Step by Step เปิดร้านทำเล็บ
การเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเปิดร้านบริการเราก็ต้องเลือกที่ลูกค้ามีความต้องการต่อเนื่องและบางกิจการนอกจากมีเงินทุนก็ยังต้องมีความรู้และประสบการณ์ในด้านนั้นๆ อย่างเช่นการเปิดร้านทำเล็บที่มีบริการสำคัญคือการจัดเล็บ แต่งเล็บ เพ้นท์เล็บ ซึ่งธุรกิจนี้ถือว่าสร้างรายได้ค่อนข้างดีหากอยู่ในทำเลที่เหมาะสม www.ThaiSMEsCenter.com มี Step by Step เปิดร้านทำเล็บ เกี่ยวกับการเปิดร้านทำเล็บมาฝากกัน
เตรียมตัวเปิดร้านเพ้นท์เล็บต้องรู้จักอะไรบ้าง
1.ความชอบในอาชีพ
เป็นเบื้องต้นของทุกธุรกิจหากใจไม่รักแนะนำว่าอย่าเสี่ยงโดยเฉพาะงานเพ้นท์เล็บที่เป็นเหมือนศิลปะอย่างหนึ่งคนทำต้องใจเย็นและใจรักเท่านั้น
2.มีทำเลที่เหมาะสม
ทำเลของร้านเพ้นท์เล็บที่เหมาะสมนั้นควรอยู่ในย่านชุมชนใกล้ออฟฟิศ สถานศึกษา หรือตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีลูกค้าสำคัญเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
3.มีเงินทุนเริ่มต้น
อุปกรณ์ของร้านเพ้นท์เล็บที่สำคัญคือพู่กันเพ้นท์เล็บ สีอะคริลิค น้ำยาทาเล็บ น้ำยาเคลือบเล็บ และอุปกรณ์ทั่วไปเช่นตะไบเล็บ, แปรง ,Pusher ,คีมแต่งเล็บ, สำลี เงินทุนเริ่มต้นจึงไม่สูงมาก
แต่ในกรณีที่บางร้านใช้เครื่องเพ้นท์เล็บก็อาจทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้นอีกได้ โดยไม่นับรวมค่าเช่าพื้นที่หากมีเงินทุนเบือ้งต้น 5,000 บาทก็เริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ บางรายเริ่มต้นแบบโต๊ะตัวเดียวก็ยังทำกำไรได้ขึ้นอยู่กับทำเล
เมื่อเราตรวจสอบตัวเองจนแน่ใจว่าใจรัก และหาทำเลที่เหมาะสมได้ รวมถึงมีเงินทุนเริ่มต้นทีนี้ก็ลองมาเลือกรูปแบบร้านเพ้นท์เล็บในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองดู
1.ร้านขนาดเล็ก
ภาพจาก goo.gl/DtS2qN
ร้านลักษณะนี้มักจะใช้เงินทุนในการเริ่มต้นไม่มาก อุปกรณ์ก็ไม่มาก จะพบได้มากตามตลาดนัดหรือตามแหล่งท่องเที่ยวอย่างถนนคนเดิน บริการหลักๆในร้านขนาดเล็กคือการเพ้นท์เล็บ ต่อเล็บ อัตราค่าบริการนั้นประมาณ 100-200 บาท
2.ร้านขนาดกลาง
ภาพจาก goo.gl/xynEEU
อาจเป็นห้องขนาดเล็กในตลาดหรือตามอพาร์ทเม้น ร้านลักษณะนี้มีการลงทุนเรื่องอุปกรณ์ที่มากขึ้น ค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่มีข้อดีคือรับลูกค้าได้มากขึ้นและหากเป็นร้านที่ดีที่ประทับใจก็จะทำให้ลูกค้าแนะนำคนมาใช้บริการได้ง่ายขึ้นด้วย
3.ร้านขนาดใหญ่
ภาพจาก goo.gl/6apyYj
เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงจะเป็นร้านระดับพรีเมี่ยมที่มีบริการมากมายนอกจากทำเล็บ เพ้นท์เล็บ ก็อาจจะมีสปามือ เท้า เพิ่มขึ้นด้วย อัตราค่าบริการของร้านขนาดใหญ่นี้ราคาตั้งแต่ 500 ไปจนถึงหลักพัน ข้อดีคือภาพลักษณ์ของร้านจะดีมาก ยิ่งแต่งร้านได้ดีจะเพิ่มความน่าสนใจ ที่สำคัญมีค่าตอนแทนสูงแต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน
เมื่อเราเลือกรูปแบบร้านในสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือการเริ่มต้นเปิดร้านโดยข้อดีของร้านเพ้นท์เล็บคือเป็นกิจการที่ไม่วุ่นวาย แต่หากเจ้าของธุรกิจมีใบรับประกันคุณภาพหรือใบที่ผ่านงานด้านนี้มาก่อนก็สามารถเอามาวางโชว์เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าได้และการจะเปิดร้านเพ้นเล็บท์ให้มีกำไรได้ดีก็ต้องมีเทคนิคที่น่าสนใจดังนี้
1.โชว์ศิลปะเป็นจุดขาย
เพ้นท์เล็บคือศิลปะชนิดหนึ่งหากเจ้าของร้านมีประสบการณ์และมีหัวทางศิลปะจะสามารถกำหนดโทนสี ออกแบบลวดให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้ นั่นคือจุดขายประการแรกที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษที่มากกว่าร้านอื่น
2.นำเสนอผลงานการเพ้นท์เล็บในแบบต่างๆ
ลูกค้าบางรายแค่ดูภาพตัวอย่างในเมนูอาจไม่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกแบบและลายของเล็บได้ง่ายขึ้นควรมี ตัวอย่างของการเพ้นท์เล็บในลักษณะต่างๆ จัดโชว์ไว้นอกจากเพิ่มความสวยงามในร้านยังทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น
ภาพจาก goo.gl/qSEKae
3.อุปกรณ์ต้องมีคุณภาพและปลอดภัย
จุดขายที่น่าสนใจอีกอย่างคือการชูความปลอดภัยของผู้ใช้บริการด้วยน้ำยาต่างๆที่ไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้บริการ การใส่ใจรายละเอียดที่เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่สำหรับลูกค้าแล้วคือความประทับใจที่ยิ่งใหญ่มาก
4.รับประกันความพอใจให้ลูกค้า
เป็นบริการเสริมหลังการขายที่ร้านควรการันตีความพอใจให้ลูกค้าว่าในระยะเวลากี่วันเล็บที่เพ้นท์จะสวยคงทนไม่หลุดลอก หากมีปัญหาในระยะเวลาดังกล่าวมีบริการทำเล็บให้ใหม่หรือยินดีคืนเงินเป็นต้น
5.มีชุดเพ้นท์เล็บง่ายๆขายให้คนที่สนใจอยากทำเองที่บ้าน
ลูกค้าหลายคนอยากที่จะทำเล็บเองได้ ทางร้านก็ควรมีบริการเสริมกับการจัดเซตอุปกรณ์เพ้นท์เล็บง่ายๆ และแนะนำการทำแบบง่ายๆให้ลูกค้าสามารถทำเองที่บ้านได้ จะสร้างความประทับใจที่ลูกค้าจะไม่รู้สึกว่าเราจะหาแต่กำไรเกินไป
รายได้จากการเปิดร้านเพ้นท์เล็บ
ภาพจาก goo.gl/MXkNpL
รายได้ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่เข้าร้านโดยปกติค่าบริการนั้นจะมีตั้งแต่ 100 บาทคือการทาสีเล็บทั่วไป ไปจนถึงการเพ้นท์เล็บ ต่อเล็บ ที่ราคาเริ่มตั้งแต่ 200-500 บาท บางร้านอาจมีบริการเปิดสอนให้ผู้ที่สนใจแบบเป็นคอร์สที่สอนจนกว่าจะเป็นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่ดี
โดยเฉพาะในย่านแหล่งท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวต่างชาติจะนิยมในการเข้าร้านเพ้นท์เล็บมากที่สำคัญจะได้ราคาดีกว่าทำให้ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆเราจะเห็นร้านเพ้นท์เล็บเปิดกิจการกันอย่างมากมาย
ร้านเพ้นท์เล็บไม่ใช่ธุรกิจที่ใครจะเริ่มต้นก็ทำได้ ก่อนจะเปิดร้านได้จำเป็นที่ต้องมีการฝึกฝนทักษะจนมั่นใจ หากเราเป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้ก่อนเปิดร้านก็อาจจะลองทำเล็บให้กับพ่อแม่ เพื่อน เป็นการฝึกฝีมือในเบื้องต้น ธุรกิจนี้ยิ่งคนทำมีประสบการณ์ก็จะทำให้คิดสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้นและขายงานได้ในราคาที่แพงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3cetrcj
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)