง

คุมองเป็นแฟรนไชส์การศึกษาที่มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) อย่างชัดเจน หากดูในเชิงตัวเลขก็ยิ่งตอกย้ำด้วยจำนวนนักเรียนมากกว่า 70,000 คนจากสาขากว่า 460 แห่ง ซึ่งถือว่ามากสุดในประเทศไทย ไม่ใช่แค่นั้นถ้าไปดูในแง่ของการลงทุน เจ้าของศูนย์คุมองหลายคนเคยทำงานเป็นพนักงานประจำ หรือเคยทำอาชีพอิสระต่างๆ แต่ตัดสินใจมาลงทุนกับแฟรนไชส์คุมอง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

โดยได้รับการดูแลจากทางแฟรนไชส์อย่างดีเยี่ยม มีการสนับสนุนในทุกช่องทาง มีการพัฒนาหลักสูตรการสอนต่อเนื่อง ที่สำคัญ ผู้ลงทุนในทุกสาขายังได้สนุกกับการค้นหาและพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ ได้เห็นผู้เรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นผ่านการเรียนกับคุมอง ถือเป็นความสุขที่ได้มากกว่าเงินทอง และธุรกิจนี้ยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศให้พัฒนามากขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ ในโลโก้ของคุมองนั้น ตรงตัวอักษร โอ จะเป็นรูปหน้าคนกำลังคิด ซึ่งคุมองต้องการจะสื่อความหมายถึง หน้าเด็กที่กำลังคิดและเรียนรู้ ในระหว่างที่เรียนกับคุมอง นอกจากนี้ ยังเป็นการสื่อถึง หน้าของครูผู้สอนและเจ้าหน้าที่ของคุมองที่กำลังหาวิธีพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กที่มาเรียนกับคุมองนั่นเอง

คุมอง
สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก
https://bit.ly/3A8Mj7P
โทร. 061-3866445 , 061-4804239

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด