การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ที่คุณคาดไม่ถึง!
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยเกิดการชะลอตัวและหยุดชะงัก ลูกจ้าง พนักงานองค์กรภาคธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน ว่างงาน โดนลดเงินเดือน จึงทำให้คนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมองหาช่องทางในการสร้างอาชีพเพื่อหารายได้เพิ่ม
ธุรกิจแฟรนไชส์จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการสร้างอาชีพ เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเป็นธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้
ปัจจุบันตลาดธุรกิจแฟรนไซส์ในประเทศไทยมีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าตลาดเกือบ 3 แสนล้านบาทต่อปี เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตได้ดีในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะเป็นช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มของคนตกงาน ว่างงาน
ซึ่งที่ผ่านกลุ่มคนเหล่านี้เลือกธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เพราะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าการสร้างธุรกิจเอง ไม่ต้องเสียเวลาในการลงผิดลองถูกในการทำให้สินค้าหรือธุรกิจได้รับความนิยมในท้องตลาด ถ้าถามว่าประเภทธุรกิจแฟรนไชส์อะไรบ้าง มีการเติบโตมากที่สุด วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอให้ทราบ
อาหาร-เครื่องดื่ม รั้งอันดับ 1
โดยกลุ่มแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ อาหาร เครื่องดื่มและไอศกรีม มีจำนวนแบรนด์แฟรนไชส์ 149 กิจการเท่ากัน คิดเป็นสัดส่วน 23.95% ของธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งหมด ซึ่งธุรกิจแฟรนไชส์กลุ่มอาหารที่มีการเติบโตขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารแนวสะดวกทาน ร้านไซส์เล็ก สตรีทฟู้ด รถเข็น ใช้พื้นที่น้อย ขายง่าย ส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์ลงทุนต่ำ มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างอาชีพให้กับผู้ที่อยากมีรายได้เพิ่ม หลายๆ แบรนด์เปลี่ยนเป็นคีออส หรือ Food truck
แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีมมาแรงไม่แพ้อาหาร เปิดร้านขายได้หลากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มชา กาแฟ ชานมไข่มุก รวมถึงเครื่องน้ำผลไม้ต่างๆ แต่ละแฟรนไชส์ปรับโมเดลร้านให้เล็กลง ลงทุนต่ำ เข้าถึงง่าย ลูกค้าจะนิยมซื้อกลับบ้าน
การศึกษา เริ่มกลับมาคึกคัก
ส่วนแฟรนไชส์มีการเติบโตอันดับ 3 คือ การศึกษา มีจำนวน 102 กิจการ คิดเป็นสัดส่วน 16.4% ของแฟรนไชส์ทั้งหมด การเติบโตขึ้นของแฟรนไชส์การศึกษาอาจมาจากมีการเปิดภาคเรียน ทั้งเรียนออฟไลน์ และออนไลน์ ทำให้แฟรนไชส์กวดวิชา สอนพิเศษ รวมถึงสถานบันพัฒนาทักษะเด็ก เริ่มกลับมาคึกเปิดแฟรนไชส์กันมากขึ้น
สะดวกส่ง สะดวกซัก สะดวกล้าง แรงไม่หยุด
ขณะที่แฟรนไชส์กลุ่มบริการมีการเติบโตมาเป็นอันดับ 4 ไม่ว่าจะเป็นสะดวกซัก สะดวกส่ง สะดวกล้าง มีจำนวนกว่า 53 กิจการ สัดส่วน 8.52% ซึ่งในยุคผู้บริโภคต้องการความรวดเร็ว สะดวกสบาย ธุรกิจบริการซักอบรีด คาร์แคร์ รวมถึงธุรกิจบริการตู้หยอดเหรียญต่างๆ เป็นธุรกิจบริการที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตมาตั้งแต่ต้นปี 2563 และเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจนถึงปี 2565
ขณะที่แฟรนไชส์สะดวกส่ง ไปรษณีย์เอกชน ขนส่งโลจิสติกส์ รวมถึงเดลิเวอรี่ เป็นอีกหนึ่งประเภทธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมและมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปี 2565 ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค New Normal โดยผู้บริโภคจะหันมานิยมซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ส่งผลต่อธุรกิจบริการขนส่งโลจิสติกส์และไปรษณีย์มีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งการใช้บริการของผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจให้บริการด้านนี้เพิ่มขึ้น โดยมูลค่าตลาดของธุรกิจกลุ่มนี้มีมากกว่า 60,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
สะดวกซื้อ ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า
ด้านแฟรนส์ค้าปลีก สะดวกซื้อ มีจำนวน 40 กิจการ คิดเป็นสัดส่วน 6.43% ถือว่ามีการขยายตัวเช่นเดียวกัน ได้รับความนิยมใช้บริการจากผู้บริโภค ทั้งช่วงการระบาดและหลังการระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2565 เพราะแฟรนไชส์ค้าปลีกส่วนใหญ่จะมีจุดเด่นตรงที่ผู้บริโภคหาซื้อสินค้าและบริการได้ง่าย สะดวก ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา เครื่องสำอาง และอื่นๆ โดยธุรกิจเหล่านี้แทบจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19
อีกทั้งสาขาส่วนใหญ่ของแฟรนไชส์กลุ่มค้าปลีกจะอยู่นอกห้างสรรพสินค้า ตามแหล่งชุมชนที่พักอาศัย ขายออนไลน์และออฟไลน์ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้สะดวกทุกเพศทุกวัย มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตและได้รับความนิยมจากนักลงทุนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์โอกาสทางธุรกิจ ความงาม งานพิมพ์ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมๆ แล้วมีจำนวนรวมกันกว่า 80 กิจการ
ข้อมูลการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์บนเว็บไซต์ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://bit.ly/3azQVfC พบว่า ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ในไทยมีทั้งสิ้น 622 กิจการ แบ่งตามประเภท ดังนี้
- แฟรนไชส์อาหาร 149 กิจการ
- แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีม 149 กิจการ
- แฟรนไชส์การศึกษา 102 กิจการ
- แฟรนไชส์บริการ 53 กิจการ
- แฟรนไชส์เบเกอรี่ 52 กิจการ
- แฟรนไชส์ค้าปลีก 40 กิจการ
- แฟรนไชส์โอกาสทางธุรกิจ 29 กิจการ
- แฟรนไชส์ความงาม 25 กิจการ
- แฟรนไชส์งานพิมพ์ 14 กิจการ
- แฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ 8 กิจการ
- แฟรนไชส์หนังสือ, วิดีโอ 1 กิจการ
#แฟรนไชส์ไทยมาใหม่ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 17%
ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564) ธุรกิจแฟรนไชส์ของประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 575 กิจการ แบ่งตามประเภทได้ดังนี้
- อาหาร 181 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 31.48)
- เครื่องดื่ม 136 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 23.65)
- การศึกษา 101 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 17.57)
- ค้าปลีก 88 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 15.29)
- บริการ 44 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 7.66)
- สปาและความงาม 25 กิจการ (คิดเป็นร้อยละ 4.35)
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3o0UA9w