คำพูดทรงพลัง Franchise Elevator Pitch ขายแฟรนไชส์ใน 30 วิ

Elevator Pitch ถ้าเอา 2 คำนี้มาแยกตามความหมาย Evevator แปลว่า ลิฟท์ ในขณะที่ Pitch แปลว่า การชักชวนซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าชักชวนให้ขึ้นลิฟท์ แต่ Elevator Pitch คือการพูดชักชวนในระยะเวลาอันสั้นที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงเพื่อทำให้ผู้ฟังสนใจ

ที่มาที่ไปของ Elevator Pitch มาจากการการจำลองเหตุการณ์ว่าหากเราเจอกับนักลงทุนในลิฟต์สองคน จากชั้น 1 ไปถึงชั้น 60 ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที ในช่วงเวลานั้นเราจะมีการพูดนำเสนออย่างไรเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด

เป้าหมายของ Elevator Pitch คือการนำเสนอ แบบซึ่งหน้าที่สามารถพูดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจของเราให้ครอบคลุมภายในเวลา 30 วินาทีได้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับนัดต่อ หรือได้ contact ไว้เพื่อไป Pitching อีกรอบ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าในความเป็นจริง Elevator Pitch จะเอาไปใช้ตอนไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือในงานอีเวนต์ ซึ่งจะมีคนสนใจลงทุน เจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งในเวลาที่จำกัดหากเราใช้ Elevator Pitch ไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดีพอในเวลาที่ไปเจอกับนักลงทุนและมีโอกาสได้พูดคุยกัน ไม่สามารถพูดให้เขาสนใจได้ ก็นับเป็นการเสียโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์

เรื่องของทักษะที่ต้องใช้สำหรับ Elevator Pitch จึงสำคัญมาก Elevator Pitch จึงไม่ได้ตายตัวแค่ครั้งเดียวผ่าน แต่จำเป็นต้องมี Elevator Pitch 3-4 บท เผื่อสำหรับพูดใน 3-4 สถานการณ์ จากนั้นต้องฝึกและจดจำสถานการณ์ไว้ ไตร่ตรองว่ารอบนี้ควรพูดเรื่องอะไร และพูดให้เข้าใจ

เรามาดูวิธีเตรียมตัวสำหรับพูด Elevator Pitch ว่าควรทำอย่างไร

Franchise Elevator Pitch

1.เข้าใจบริบทในสิ่งที่ต้องการนำเสนอ

การนำเสนอมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ต้องการขายแฟรนไชส์ในเนื้อหาก็ควรมีรูปแบบสินค้า , จุดเด่น , ความน่าสนใจ , ผลตอบแทน , สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ เป็นต้น

Franchise Elevator Pitch

2.สรุปเนื้อหาให้สั้นกระชับ แต่เข้าใจได้

Elevator Pitch เป็นการนำเสนอในเวลาจำกัดแต่ไม่ใช่การพูดเร็วแบบคูณ 2 ดังนั้นเราต้องเข้าใจในสิ่งที่จะพูดอย่างถ่องแท้และกระชับเนื้อหาเน้นเอาเฉพาะส่วนสำคัญมานำเสนอเท่านั้น

Franchise Elevator Pitch

3.จัดลำดับเนื้อหาที่จะพูด และพูดเฉพาะสิ่งที่สำคัญ

ด้วยระยะเวลาที่จำกัดจึงต้องเลือกอธิบายเฉพาะบางส่วนที่เป็นประเด็นหลัก เช่นสร้างจุดขายว่าเราคือใคร , บอก Pain Point ที่เข้าใจง่าย , นำเสนอวิธีแก้ปัญหาหรือบริการ สุดท้ายก็คือปิดการขาย

Franchise Elevator Pitch

4.ซ้อมพูดให้ชำนาญ

เพื่อให้เราสามารถพูดในสิ่งที่เราอยากพูดได้จริงๆ อาจเริ่มจากการเขียนสคริป และลองซ้อมพูดให้ชำนาญที่สำคัญอย่าลืมจับเวลาอย่าให้เกิน 3 นาทีด้วย

บริบทที่ควรมีใน Franchise Elevator Pitch

  • แนะนำตัว / แนะนำธุรกิจ โดยเน้นการแนะนำให้ผู้ฟังรู้จัก background เราแบบพอสังเขป
  • แนะนำ Product/Service ที่ต้องการนำเสนอ โดยเน้นที่ความน่าสนใจของธุรกิจ
  • สื่อสารถึงจุดขายที่เราต้องการ เช่นต้องการขายแฟรนไชส์หรือต้องการผู้ร่วมลงทุนในธุรกิจ
  • นำเสนอเปรียบเทียบว่าดีหรือเหนือกว่าแบรนด์อื่นที่มีอย่างไร เป็นประโยคสำหรับฆ่าคู่แข่ง (Killing pitch)
  • พูดเพื่อสร้าง Creditbility ให้ผู้ฟังรู้สึกมั่นใจ และเชื่อถือในข้อมูลที่เราให้มากยิ่งขึ้น เช่นระยะเวลาหรือจำนวนลูกค้าที่มี
  • สรุปเนื้อหาโดยต้องเน้นคำพูดที่ว่าสิ่งที่เรานำเสนอเหมาะกับลูกค้าจริงๆ

ตัวชี้วัดว่า Elevator Pitch สำเร็จหรือไม่ ดูที่ว่าสุดท้ายเราสามารถแลกนามบัตรกับลูกค้าได้ไหม หรือสามารถนัดหมายเพื่อขอเข้าไปให้ข้อมูลธุรกิจเพิ่มเติมอย่างเต็มที่ได้หรือเปล่า

กรณีตัวอย่างของ Elevator Pitch

อธิบายตามทฤษฏีอาจมองไม่เห็นภาพลองไปดู “ธุรกิจห้าดาว” ที่นำเอา Elevator Pitch มาใช้ทางการตลาดโดยให้คนดังสายธุรกิจมานำเสนอ 6 ร้านแฟรนไชส์ของ ธุรกิจห้าดาว ให้เราฟังจบภายใน 3 นาที ซึ่งก็เป็นการอธิบายทั้ง 6 แบรนด์อย่างรวบรัดตั้งแต่ ไก่ห้าดาว, ไฮพอร์ค, เป็ดเจ้าสัว, ข้าวมันไก่ไห่หนาน, กระทะเหล็ก และสตาร์คอฟฟี่ และมาสรุปอย่างเข้าใจง่ายในเวลาจำกัดว่าแต่ละแบรนด์ดียังไง เหมาะน่าลงทุนแค่ไหน

หรือกรณีตัวอย่างในต่างประเทศจากรายการ Shark Tank ที่เป็นการนำเสนอธุรกิจ Scrub Daddy ฟองน้ำหน้ายิ้ม โดย Aaron Krause เนื้อหาในการนำเสนออย่างรวบรัดแต่ครบถ้วนมาก ทั้งการแนะนำตัว การนำเสนอปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหา ความแตกต่าง และการสร้างการมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการ

จนในที่สุด ธุรกิจฟองน้ำ Scrub Daddy ก็ได้รับความสนใจ และได้รับเงินลงทุน มูลค่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.97 ล้านบาท) แลกกับหุ้นส่วน 20% ให้กับ Shark Lori Greiner และที่น่าสนใจไปกว่านั้น การนำเสนอนี้ใช้เวลาไปทั้งหมดเพียง 1 นาที 55 วินาทีเท่านั้น

สำหรับคนทำธุรกิจแฟรนไชส์การนำ Franchise Elevator Pitch มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสร้างประโยชน์ในการขยายธุรกิจได้มาก โดยเฉพาะการร่วมงานอีเว้นท์ที่มีลูกค้ามาก หรือการนำเสนอธุรกิจให้กับคนทั่วไป อย่างไรก็ดีการใช้ Elevator Pitch ควรได้รับการฝึกฝนจนชำนาญก่อนเริ่มนำไปปฏิบัติจริง

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด