ขายอะไรดีที่คนต้องซื้อทุกวัน

เศรษฐกิจไม่ดี คนตกงาน ว่างงานมีเยอะ อาชีพที่คนนึกถึงมากที่สุดก็คือ “พ่อค้าแม่ค้า” ไม่รู้จะทำอะไรดี ไม่รู้จะหาเงินยังไง หลายคนตัดสินใจเป็นพ่อค้าแม่ค้าซึ่งก็ต้องเสี่ยงกันว่า “จะขายดีหรือเปล่า” เพราะรู้กันอยู่ว่าตอนนี้กำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ลดลงอะไรไม่จำเป็นเขาก็ไม่ซื้อ

ดังนั้นเคล็ดลับการเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่จะขายของได้ดีจึงควรเลือกสินค้าที่ “คนต้องซื้อทุกวัน” www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจเป็นกลุ่มสินค้าสำคัญที่เราจำเป็นต้องซื้อแทบทุกวันมีอะไรบ้าง ลองไปดู

แต่ก่อนอื่นลองไปดูข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ระบุว่าปีที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายของครัวเรือนทั่วประเทศ เฉลี่ยเดือนละ 21,236 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภค

ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม รองลงมาเป็นค่า ที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งสำหรับค่าเวชภัณฑ์/ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ จึงพอให้สรุปได้ว่าสินค้าที่ขายดีที่คนต้องซื้อทุกวันได้แก่

1.อาหาร

ขายอะไรดีที่คนต้องซื้อทุกวัน

ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่คนเราไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร เศรษฐกิจแย่แค่ไหน เราก็ยังต้องทานอาหาร ดังนั้นอาหารจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่อย่างไรก็ต้องซื้อทุกวัน สำคัญคือเราควรตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ อาหารต้องมีคุณภาพและคุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจ่ายไป อาหารที่ขายดีส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ เน้นสะดวก อร่อย อิ่ม และราคาประหยัด ซึ่งปัจจุบันการลงทุนขายอาหารมีคู่แข่งในตลาดเยอะมาก การเริ่มต้นเองอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

14

แนะนำว่าหากต้องการให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ลงทุนกับแฟรนไชส์อาหารต่างๆที่มีให้เลือกจำนวนมาก เช่น ชิคชอนไก่กรอบเกาหลี , รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบน , กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี (เห็ดหอม) , ธงไชย ผัดไทย , เกาเหลาเนื้อธัญรส , อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช , โชกุนสเต็ก , ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง , เตี๋ยวเรือต่อชาม , ธุรกิจห้าดาว เป็นต้น ซึ่งแต่ละแฟรนไชส์มีจุดเด่นในเมนูอาหารที่หลากหลาย มีแพคเกจลงทุนให้เลือกตามความเหมาะสม มีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน สอนสูตรอาหารต่างๆ ให้เปิดร้านได้อย่างมืออาชีพ ลดระยะเวลาในการคืนทุนให้เร็วขึ้นได้ด้วย

2.เครื่องดื่ม

13

นอกจากอาหารสินค้ากลุ่ม “เครื่องดื่ม” ก็เป็นสิ่งที่คนต้องซื้อทุกวันเช่นกัน ตอกย้ำได้จากร้านเครื่องดื่มต่างๆที่มีจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็ขายดี มีกำไรดีกว่าทำงานประจำ ยิ่งทำเลดียิ่งขายดี โดยเฉพาะพวกชาไข่มุก กาแฟ เป็นสินค้าที่ขายดีมาก การเลือกลงทุนเปิดร้านเครื่องดื่มปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์หลายแบรนด์

12

เช่น ชานมไข่มุกบาบูแบร์ , โอเว่อร์ฮีทสมูทตี้ , สยามนมสด , คอฟฟี่ ทูเดย์ , โคโคฟุกุ , ชอบชา , โนมิชา , เอ็มมิลค์นมสดแท้100% , เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด , มารุชา , กาแฟมวลชน ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นในเมนูสินค้า รูปแบบการตลาด และเป็นแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่รู้จักดี มีสาขาทั่วประเทศจำนวนมาก การเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์เครื่องดื่มเหล่านี้เราจะได้รับอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน การสนับสนุนด้านการตลาด สอนเทคนิคการขาย ให้เราสามารถเปิดร้านสร้างกำไรได้ทันที

3.ยารักษาโรค

11

การเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์ซึ่งยารักษาโรคก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่เช่นกัน ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีทั้งโรคระบาด และปัญหาสุขภาพต่างๆ จำนวนมาก คนหันมาสนใจเรื่องการดูแลตัวเองมากขึ้น การเปิดร้านขายยาจึงนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านเภสัชก็อาจจะจ้างบุคลากรที่มีความชำนาญมาช่วยในการเปิดร้าน

หรือถ้าสนใจลงทุนปัจจุบันก็มีแฟรนไชส์น่าสนใจอย่าง ร้านยาเอ็กซ์ต้าพลัสและเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เป็นรูปแบบร้านยาประจำชุมชนที่มีเภสัชกรให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าอย่างมีคุณภาพ และมีรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจน โอกาสคืนทุนไว กำไรไม่ยาก ยิ่งมีทำเลดี โอกาสขายดีก็ยิ่งมากขึ้นด้วย

4.ของใช้จำเป็นภายในบ้าน

10

เป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคเช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ สบู่ ยาสระผม ฯลฯ สินค้าเหล่านี้มีความสำคัญกับการดำรงชีวิตประจำวัน และเป็นสินค้าขายดีที่ไม่อยากซื้อแต่ก็จำเป็นต้องซื้อ

โดยเฉพาะกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลาย การเปิดร้านขายสินค้ากลุ่มนี้ควรเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม การจัดร้านต้องให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ ไม่จำเป็นว่าต้องเปิดขายทางหน้าร้านเท่านั้น เราอาจเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ จะช่วยให้การขายมีโอกาสสร้างกำไรได้มากขึ้นด้วย

5.อาหารแห้ง/วัตถุดิบทำอาหาร

9

อาหารในกลุ่มนี้เช่น ผักสด น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๋ว หมู เห็ด เป็ด ไก่ ฯลฯ บางบ้านอาจแย้งว่าเราไม่ได้ทำครัวเองอาหารที่ว่านี้ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกวัน แต่คนที่อยู่หอพักอพาร์ทเม้น ก็มีสินค้าที่จำเป็นต้องซื้อแทบทุกวันเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

และอาหารปรุงสำเร็จต่างๆ โดยวัตถุดิบเหล่านี้มีจุดเด่นคือใช้สำหรับทำอาหารรับประทาน หรือเป็นสินค้าที่สะดวกง่ายและทำให้มีอาหารที่กินได้อย่างหลากหลาย บรรดาพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายสินค้ากลุ่มนี้จำเป็นที่ต้องซื้อแทบทุกวันทีเดียว

6.น้ำมันรถยนต์/จักรยานยนต์

8

ภาพจาก bit.ly/37LUbkg

รถยนต์กลายเป็นสินค้าสำคัญที่หลายบ้านต้องมีไม่รถยนต์ก็ต้องมีจักรยานยนต์ สิ่งที่ตามมาคือ “ค่าน้ำมัน” ที่เฉลี่ยแล้วรายจ่ายนี้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทขึ้นอยู่กับระยะทางในการใช้งานของรถยนต์และจักรยานยนต์ต่างๆ

ถือเป็นรายจ่ายที่เราต้องคำนวณรวมไปในค่าใช้จ่ายรายวัน สำหรับใครที่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะทราบดีว่ารายจ่ายส่วนนี้ต่อเดือนมีมากขนาดไหน ซึ่งการลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ยากมากด้วย

7.สินค้าบริการต่างๆ

7

รายจ่ายด้านสินค้าบริการคือค่าใช้จ่ายประจำที่คนเราต้องเจอแทบทุกวัน เริ่มจากบางคนขึ้นรถเมล์ก็ต้องจ่ายค่ารถเมล์ ค่ารถมอเตอร์ไซด์ ค่าแท็กซี่ ค่ารถไฟฟ้า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ต่างๆ รายจ่ายจิปาถะเหล่านี้ก่อให้เกิดธุรกิจร้านสารพัดบริการที่เป็นจุดเซอร์วิส ที่เดียวจบครบทุกบริการ ให้คนยุคนี้สามารถเลือกใช้บริการอย่างสะดวกสบาย โดยมีหลายแฟรนไชส์น่าสนใจลงทุน

6

เช่น ร้านน้องฟ้า เซอร์วิส , ซีพลัส เอ็กซ์เพรส , ชิปป์สไมล์เซอร์วิส , ควิกเซอร์วิส โดยแฟรนไชส์เหล่านี้มีระบบการบริหารจัดการในร้านอย่างมืออาชีพ พร้อมสอนเทคนิคการลงทุนให้ผู้สนใจได้เลือกลงทุนเป็นอย่างดี และมีระบบการสนับสนุนด้านการตลาด และมีการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย

8.ขนมและเบเกอรี่

5

ไม่ว่าจะเป็นยุคที่คนรายได้น้อย ชักหน้าไม่ถึงหลัง มีรายรับน้อยกว่ารายจ่ายแต่ของทานเล่น เบเกอรี่ ก็ยังเป็นสินค้าที่ขายดี ขายได้ทุกวัน สำคัญคือมาตรฐานสินค้าบริการ และการหาทำเลในการขายที่เหมาะสม คนที่สนใจลงทุนในสินค้ากลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านการทำเบเกอรี่หรือขนมทานเล่นมาก่อน สามารถเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์หลายแบรนด์ที่น่าสนใจ

4

เช่น ฟันนี่ฟรายส์ , ถั่วแผ่นนคร , กล้วยทอดติดดาว , ชีสซี่ฟรายสแน็ค , มารุวาฟเฟิล , ปังอั้ยยะ ปังปิ้งไส้เยิ้ม , เครปอะเดย์ โดยแต่ละแฟรนไชส์มีสูตรเด็ดเคล็ดลับ อุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน สอนเทคนิคการขาย และเป็นแฟรนไชส์มีชื่อเสียงที่คนส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี การลงทุนสามารถต่อยอดความสำเร็จได้ทันที

9.ผลิตภัณฑ์ความงาม

3

ปัจจุบันกลุ่มคนรักสุขภาพและความงามมีจำนวนเพิ่มขึ้นชัดเจน เรื่องความสวยความงามโดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย เป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้ สินค้าความงามและอาหารสุขภาพจึงขายดีและขายได้เป็นประจำ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าปัจจุบันการลงทุนในธุรกิจนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะแฟรนไชส์ บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้) เป็นทางเลือกที่ดีมาก ให้เราสามารถเปิดร้านเครื่องสำอางออนไลน์ได้แบบไม่ต้องสต็อคสินค้า

ไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง มีเว็บไซต์สวยงามให้เราพร้อมทำการโปรโมท และมีอัพเดทสินค้าใหม่ให้เราอย่างต่อเนื่อง หรือสนใจอยากเปิดเป็นร้านเครื่องสำอางควบคู่กันไปทางแฟรนไชส์ก็มีแพคเกจนี้ให้เลือกลงทุนด้วยเช่นกัน

10.สินค้าราคาประหยัด

2

ในยุคที่รายรับน้อยกว่ารายจ่าย อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ร้านสินค้าราคาประหยัดจึงเป็นสินค้ายอดฮิตที่เติบโตและขายดี การลงทุนเปิดร้านสินค้าราคาประหยัดจึงทำให้มีลูกค้าต่อเนื่องทุกวัน ยิ่งทำเลขายดี ก็ยิ่งมีลูกค้ามากโดยมีแฟรนไชส์น่าสนใจให้เลือกลงทุน

1

เช่น นพรัตน์ 20 , ทัดดาวทุกอย่าง 20 ทั้ง 2 แฟรนไชส์ถือเป็นแบรนด์ดังที่คนรู้จักเป็นอย่างดีและมีสินค้าขายในร้านครบทุกความต้องการทั้งของใช้ในบ้าน เครื่องเขียน เครื่องครัว อุปกรณ์งานช่าง ฯลฯ เรียกว่าขอแค่ขยันและตั้งใจทำจริง เปิดร้านสินค้าราคาประหยัดยุคนี้กำไรดีแน่นอน

ทั้งนี้สินค้าในกลุ่มที่จำเป็นต้องซื้อทุกวัน แม้ความต้องการลูกค้าจะมีต่อเนื่องแต่ในฐานะคนขายหรือพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ดีร่วมด้วยเพื่อให้ร้านค้าของเราและสินค้าของเรามีจุดเด่นเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของลูกค้าซึ่งมีตัวเลือกจำนวนมาก ยุคนี้เราควรทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้มากขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/35Hi75z

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด