คนแก่ล้นประเทศ ธุรกิจไหนโตระเบิด รีบทำ

ข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อเดือน มกราคม 2567 ระบุว่า คนไทยที่อายุมากกว่า 60 ปี มีด้วยกันทั้งสิ้น 13.2 ล้านคนคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าในปี 2576 ประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยถึง 28% ของประชากรทั้งหมด

ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ในต่างประเทศก็เช่นกันองค์การสหประชาชาติคาดการณ์ตัวเลขจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านคน โดยเป็นผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี อยู่ที่ 10% และคาดว่าในปี 2593จะเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 16%

แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องโฟกัสคือ “ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัย” ที่ตอนนี้มีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านบาท เฉพาะแค่ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ (NursingHome) ยังมีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทและมีอัตราเติบโต 1.5 เท่าในทุกปี

ซึ่งปัจจุบันในเมืองไทยเราก็เริ่มเห็นแฟรนไชส์เหล่านี้เปิดตัวมากขึ้น ยกตัวอย่าง บ้านธรรมชาติ บาย เฌ้อสเซอรี่โฮม ธุรกิจ NursingHome มาตรฐาน AACI ที่มาพร้อมสโลแกน “บอกรักผู้สูงวัย เชื่อใจให้เราดูแล” ซึ่งตอนนี้มี 6 สาขาทั่วประเทศ

คนแก่ล้นประเทศ

ภาพจาก บ้านธรรมชาติ บาย เฌ้อสเซอรี่ โฮม

และหากมองในแง่ของการลงทุนเพื่อจับจุดความต้องการของผู้สูงวัยพบว่ามีความต้องการใน 3 ส่วนได้แก่

  • ความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ปัจจัย 4 คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค
  • ความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะทางการเงิน
  • ความต้องการสุขภาพกายและใจที่ดี โดยเฉพาะการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่จำเป็น

ก็เป็นโจทย์ที่นักลงทุนทั้งหลายจะไปหาไอเดียในการทำธุรกิจ เช่น ธุรกิจผลิตอาหารปรุงสำเร็จ , ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ธุรกิจบริการด้านเครื่องดื่ม ฯลฯ , ธุรกิจที่อยู่อาศัยที่ต้องออกแบบเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ

คนแก่ล้นประเทศ

รวมถึงเครื่องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการทำกิจกรรมต่างๆ ในที่พักอาศัย เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน ธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจขายส่ง ขายปลีกเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่เหมาะสมตามช่วงวัย เป็นต้น

ไม่ใช่แค่นั้นบรรดาคลินิกรักษาโรค , เภสัชภัณฑ์ , ที่ปรึกษาการลงทุน , ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบริหารการเงิน , ธุรกิจประกันชีวิต ก็ล้วนแต่ต้องปรับตัวเพื่อจับกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น โดยต้องค้นหาช่องทาง รูปแบบผลิตภัณฑ์ ที่จูงใจกลุ่มผู้สูงวัยให้เลือกซื้อหรือเลือกใช้บริการได้มากที่สุด

คนแก่ล้นประเทศ

ภาพจาก บ้านธรรมชาติ บาย เฌ้อสเซอรี่ โฮม

และหากมองการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของสังคมผู้สูงอายุในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564 – 2566) พบว่ามีแนวโน้มการจัดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ปี 2564 จัดตั้ง 10,676 ราย
  • ปี 2565 จัดตั้ง 13,915 ราย
  • ปี 2566 จัดตั้ง 16,913 ราย

อย่างไรก็ดียังมีข้อมูลที่น่าเป็นห่วงคือผู้สูงอายุประมาณ 41.4% มีเงินออมต่ำกว่า 50,000 บาท และมีแนวโน้มอยู่คนเดียวตามลำพังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้มีการประเมินกันต่อไปอีกว่าผู้สูงวัยควรมีเงินออมประมาณ 4.3 ล้านบาท (เมื่ออายุ 60ปี) ถึงจะมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายจนถึงอายุ 100 ปี ซึ่งตัวเลขนี้ก็สวนทางกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยส่วนใหญ่อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการจะโฟกัสธุรกิจสำหรับลงทุนจึงต้องคำนึงถึงรายละเอียดต่างๆ อย่างถี่ถ้วน

แน่นอนว่าภาครัฐต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการออกมาตรการหรือนโยบายในการดำเนินธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโต เข้มแข็ง และแข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลกในขณะนี้

คนแก่ล้นประเทศ

ภาพจาก บ้านธรรมชาติ บาย เฌ้อสเซอรี่ โฮม

เรื่องน่ารู้!

  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 1 ใน 3 ยังคงทำงานอยู่
  • ผู้สูงอายุร้อยละ 64.8% ทำธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง
  • ผู้สูงอายุร้อยละ 18.8 ช่วยธุรกิจครัวเรือนโดยไม่รับค่าจ้าง
  • ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ทำธุรกิจในภาคการเกษตร รองลงมาคือบริการ และการค้า

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด